เปิดประวัติ หมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สู่ผู้ท้าชิงประธานสภา

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

เปิดประวัติ หมอชลน่าน ศรีแก้ว ผอ.รพ. ดาวสภาปี 52 ดาวเด่นแห่งปี 64 หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สู่ผู้ท้าชิงประธานสภา

วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ยังคงสรุปไม่ได้ว่าเก้าอี้ประธานสภาจะตกเป็นของใครของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลระหว่าง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) โดยก็มีความคิดเห็นที่หลากหลายว่าใครเหมาะสมกว่ากัน

นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร มองว่าคนรุ่นใหม่สามารถเป็นได้ ไม่จำเป็นต้องเอาคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน แต่ต้องอิสระจากพรรค สำคัญอยู่ที่ใจต้องวางตนเป็นผู้ใหญ่

ทางด้านของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวว่า “พรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ แล้วตำแหน่งประธานสภาก็ควรเป็นของ เพื่อไทย พร้อมแย้มชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าเหมาะสมกับตำแหน่งนี้”

“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมประวัติของ หมอชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้ท้าชิงประธานสภา ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้

ประวัติ หมอชลน่าน ศรีแก้ว

หมอชลน่าน ศรีแก้ว อายุ 61 ปี เกิดวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2504 ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดน่าน อำเภอเวียงสา ตำบลไหลน่าน เป็นบุตรของนายใจ และนางหมาย ศรีแก้ว สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปีการศึกษา 2529 และปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ในปี 2542

ระหว่างปี 2538-2543 หมอชลน่าน เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลเวียงสา จังหวัดน่าน เคยเป็นผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว อำเภอปัว จังหวัดน่าน

เส้นทางการเมือง

– หมอชลน่าน ศรีแก้ว ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกเมื่อปี 2544 สังกัดพรรคไทยรักไทย และได้รับเลือกตั้ง 6 สมัยติดต่อกัน

– ปี 2547 เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

– ปี 2548 เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเป็นกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) นอกจากนั้นแล้ว เขายังได้รับแต่งตั้งเป็นรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในระยะหนึ่งอีกด้วย

– ปี 2552 สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ได้ตั้งฉายานักการเมือง โดยให้ฉายา หมอชลน่าน ว่า “ดาวสภา” ด้วยบทบาทการอภิปรายโดยมุ่งเน้นข้อมูลมากกว่าใช้วาทะศิลป์

– ปี 2555 หมอชลน่าน ศรีแก้ว ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในรัฐบาลนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555 กระทั่งได้รับโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีในเดือน มิถุนายน พ.ศ. 2556

– ปี 2564 เขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเป็นผู้นำผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และในการประชุมร่วมกันของผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ได้มีความเห็นร่วมกันในการตั้งฉายาของรัฐสภา เพื่อเป็นการสะท้อนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่น่าสนใจ “ดาวเด่นแห่งปี” ผู้สื่อข่าวประจำรัฐบาลยกฉายานี้ให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

ป.ป.ช. เปิดบัญชีทรัพย์สิน รวย 560 ล้าน

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินนายชลน่าน ศรีแก้ว กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มีทรัพย์สิน 560,855,277.84 บาท มีหนี้สิน 602,902.38 บาท

นพ.ชลน่านมีทรัพย์สิน 9,618,264.71 บาท ประกอบด้วย

  • เงินสด 40,000 บาท
  • เงินฝาก 1 บัญชี 443,264,.71 บาท
  • ที่ดิน 2 แปลง 2,000,000 บาท กลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน
  • โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง (ตึก 3 ชั้น) 3,000,000 บาท
  • ทรัพย์สินอื่น 4,135,000 บาท แหวนหยกล้อมเพชร นาฬิกา ROLEX สร้องคอทองคำ พระเครื่อง กำไลข้อมือพิงก์โกลด์
  • มีหนี้สินเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 602,902.38 บาท

ภรรยามีทรัพย์เกือบทั้งหมดที่แสดงบัญชี คือ 550.8 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • เงินสด 1,800,000 บาท
  • เงินฝาก 17 บัญชี 1,700,330.61 บาท
  • ที่ดิน 18 แปลง 501,339,338 บาท ส่วนใหญ่อยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อ.เมือง จ.ลำพูน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
  • โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6 หลัง (บ้านเดี่ยว ห้องชุด) 18,600,000 บาท
  • ยานพาหนะ 4 คัน (เบนซ์ 3 คัน BMW 1 คัน) 5,750,000 บาท

ทรัพย์สินอื่น 21,659,889 บาท เมฆสิทธิ์หลวงพ่อทับวัดอนงค์สีเขียวทอง แหวนเพชรตาแมวโบราณสีมรกต เครื่องประดับทองคำและเพชร กระเป๋า HERMES และอุปกรณ์ตกแต่ง 25 ใบ และกระเป๋าแบรนด์เนมอื่น ๆ เช่น CHANEL 45 ใบ รองเท้าแบรนด์เนม 51 คู่ ผ้าซิ่นน่านนางพญาคำเคิบ/ซิ่นไหม

บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 387,455.52 บาท ประกอบด้วย

  • เงินสด 6,000 บาท
  • เงินฝาก 2 บัญชี 81,455.52 บาท
  • ที่ดิน 1 แปลง 300,000 บาท อ.เวียงสา จ.น่าน

ข้อมูลรายได้ต่อปี นพ.ชลน่าน 1,796,255 บาท รายได้ประจำ เงินเดือน ส.ส. 1,388,880 บาท เบี้ยประชุม กมธ./อนุ กมธ. 96,975 บาท เบี้ยประชุมผู้นำฝ่ายค้าน 310,400 บาท

คู่สมรส 45,562,750 บาท รายได้ประจำจากเงินประจำตำแหน่งผู้ชำนาญการคนที่สอง 180,000 บาท และรายได้จากทรัพย์สิน ขายที่ดิน 5 แปลง เมื่อปี 2564 จำนวน 45,382,750 บาท บุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ รายได้จากการรับให้ที่ดิน 300,000 บาท

นายชลน่านแจ้งสถานภาพ “อยู่กินกันฉันสามีภริยา” กับ น.ส.นวลสกุล บำรุงพงษ์ อายุ 60 ปี มีบุตร 2 คน คือ นายภูรักษ์นที ศรีแก้ว อายุ 26 ปี และ น.ส.วสริตาชล ศรีแก้ว อายุ 19 ปี

ดัน ชลน่าน ชิงตำแหน่งประธานสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า วันนี้ (29 พ.ค. 66) มีการเตรียมวาระสำหรับการประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค 312 เสียง ณ ที่ทำการพรรคประชาชาติ (ปช.) ย่านดอนเมือง ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2566

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

สำหรับวาระการประชุมพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีแกนนำจากพรรคร่วมรัฐบาลอื่นทราบวาระที่ชัดเจน แต่แกนนำพรรคเพื่อไทยถกกันว่า มีความเป็นไปได้ที่พรรคจะเจรจาเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าควรจะเป็นของพรรคเพื่อไทย ที่มีเสียงในสภาเป็นอันดับสอง 141 เสียง รองจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แกนนำจัดตั้งรัฐบาล 151 เสียง ที่จะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


ทั้งนี้โดยธรรมเนียมปฏิบัติ พรรคก้าวไกล ไม่ได้ชนะเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร โดยมีคะแนน จำนวน ส.ส.ห่างกันเพียง 10 เสียง และอำนาจในฝ่ายบริหารทั้งหมด ก็อยู่ในมือพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว ดังนั้น จึงมีความชอบธรรมทางการเมือง ที่ฝ่ายพรรคเพื่อไทย จะได้เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ โดยคิดว่าบุคคลที่เหมาะสมคือ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย