เพื่อไทย พับแผนอีเวนต์อุ๊งอิ๊ง ผวากฎเหล็ก กกต.จำคุกตัดสิทธิเลือกตั้ง

แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร

อีเวนต์ครอบครัวเพื่อไทย สะดุด กฎเหล็ก กกต. ส.ส.กังวลถูกนับเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง หากรัฐบาลลุงตู่อยู่ครบเทอม

วันที่ 22 กันยายน 2565 รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า การจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมเปิดนโยบายต่าง ๆ ของพรรค ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ที่ตั้งเป้าจัดเวทีละ 1 ครั้ง ปรากฏว่าต้องชะลอกิจกรรมไว้ก่อน จากเดิมที่มีการคาดหมายว่าเวทีครอบครัวเพื่อไทยในครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา

เนื่องจากก่อนหน้านี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ขณะนี้ใกล้ถึงระยะเวลา 180 วัน ก่อนวันครบอายุของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการหาเสียงให้เป็นไปตามมาตรา 68 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 และต้องมิให้ผู้สมัคร หรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น

ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 73 กฎหมายเดียวกัน มีห้วงระยะเวลาหาเสียงเลือกตั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2565 จนถึงวันก่อนวันเลือกตั้ง

นอกจากนี้ ในมาตรา 64 ยังกำหนดเรื่องการคำนวณค่าใช้จ่ายของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ในกรณีที่การเลือกตั้งทั่วไปมาจากการครบอายุของสภาผู้แทนราษฎร ให้คำนวณค่าใช้จ่ายไปตั้งแต่ 180 วัน ก่อนที่ กกต.จะมีการประกาศให้มีการเลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้ง จึงทำให้เกิดความกังวลจาก ส.ส.ในพื้นที่ที่จะต้องเป็นแม่งานจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ในการจัดการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ว่าจะนับรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งหรือไม่

ดังนั้น จึงต้องรอประกาศหลักเกณฑ์เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองปฏิบัติตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ภายในกรอบเวลา 180 วัน ว่าสิ่งใดทำได้ หรือไม่ได้บ้างในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อเป็นแนวทางให้พรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ได้ปฏิบัติตาม

ขณะเดียวกัน ยังมีความกังวลกรณีเรื่องป้ายหาเสียงของ ส.ส.ที่ขึ้นคู่กับรูป น.ส.แพทองธาร ติดในจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย รวมถึงป้ายครอบครัวเพื่อไทย จะต้องปลดลงก่อนหรือไม่ ทั้งนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยรายหนึ่งระบุว่า คงไม่จำเป็นต้องนำป้ายลง เพราะที่สุดแล้วยังต้องใช้ป้ายดังกล่าวไปจนถึงวันเลือกตั้งอยู่ดี แม้จะนับเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งก็ตาม

สำหรับบทกำหนดโทษเรื่องค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งเกินกว่าที่ กกต.กำหนด อยู่ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 154 ในกรณี ส.ส. ถ้าใช้จ่ายเกินที่ กกต.กำหนด ติดคุก 1-5 ปี ปรับ 2 หมื่น ถึง 1 แสนบาท หรือ ปรับเป็นจำนวน 3 เท่าของจำนวนเงินที่เกินค่าใช้จ่ายที่ กกต.กำหนด แล้วแต่จำนวนใดมากกว่า หรือทั้งจำทั้งปรับ ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

ในกรณีพรรคการเมือง ถ้าใช้จ่ายเกินที่ กกต.กำหนด ให้ระวางโทษปรับ 2 แสน ถึง 2 ล้านบาท หรือปรับเป็นจำนวน 3 เท่าของจำนวนเงินที่ กกต.กำหนด แล้วแต่จำนวนใดมากกว่ากัน ถ้าหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรคการเมืองรู้เห็นเป็นใจด้วยกับการกระทำความผิด จะต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10


ทั้งนี้ ในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ตามระเบียบ กกต. กำหนดว่าผู้สมัคร ส.ส.เขตใช้งบหาเสียงได้ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท/คน ส่วนพรรคการเมืองใช้งบหาเสียงได้ไม่เกิน 35 ล้านบาท/พรรค แต่ต้องคำนวณใหม่ทุก ๆ 4 ปี