ตลาดมอเตอร์ไซค์อีวีเนื้อหอม “มหากิจศิริ” ส่ง P80GO สู้ศึก

มอเตอร์ไซค์อีวีแรงไม่หยุด คาดปีนี้ทะลุหมื่นคัน ชี้สัดส่วนไรเดอร์ขยายตัวต่อเนื่อง ด้านผู้ประกอบเร่งแข่งขยายตู้สวอปแบตเตอรี่รองรับ 3 ค่ายยักษ์ “เอช เซม-วินโนนี่-สวอพแอนด์โก” ลั่นปีนี้ทะลุ 300 แห่งทั่ว กทม.-ปริมณฑล กลุ่มทุนใหญ่ “มหากิจศิริ” ทุ่มเข็นมอเตอร์ไซค์อีวี “P80 GO” ลงตลาด เผยเจรจาจ้างประกอบในประเทศรับเงินอุดหนุน 1.8 หมื่นบาทต่อคัน

นอกจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องรวดเร็ว ประกอบกับคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติมีมาตรการสนับสนุนผู้ผลิตและผู้ใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (อีวี) โดยเฉพาะเงินอุดหนุนจำนวน 1.8 หมื่นบาท ส่งผลให้ตลาดมอเตอร์ไซค์อีวีขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้น่าจะพุ่งแรงแตะหมื่นคัน

ตลาดไรเดอร์พุ่งพรวด

แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เปิดเผยว่า เทรนด์และความต้องการใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการใช้งานในเชิงพาณิชย์ อาทิ กลุ่มไรเดอร์ หรือกลุ่มโลจิสติกส์ ก่อนหน้านี้ ตลาดใหญ่ของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะเป็นโฮมยูส แต่ตอนนี้สัดส่วนไรเดอร์พุ่งขึ้นชัดเจน น่าจะทะลุ 60% ของตลาด

ฮอนด้าก็เร่งขยายตลาดนี้ โดยปัจจุบันบริษัทได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ นำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าฮอนด้า PCX EV จำนวน 150 คัน และ Benly e จำนวน 100 คัน เข้ามาทดลองใช้ในประเทศไทย ติดตั้งกล่องเก็บของได้หลากหลายประเภทเพื่อการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบ และยังได้ร่วมมือขยายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วย

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ยามาฮ่ามีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่ปี 2020 ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากผลิตภัณฑ์ยามาฮ่าลง 16% และภายในปี 2050 ตั้งเป้าที่จะลดลงให้ได้ถึง 90% ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับการทำตลาดมอเตอร์ไซค์อีวี ซึ่งที่ผ่านมาได้นำ ยามาฮ่า E01 มาทดสอบในไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ในคลาส 125 ซีซี ทั้งในระยะทางใกล้และระยะทางไกล คาดว่าน่าจะเริ่มจำหน่ายได้ภายในปี 2566

ด้านนายวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัดผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้ให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เอช เซม เปิดเผยว่า ตลาดมอเตอร์ไซค์อีวีปีนี้ขยายตัวเร็วมาก ถึงตอนนี้ตัวเลขจดทะเบียนเฉียด 4,000 คัน เฉพาะไตรมาสแรกของปี 2565 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเอช เซม มียอดจดทะเบียนโตขึ้นกว่า 4 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา เหตุผลคงมาจากราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้นทุกวัน ประกอบกับความไว้วางใจของลูกค้าที่เชื่อมั่นในสินค้าและงานบริการของเอช เซม โดยเฉพาะระยะหลังเอช เซม มีบริการให้เช่าแบบธุรกิจ นิติบุคคล และบุคคลทั่วไป มีมอเตอร์ไซค์อีวี 2 รุ่นให้บริการ คือ H SEM MOBILA S และ H SEM WINGS ผ่าน K+ Market เพียงวันละไม่ถึง 100 บาท นอกจากค่าเช่าถูกแล้ว เอช เซม ยังดูแลเรื่องงานบริการ มีรถสำรองใช้ระหว่างรอซ่อม ตลอด 24 ชม. เปลี่ยนแบตเตอรี่แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ทุกสถานี ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมประกันอุบัติเหตุ และ พ.ร.บ.อีกด้วย

แข่งขยายตู้สวอปแบต

นายวันชัยกล่าวว่า เอช เซม ถือเป็นผู้นำ EV ecosystem แบบครบวงจร ด้วยความพร้อมของสินค้า สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ และงานบริการตลอด 24 ชม. ตอนนี้เร่งขยายสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่เรียกว่า H SEM POWER STATION ไปตามธนาคาร ปั๊มน้ำมัน และคอมมิวนิตี้มอลล์ต่าง ๆ ให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดให้สามารถขับขี่ได้อย่างต่อเนื่องไร้รอยต่อ พร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะ H SEM MOVE แอปพลิเคชั่นที่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยการสแกนผ่านแอป สามารถตรวจสอบพลังงานแบตเตอรี่ในตู้ชาร์จและนำทางไปยังสถานีที่ต้องการด้วย GPS ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

“ตลาดมอเตอร์ไซค์อีวีตอนนี้แข่งกันที่ใครมีบริการสวอปแบตได้มากกว่ากัน เพราะกลุ่มไรเดอร์ใช้งานเยอะ และคงไม่มีเวลามานั่งรอชาร์จแบตแน่นอน เป้าหมายเราปีนี้จะขยายให้ครบ 100 จุด ทั้ง กทม.และปริมณฑล ตอนนี้มีแล้วกว่า 70 ตู้ H SEM POWER STATION ใช้งานง่าย รวดเร็วใช้เวลาแค่ 3 นาที ลูกค้าก็สามารถวิ่งงานต่อได้สบาย ๆ”

ขณะที่ผู้บริหารบางจาก ซึ่งให้บริการ “Winnonie” ตู้สับเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้ายืนยันว่า พร้อมทะยานสู่ 100 สถานีภายในปี 2565 เพื่อให้บริการกลุ่มผู้ใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง กทม.และปริมณฑล

เช่นเดียวกับ สวอพ แอนด์ โก (Swap&Go) แพลตฟอร์มให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แบบไม่ต้องรอชาร์จในเครือโออาร์ ก็วางเป้าขยายการติดตั้งสถานี Swap&Go สำหรับสวอปแบตเตอรี่ จำนวน 22 แห่ง ภายในปี 2564 ให้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 150 กิโลเมตร ในเขตกรุงเทพมหานคร และขยายเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องโดยจับมือกับทุกกลุ่มธุรกิจ

มหากิจศิริเข็น P80 GO ลงตลาด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมอเตอร์ไซค์อีวี หลัก ๆ ผู้ประกอบการจะเลือกนำเข้ามาจากประเทศจีน และไต้หวันมาจำหน่าย ส่วนที่ผลิตในประเทศชัดเจน ตอนนี้มีกลุ่มเอช เซม และที่เพิ่งทำเอ็มโอยูกับกรมสรรพสามิต เพื่อเข้าร่วมโครงการสนับสนุนมอเตอร์ไซค์อีวี เพื่อรับเงินอุดหนุน 18,000 บาท และลดภาษีสรรพสามิตอีกจำนวนหนึ่ง ได้แก่ ค่าย “เดโก” ซึ่งใช้เทคโนโลยีจากไต้หวัน

ล่าสุดมีข่าวว่า ตระกูลมหากิจศิริ ประกาศจะบุกตลาดมอเตอร์ไซค์อีวีอีกราย โดยมีแผนส่งแบรนด์ “P80 GO” ลงตลาด และเตรียมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการปลายเดือนนี้

แหล่งข่าวจากพีเอ็ม กรุ๊ป กิจการลงทุนระดับแสนล้านของตระกูล “มหากิจศิริ” เปิดเผยว่า ขณะนี้กระบวนการดำเนินการตั้งบริษัทเพื่อผลิตและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า อยู่ระหว่างการเจรจากับโรงงานผู้ผลิต เพื่อวางแผนว่าจะเริ่มผลิตได้เมื่อไร จำนวนที่จะผลิต รวมทั้งวันที่คาดว่าจะได้เริ่มจำหน่ายในเมืองไทย และคาดว่าจะใช้ชื่อ “P80” เพื่อเป็นการต่อยอดแบรนด์ที่ตั้งเป้าไว้ว่า จะให้ P80 เป็นโกลบอลแบรนด์

ทั้งนี้ กิจการดังกล่าวจะอยู่ภายใต้การดูแลของนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ (กึ้ง) บุตรชายคนเดียวของนายประยุทธ มหากิจศิริ ปัจจุบันบริหารกิจการของพีเอ็ม กรุ๊ป ด้านการลงทุน และด้านการเงิน ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ซึ่งดำเนินธุรกิจการขนส่งทางเรือ ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร และดูแลกิจการผลิตภัณฑ์ P80 เครื่องดื่มลำไยสกัดเข้มข้นธรรมชาติ 100%