เอมิเรตส์นำร่องการบินยั่งยืน

Photo by GIUSEPPE CACACE / AFP
คอลัมน์ SD Talk

เที่ยวบินแรกของเอมิเรตส์ที่ใช้เชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน (sustainable aviation fuel : SAF) ซึ่งให้บริการโดย Shell Aviation (เชลล์) ได้ออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติดูไบ (DXB) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในเที่ยวบิน EK 412 ของเอมิเรตส์มุ่งหน้าสู่ซิดนีย์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเที่ยวบินแรก ๆ ของโลกที่ปฏิบัติการด้วย SAF

เชลล์ได้จัดส่ง SAF แบบผสมจำนวน 315,000 แกลลอน เพื่อใช้ที่ศูนย์กลางของสายการบินเอมิเรตส์ในดูไบ ถือเป็นครั้งแรกของการจัดหา SAF ให้กับเอมิเรตส์ในดูไบ ส่งผลให้สายการบินเอมิเรตส์สามารถขับเคลื่อนภารกิจการทดลองต่าง ๆ ได้มากมายในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

SAF แบบผสมที่เชลล์จัดส่งให้กับระบบเติมเชื้อเพลิงที่สนามบินดูไบประกอบด้วยอัตราส่วน SAF 40% และเชื้อเพลิง Jet A-1 60% โดยคุณลักษณะทางเคมีในอัตราส่วนดังกล่าว เหมือนกับเชื้อเพลิงเครื่องบินทั่วไป และสามารถรวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของเชื้อเพลิงของสนามบินที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น รวมถึงในเครื่องยนต์ของฝูงบินของสายการบินเอมิเรตส์ทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องดัดแปลงใด ๆ

ทั้งนี้ SAF จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 80% ตลอดอายุการใช้งาน เมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงเครื่องบินทั่วไป นอกจากนี้ สายการบินเอมิเรตส์ยังได้ติดตามการส่งมอบ การใช้งาน และผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมของ SAF ผ่านทาง avelia ซึ่งเป็นโซลูชั่นการจอง และการเคลมที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชนของ Shell Aviation

“เซอร์ ทิม คลาร์ก” ประธานสายการบินเอมิเรตส์ กล่าวว่า เรากำลังผลักดันมาตรการเชิงรุกเพื่อให้การบินมีความยั่งยืนมากขึ้น ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งการขับเคลื่อนเที่ยวบินจากศูนย์กลางในดูไบของเราเป็นเพียงหนึ่งในขั้นตอนที่เราดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และช่วยให้ลูกค้าของเราลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรม

“เรายังมีเส้นทางอีกยาวไกลข้างหน้า และเราหวังว่าความร่วมมือของเรากับ Shell Aviation จะเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ผลิตอยากเข้ามาแก้ไขช่องว่างด้านอุปทานเป็นจำนวนมากขึ้น และทำให้ SAF พร้อมให้บริการในศูนย์กลางการบินหลัก ๆ เช่น ดูไบ รวมถึงจุดอื่น ๆ ในเครือข่ายของเราอีกด้วย”

ความพยายามอันยาวนานของเอมิเรตส์มีรากฐานมาจากการดำเนินการเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 3 ประการ ได้แก่ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, การบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ และการอนุรักษ์สัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัย

โดยปีนี้เอมิเรตส์ประกาศจัดตั้งกองทุนมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโครงการวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบของเชื้อเพลิงฟอสซิลในการบินพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมการบินในด้านความยั่งยืน

โดยอีก 3 ปีข้างหน้า สายการบินเอมิเรตส์วางแผนที่จะผสานความร่วมมือกับองค์กรชั้นนำที่ทำงานเกี่ยวกับโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีเชื้อเพลิง และพลังงานขั้นสูง เพื่อยกระดับการเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน

สายการบินเอมิเรตส์ทำการบินสาธิตที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงแบบ SAF 100% ครั้งแรกของภูมิภาคในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเอมิเรตส์ทุ่มเทการวิจัยอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการใช้ SAF สำหรับการบิน ในส่วนผสมที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการสนับสนุนมาตรฐานและการรับรอง SAF 100% ในอนาคต ปัจจุบันยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ตามปกติในเชิงพาณิชย์

สายการบินเริ่มใช้เชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของ SAF เป็นครั้งแรกในปี 2560 ในเที่ยวบินจากชิคาโก และตั้งแต่นั้นมาเที่ยวบินจากสตอกโฮล์ม ปารีส ลียง และออสโล ก็ดำเนินการด้วย SAF แบบผสมมาอย่างต่อเนื่อง เอมิเรตส์มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมการบิน และคณะทำงานของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อช่วยเสริมศักยภาพการผลิตและการจัดหาเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนต่อไป