รัฐบาลห่วงเยาวชน ตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกเปิดบัญชีม้า เตือนระวังโทษหนัก แนะผู้ปกครองรู้เท่าทันดูแลก่อนตกเป็นเหยื่อ
วันที่ 21 กันยายน 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐบาลห่วงใยกรณีเด็กและเยาวชนถูกล่อลวงให้เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารให้ผู้อื่น รับจ้างหรือขายบัญชี เนื่องจากมิจฉาชีพจะนำไปใช้เป็นช่องทางในการรับเงินและถ่ายโอนเงินจากการกระทำความผิดกฎหมายหลอกลวงประชาชนเพื่อป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตัว ซึ่งเรียกว่า “บัญชีม้า”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
เมื่อมีการกระทำความผิดเจ้าของบัญชีม้าจะมีความผิดฐานเป็นตัวการหรือเป็นผู้สนับสนุนในความผิดนั้น ๆ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และมาตรา 86 อีกทั้งอาจถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
น.ส.ทิพานันกล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการในการป้องกันและปราบปรามปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังและเข้มข้น แต่ยังพบว่ายังมีการเปิดบัญชีม้าจากผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือยอมรับความเสี่ยงจากผลประโยชน์ตอบแทนบัญชีละ 500-800 บาท
จึงขอให้น้อง ๆ เยาวชน และประชาชนอย่าหลงเชื่อขายหรือรับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้อื่นโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะถูกล่อลวงหรือเต็มใจอาจถูกดำเนินคดีถูกจับติดคุก บางรายก็เสี่ยงเกิดอันตรายต่อชีวิตอย่างกรณีคนร้ายรุมทำร้ายเยาวชนอายุ 16 ปีใน จ.นนทบุรี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่มีข้อมูลเบื้องต้นว่าอาจเกี่ยวพันกับการเปิดบัญชีม้าให้กับผู้อื่นด้วย
น.ส.ทิพานันกล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ขอให้ผู้ปกครองช่วยกันดูแลบุตรหลาน หมั่นตรวจสอบพฤติกรรมการเงินของในบัญชีบุตรหลาน รวมทั้งบัญชีของตัวท่านเอง เพราะมิจฉาชีพอาจใช้วิธีอื่น เช่น การขโมยข้อมูลส่วนบุคคลไปเปิดบัญชีม้าด้วย
ดังนั้นหากพบสิ่งผิดปกติของเงินไหลเข้า-ออก หรือมีบัญชีเพิ่มออกมาโดยไม่รู้ตัวของตัวท่านเองหรือบุตรหลาน ให้รีบแจ้งธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่อขอคำแนะนำและระงับยับยั้ง ซึ่งปัจจุบันมิจฉาชีพมีกลวิธีหลากหลาย จึงต้องรู้เท่าทัน มุ่งหลอกกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุหรือเยาวชน
ผู้ที่ถูกหลอกลวงหรือผู้เสียหายสามารถติดต่อแจ้งความออนไลน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ www.thaipoliceonline.com หรือ www.pct.police.go.th หรือโทร.08-1866-3000 หรือสายด่วน 1441 หรือรวบรวมหลักฐานแจ้งความด้วยตนเองที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือร่วมกันเป็นพลเมืองดี แจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง