ยักษ์ใหญ่ปิกอัพ จ้องโดดร่วมวงกระบะอีวี รับสิทธิอัตราภาษี 0%

วงการคาดยักษ์ใหญ่ปิกอัพ “โตโยต้า อีซูซุ เอ็มจี” โดดร่วมวงปั้นกระบะอีวีลงตลาด หลังภาษีสรรพสามิตคลอดรับสิทธิ 0% ผู้ประกอบการหวั่นแบตเตอรี่พัฒนาไม่ทัน

หลังราชกิจจาฯ ประกาศภาษีสรรพสามิตล่าสุด มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ได้รับประโยชน์ โดยผู้ประกอบที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมรถอีวี สามารถนำรถเข้ามาขายก่อนแล้วผลิตชอเชยภายหลังตามเงื่อนไข ได้รับสิทธิลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% ส่วนรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภทประหยัดพลังงานแบบพลังงานไฟฟ้า (Electric Powered Vehicle) หรือรถอีวี จะแบ่งเป็น 2 ช่วงระยะเวลา คือ ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2565-31 ธ.ค. 2568 จะจัดเก็บภาษีในอัตรา 8% และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป จะจัดเก็บภาษี 10%

รถยนต์กระบะแบบพลังงานไฟฟ้า หรือกระบะอีวี แบ่งเป็น 2 ช่วงระยะเวลา คือ ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2565-31 ธ.ค. 2568 จัดเก็บภาษี 0% จากนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569-31 ธ.ค. 2578 จัดเก็บภาษี 2% และ 6.รถยนต์กระบะแบบเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Powered Vehicle) จัดเก็บภาษี 0-1% กรณีที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ จะแบ่งเป็น 2 ช่วง 9 มิ.ย. 2565-31 ธ.ค. 2568 และ 1 ม.ค. 2569-31 ธ.ค. 2578 จะจัดเก็บภาษี 5%

นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต กรมสรรพสามิต กล่าวว่า โครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่จะทำให้รถกระบะอีวีลดลงเหลือ 0% ทันที แล้วไปปรับขึ้นเป็น 2% ในปี 2569 โครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่นี้ กรมสรรพสามิตไม่ได้คาดหวังเรื่องการเก็บรายได้ภาษีที่จะเพิ่มขึ้น แต่มุ่งหวังการปรับเพื่อให้การปล่อยคาร์บอน ลดลง และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศมากกว่า

แหล่งข่าวผู้ผลิตรถยนต์ เปิดเผยว่า อัตราภาษี 0% น่าจะเป็นแรงจูงใจให้หลาย ๆ ค่ายพร้อมที่จะคลอดกระบะอีวี กันมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ผลิตรายใหญ่อย่างโตโยต้าและอีซูซุ เพราะปิกอัพแต่ละปีมีสัดส่วนการขายในสัดส่วนของตลาดราว ๆ 55% หรือราว ๆ 4 แสนคันต่อปี

แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากค่ายโตโยต้า ยังมองว่า รถปิกอัพส่วนใหญ่เป็นรถใช้งานหนัก การพัฒนาจากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปสูงมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 100% จะทำให้รถมีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการใช้งานบางพื้นที่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องคิดให้รอบครอบ อีกอย่างที่น่ากังวลคือ แบตเตอรี่ยังมีราคาแพงซึ่งซัพพลายเออร์ยังต้องใช้เวลาพัฒนาอีกพอสมควร และราคาแบตเตอรี่เป็นสัดส่วนเกือบครึ่งของราคารถ ดังนั้นหากใช้งานไปสักระยะมูลค่าของรถจะลดลงจากความเสื่อมแบตเตอรี่ซึ่งจะมีผลต่อราคาขายต่อ

รื้อใหญ่ภาษีรถยนต์ทั้งระบบ ดันอีวี-อุ้มรถสันดาปต่ออีก 3 ปี

ลูกค้าอีวีรออีกเดือนได้รถชัวร์ MG เร่งส่งมอบ 400 คันจ่อรับออร์เดอร์ใหม่

ในขณะที่ก่อนหน้านี้นายทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เคยให้สัมภาษณ์ว่า เทรนด์รถอีวีที่กำลังมา ทางอีซูซุกำลังพิจารณาเช่นกันว่าเมื่อไหร่จะเป็นเวลาที่เหมาะสม ลูกค้าแต่ละประเภทมีลักษณะการใช้งานอย่างไร กำลังศึกษาเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง เพราะลักษณะการใช้งานของรถปิกอัพมีลักษณะพิเศษ ตอนนี้อีซูซุขายรถปิกอัพแบบสันดาปเป็นหลักยังไม่มีอีวี และลูกค้าไม่เคยถามถึงอีวีด้วย แต่อีซูซุมีเทคโนโลยีที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งในเชิงพาณิชย์ที่ใช้งานจริงและอยู่ในระหว่างการทดลอง

เช่นเดียวกับนายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เอ็มจี มีปิกอัพอีวีทำตลาดในประเทศจีน ซึ่งได้รับความนิยมพอสมควร ทั้งนี้หากสำเร็จพบว่าลูกค้าที่มีความสนใจ เอ็มจีก็พร้อมที่จะเอาเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม