เถ้าแก่น้อย ระดมสินค้าใหม่ ดันรายได้ปี’65 โต 10%

เถ้าแก่น้อย

“เถ้าแก่น้อย” เร่งสานต่อกลยุทธ์ Go Firm ปรับตัว-ยืดหยุ่นรองรับการขยายธุรกิจ เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ (NPD) ตั้งเป้ารายได้ปี’65 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ขณะที่ไตรมาส 1 ทำกำไรสุทธิโต 11.3%

วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้าเถ้าแก่น้อย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในช่วงที่เหลือของปี 2565 บริษัทคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยคงเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน

พร้อมเตรียมพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ (NPD) ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สาหร่ายทอด สาหร่ายอบกรอบรสชาติใหม่ ๆ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สาหร่าย (Non-seaweed) รวมถึงเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ Just Drink ที่จะออกรสชาติเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายและเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภค

ขณะที่ตลาดต่างประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจานำสินค้าไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในสหรัฐอเมริกา และอยู่ระหว่างการเจรจาหาพาร์ตเนอร์เพื่อแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติม คาดว่าจะได้ความชัดเจนเร็ว ๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายในตลาดสหรัฐอเมริกาในปีนี้เติบโต 50-60% ถึงแม้ปัญหาค่าระวางขนส่งสินค้าในการจัดส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง บริษัทได้มีการบริหารจัดการและหารือร่วมกับคู่ค้าเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการดำเนินงาน

พร้อมกันนี้ บริษัทยังเจอความท้าทายรอบด้าน ทั้งมาตรการล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยบริษัทได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว ทำให้วิถีการใช้ชีวิตของผู้บริโภคเปลี่ยน บริษัทจึงต้องปรับตัวและฝ่าฟันธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 968.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายรวม 919.9 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 62.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 56.1 ล้านบาท โดยบริษัทได้เร่งสานต่อกลยุทธ์ “Go Firm” เพื่อให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนได้ตามเป้าหมาย โดยได้ปรับองค์กรให้กระชับ คล่องตัว และรวดเร็วขึ้น (Lean) เพื่อลดต้นทุน โดยเฉพาะการผลิตสินค้า ที่จะใช้ระบบเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาทดแทนแรงงาน การบริหารจัดการวัตถุดิบให้อยู่ในระดับที่เพียงพอโดยมีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้