ปอร์เช่ โชว์ยอดขายรถไตรมาสแรกทะลุ 8 หมื่นคัน

ปอร์เช่

ปอร์เช่ เผยยอดส่งมอบรถยนต์ไตรมาสแรก โตทุกตลาด ขายได้ 80,767 คัน โดยจีนเป้นตลาดใหย่สุด มีขายกว่า 2 หมื่นคัน  ส่วนยอดรถ EV “ไทคานน์” ขายลดลง 2 ผลจากปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วน

วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 นาย Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมการบริหารผู้กำกับดูแลส่วนงานขายและการตลาดของ ปอรNเช่ เอจี (Porsche AG) เปิดเผย ผลการดำเนินธุรกิจของปอร์เช่ในช่วง 3 เดือนแรก พบว่า มียอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ให้กับลุกค้าทั่วโลกเพิ่มขึ้น  18%  หรือมียอดขาย 80,767 คัน ซึ่งซึ่งถือเป็นความสำเร็จและผลงานที่ยอดเยี่ยม  ที่ปอร์เช่มียอดจำหน่ายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในตลาดทุกภูมิภาค ถึงแม้เรายังต้องเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และข้อจำกัดในการจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่

โดยยอดขาย 80,767 คันนี้ แบ่งเป็น ในทวีปยุโรป 18,420 คัน คิดเป็นสัดส่วน  14%ส่วนใน เยอรมนี ตัวเลขยอดจำหน่ายยังคงมีทิศทางเพิ่มสูงขึ้น ทำได้ที่ 8,247 คัน โต 19%  ส่วนจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของปอร์เช่ มียอดถึง 21,365 คัน โต 21 %

ขณะที่อเมริกาเหนือ มียอดอยู่ที่ 19,651 คัน โต 30%  ส่วนภูมิภาคอื่น และตลาดเกิดใหม่ มียอดที่ 13,084 คัน เพิ่มขึ้น 5% โดยภูมิภาคที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Porsche Asia Pacific สร้างสถิติยอดจำหน่ายสูงสุดเท่าที่เคยมีมา โต  31%

ปอร์เช่และเมื่อแบ่งตามประเภท พบว่ารถสปอร์ต เอสยูวี อย่างมาคันน์ (Macan) มียอดส่งมอบ 23,880 คัน โต 30% ขณะที่คาเยนน์ (Cayenne) ทำได้  23,387 คัน โต 23%, 911 มียอด 11,063 คัน โต 19% และ พานาเมร่า (Panamera)  มียอด 8,479 คัน โต 10%

ส่วนรถยนต์รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าไทคานน์ (Taycan)  มียอด  9,152 คัน ลดลง 3% เป็นผลมาจากภาวะการขาดแคลนชิ้นส่วนอะไหล่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ยังคงเป็นปัญหาหนักต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

รถสปอร์ตปอร์เช่ 718 บ๊อกสเตอร์ (Boxster) และ 718 เคย์แมน (Cayman) มียอดจำหน่ายรวมที่ 4,806 คัน

“ทั้งนี้เรามุ่งเน้นไปที่การสร้างเสริมคุณค่าเพื่อเติบโต เป้าหมายแรกที่เราตระหนักถึงอยู่เสมอคือความต้องการของตลาดต้องนำหน้ากำลังการผลิต การเริ่มต้นที่ดี ก่อให้เกิดความมั่นใจต่อภารกิจที่รออยู่ตลอดระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ ขณะเดียวกันเรายังคงดำเนินงานภายใต้ความไม่ประมาท และยืดหยุ่นพร้อมปรับตัวเพื่อรับมือต่อสถานการณ์แวดล้อมที่เต็มไปด้วยความท้าทาย”