นิสสัน “อัลเมร่าอี-พาวเวอร์” มาแน่ เร่งเสริมแกร่งดีลเลอร์

นิสสัน อัลเมร่า

นิสสันลั่นพร้อมลุยตลาดอีโคคาร์ อี-พาวเวอร์ เตรียมศึกษา “อัลเมร่า” ตอบรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่เลิกส่งเสริมรถเล็กประหยัดน้ำมัน เข้มเดินหน้าสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งต่อเนื่อง ชี้เทรนด์ “อีวี” มาแน่แต่ต้องใช้เวลาอีกระยะ มั่นใจบริษัทแม่ให้ไทยเป็นฐานผลิตแห่งที่ 3 ต่อจากญี่ปุ่น-อเมริกา เดินเครื่อง “วันไพรซ์โพลิซี” สร้างความแข็งแกร่งดีลเลอร์เน็ตเวิร์ก

นายมาซาโอะ สึสึมิ รองประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นิสสันกำลังศึกษาเพื่อเตรียมบุกตลาดอีโคคาร์ อี-พาวเวอร์ เพื่อเสนอทางเลือกที่ดีให้กับกลุ่มลูกค้าชาวไทย ทั้งนี้น่าจะเปิดตลาดได้ภายในเร็ว ๆ นี้ ระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา นิสสัน อัลเมร่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ซีดานที่ได้รับความนิยมสูงสุด มียอดจำหน่ายไปแล้วกว่า 240,000 คัน

มาซาโอะ สึสึมิ รองประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ตอบรับภาษีสรรพสามิตใหม่

นายสึสึมิกล่าวอีกว่า เทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ คือขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน มีความโดดเด่นกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระบบไฮบริดแบบดั้งเดิม ที่สำคัญการผลักดันอัลเมร่า อี-พาวเวอร์ เป็นการรับมือโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ของรัฐบาลที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มรถยนต์ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า และจะเลิกสนับสนุนรถยนต์นั่งประเภทประหยัดพลังงานแบบมาตรฐานสากล (ecocar) หรืออีโคคาร์

ทั้งนี้นิสสันยังได้เปิดไลน์ประกอบแบตเตอรี่ สำหรับนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ที่โรงงานนิสสัน พาวเวอร์เทรน ประเทศไทย (NPT) จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสายการประกอบแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น และเป็น 1 ในโรงงานนิสสัน 4 แห่งทั่วโลกก็พร้อมที่จะรองรับรถยนต์กลุ่มอี-พาวเวอร์อื่น ๆ ด้วย

บ.แม่ดันนิสสันไทยฮับอีวี

รองประธานนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ยังกล่าวอีกว่า เทรนด์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ เชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมาแทนรถยนต์สันดาปแน่ แต่อาจจะต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม นิสสันมีรถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลก เพียงแต่ฐานผลิตหลักตอนนี้มีแค่ 2 ประเทศ คือ ญี่ปุ่นและอเมริกา แน่นอนว่าประเทศไทยบริษัทแม่กำลังพิจารณาให้เป็นฐานผลิตรถอีวีแห่งที่ 3 รองรับตลาดในภูมิภาคนี้ แต่คงไม่ใช่ปีนี้หรือปีหน้า เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าต้องการความปลอดภัยสูง ดังนั้นการผลิตจะต้องได้มาตรฐาน ที่ผ่านมามีเคสรถยนต์ไฟฟ้าไฟไหม้มากถึง 300 เคส แต่ในจำนวนนั้นไม่มีแบรนด์นิสสัน ดังนั้นมาตรฐานความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก ๆ

เร่งสร้างแบรนด์

นายสึสึมิยังกล่าวอีกว่า แบรนด์นิสสันในต่างประเทศแข็งแกร่งมาก แต่ในเมืองไทยอาจจะต้องผลักดันกันอีกมาก ดังนั้นการสร้างแบรนด์จึงเป็นเป้าหมายหลักที่ต้องเร่งมือ ก่อนนี้ท่านประธานอิซาโอะ เซคิกุจิ เคยกล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมานิสสันพยายามที่จะขายให้ได้จำนวนมากที่สุด และมีการให้ส่วนลดมากกว่าแบรนด์อื่น ๆ ซึ่งตรงนี้ทำให้แบรนด์นิสสันไม่สามารถสร้างความแข็งแกร่งได้เลย คนมองว่านิสสันเป็นแบรนด์ราคาถูก แน่นอนว่าเราต้องการเปลี่ยนการรับรู้นี้ รวมถึงวิธีดำเนินธุรกิจและการตลาด

ล่าสุดนิสสันได้มีการเลือกใช้แบรนด์แอมบาสซาเดอร์เข้ามาช่วย ทั้ง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” สำหรับรถยนต์นิสสัน นาวารา และ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” กับนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ซึ่งเชื่อแบรนด์แอมบาสซาเดอร์น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนใหม่ และจากนี้ไปจะได้เห็นสิ่งที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงของนิสสันมากขึ้น

เพิ่มความแกร่งดีลเลอร์เน็ตเวิร์ก

ส่วนประเด็นที่นิสสันพยายามนำ “วันไพรซ์โพลิซี” มาใช้เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับดีลเลอร์เน็ตเวิร์กนั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ประเทศไทยต้องเผชิญกับโควิด มีการล็อกดาวน์ ซึ่งการซื้อขายออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน นิสสันจึงเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะนำนโยบายนี้มาใช้ ซึ่งดีลเลอร์ส่วนใหญ่เห็นดีเห็นงามกับนโยบายนี้ เชื่อว่านโยบายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับดีลเลอร์ทั้งหมด รวมทั้งลูกค้าของนิสสันด้วย