ทักษะชีวิตที่โรงเรียนไม่ได้สอน

ชีวิต
คอลัมน์ : ถามมา-ตอบไป สไตล์คอนซัลต์
ผู้เขียน : อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

เมื่อวันก่อนมีโอกาสได้อ่านบทความเรื่อง 9 Life skills not taught in school ซึ่งจัดทำโดยสถาบัน Successful Student Navigating Education น่าสนใจดี ขอเอามาเล่าให้ฟัง

1.conversation-ทักษะในการสื่อสาร สนทนา พูดคุย : ความสามารถในการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จในชีวิต บางคนมีความคิดดี แต่พูดไม่รู้เรื่อง บางคนเก่งมากแต่สนทนากับคนไม่เป็น เด็กรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะวัน ๆ ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอ จนแทบจะไม่ได้สื่อสารกับใคร ทักษะในการสื่อสารไม่ใช่แค่พูดได้ แต่ต้องพูดเป็น สื่อสารรู้เรื่อง และรู้จักใช้ภาษาที่เหมาะสมด้วย

2.thinking & decision making-ทักษะในการคิดและการตัดสินใจ : เมื่อเติบโตขึ้น การคิดและการตัดสินใจ ยิ่งกลายเป็นสิ่งจำเป็น เดี๋ยวนี้เด็กรุ่นใหม่พ่อแม่มักตัดสินใจให้ ล่าสุดผมไปเป็นกรรมการให้กับองค์กรหนึ่ง ผู้บริหารมารายงานว่า พนักงานรุ่นใหม่ ๆ ลาออกไปหลายคนเพราะทำงานหนัก พ่อแม่เป็นห่วงเลยตัดสินใจ (แทนลูก) ให้ออกไปหางานอื่นทำที่สบายกว่าแม้จะได้เงินน้อยลง เพราะพ่อแม่เลี้ยงได้

3.how to handle money & invest-ทักษะในการบริหารจัดการเงินทองและการลงทุน : ถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญมาก คนเราหาเงินมาได้เท่าไร ยังไม่สำคัญเท่าบริหารจัดการเงินที่ได้มายังไง เรื่องนี้มีให้เห็นเป็นอุทาหรณ์มากมาย

ดูตัวอย่างคนที่ถูกหวยเบอร์ใหญ่ได้เงินหลายล้าน ผ่านไปแค่ปีสองปีเงินที่ได้มาอันตรธานหายไปหมด คนรุ่นใหม่ที่ทำธุรกิจสตาร์ตอัพหลายคน มีความมุ่งมั่นตั้งใจแต่ไม่รู้จะบริหารเงินยังไง สุดท้ายก็ไปไม่รอด

4.manners-ทักษะเรื่องมารยาทและการวางตัว : การมีสมบัติผู้ดี เป็นเสน่ห์ที่สอนกันได้ แต่แปลกใจที่ทำไมถึงไม่มีใครสอนกัน คนเก่งหลายคนมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่น่ารัก จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ทำให้เขาไม่เติบโตและประสบความสำเร็จเท่าที่ศักยภาพจริง ๆ มี

5.how to find and actually get a job-ทักษะในการหางาน : หลายคนเรียนจบมา แต่ไม่รู้ว่าจะหางานทำได้อย่างไร ทำงานอะไรดี มีอาชีพอะไรที่เหมาะกับตนเองบ้าง มีกี่โรงเรียนหรือกี่สถาบันการศึกษาที่สอนทักษะการเขียนประวัติส่วนตัว (resume)

สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ทำงานจริง หรือสอนทักษะในการสัมภาษณ์ให้ได้งาน ทั้ง ๆ ที่เป้าหมายปลายทางของนักเรียนนักศึกษาเหล่านี้ คือการมีงานทำ มีรายได้มาใช้หนี้ กยศ. หรือเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัว

6.self defense-ทักษะการป้องกันตัว : โลกทุกวันนี้อยู่ยากมากขึ้น คนรู้หน้าไม่รู้ใจเดินกันขวักไขว่ อันตรายเกิดขึ้นได้เสมอ การมีศิลปะป้องกันตัวจะช่วยให้รอดได้ในสถานการณ์คับขัน ทักษะนี้เป็นทักษะสำคัญไม่แพ้การเล่นกีฬาหรือการสันทนาการอื่น ๆ ทักษะการป้องกันตัว ไม่ใช่ทักษะมวยไทย ฟันดาบ กระบี่กระบอง แต่เป็นทักษะการเอาตัวรอดจากการรุกรานของผู้ไม่หวังดีในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างหาก

7.learning from failure-ทักษะการเรียนรู้จากความล้มเหลว : คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนผ่านความล้มเหลวมาก่อน ความสามารถในการล้ม-ลุก-เรียนรู้ เป็นสิ่งจำเป็นมาก แต่เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ถูกคาดหวังและผลักดันให้ประสบความสำเร็จและหลีกเลี่ยงความล้มเหลว ซึ่งเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ

ความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งเลวร้ายและน่าอับอาย ในทางกลับกันเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องประสบพบเจอ พวกเราทุกคนจึงควรเรียนรู้ที่จะรับมือกับความล้มเหลวและนำประสบการณ์นั้นมาเป็นบทเรียน

8.time management-ทักษะการบริหารเวลา : เวลาคือทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด มีเงินมากมายเพียงใดก็ซื้อเวลาไม่ได้ การบริหารเวลาได้ดีจะช่วยให้ชีวิตมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เด็ก ๆ ทุกวันนี้บ่นว่าไม่มีเวลา ผู้ใหญ่หลายคนก็มีความรู้สึกเช่นว่านี้เหมือนกัน

อันที่จริงเราทำอะไรกับเวลาได้น้อยมาก เพราะทุกคนมีวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน สิ่งที่บริหารได้คือกิจกรรมที่ต้องทำ โดยพิจารณาจากความสำคัญและเร่งด่วนประกอบกัน

9.how to manage stressful situations-ทักษะในการบริหารความเครียด : ความสามารถในการอยู่กับความกดดันโดยไม่เครียดจนเกินไป จะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ยิ่งเติบโตขึ้น ปัญหา อุปสรรค และความท้าทายยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

ถ้าไม่รู้จักบริหารอารมณ์ตัวเองให้ดี มีโอกาสอายุสั้นได้ เรื่องแบบนี้ควรสอนตั้งแต่อยู่ในโรงเรียน เด็ก ๆ หลายคนต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถด้วยการฆ่าตัวตายหรือกลายเป็นโรคซึมเศร้า เพราะไม่สามารถจัดการกับความคิดของตัวเองได้ เมื่อถูกคาดหวังและกดดันจากคนรอบข้าง

อ่านดูแล้วก็เห็นด้วยว่า ทักษะเหล่านี้จำเป็นจริง ๆ สำหรับการใช้ชีวิต แต่แปลกใจว่าทำไมโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาถึงไม่สอนสิ่งเหล่านี้ เราพูดกันมานานแล้วว่าต้องมีการปฏิรูประบบการศึกษาของไทย ผมว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่ต้องมาคิด และเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้กันซะที