จากมิตรสู่ศัตรูการเมือง ประยุทธ์ บนชายขอบพลังประชารัฐ

ประยุทธ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่เอ่ยปากชัดถ้อยชัดคำว่าจะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ท่าทีแสดงออกชัดเจนว่า บั้นปลายทางการเมืองบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกเพียง 2 ปี ขอไปต่อ และเรือลำใหม่ ไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ

พลังประชารัฐจึงกลายเป็นแหล่งรวมพลปฏิปักษ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ไปโดยปริยาย

การเปิดตัวหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ-แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” แบบตกกระไดพลอยโจน ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จึงเกิดขึ้นอย่างฉุกละหุก

1 ในเหตุผลในการตัดสินใจล่มหัวจมท้ายกับพลังประชารัฐ-พรรคที่นายมิ่งขวัญอภิปรายไม่ไว้วางใจในทุกวาระที่ พล.อ.ประยุทธ์ถูกยื่นญัตติ คือ หัวหน้ารัฐบาลไม่ได้อยู่พรรคพลังประชารัฐแล้ว

“อันที่สอง ขอโทษจริง ๆ ที่ผมมีความจำเป็นต้องพูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ไม่อยู่ในพรรคนี้แล้ว และท่านก็ไม่เคยอยู่ ผมย้ำนะครับว่า ผมไม่ได้มีปัญหากับ พล.อ.ประยุทธ์โดยตรง แต่ตลอด 3 ปีครึ่งกว่า ผมอภิปรายเพราะมีจุด 3 จุด หนึ่ง ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไม่สำเร็จ สอง ท่านเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เศรษฐกิจก็ไม่สำเร็จ สาม ท่านเป็นหัวหน้า ศบค.ก่อนจะปิดศูนย์ ตัวเลขคนไทยที่ตาย 2 หมื่นกว่าศพ”

“ท่านสังเกตไหมครับ ผมอภิปรายคนเดียวโดด ๆ คือ พล.อ.ประยุทธ์ ผมย้ำนะครับ ผมไม่ได้มีอะไรโกรธเคืองกับท่าน แต่โดยหน้าที่ โดยความถูกต้อง ท่านอาสาเข้ามาทำแล้วทำไม่สำเร็จ ผมก็ต้องอภิปรายท่าน แล้วท่านไม่ได้อยู่พรรคนี้แล้ว เดี๋ยวสภาก็จะหมดสมัยในวาระใกล้ ๆ”

“พล.อ.ประยุทธ์ไปแล้ว ออกไปแล้ว” พล.อ.ประวิตรสำทับเหตุผลการตัดสินใจร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ

ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ พรรคพลังประชารัฐได้ยืนอยู่คนละมุมกับ พล.อ.ประยุทธ์ไปโดยอัตโนมัติ

“ผมฝากไปเรียน พล.อ.ประยุทธ์ด้วยนะ ผมไม่สามารถร่วมอุดมการณ์กับท่านได้” นายมิ่งขวัญแถลงย้ำไม่ขอมีจุดยืนเดียวกันกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐคนปัจจุบัน

พรรคพลังประชารัฐยังดึง “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีต ส.ส.พัทลุง หลายสมัย ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยและประธานภาคใต้ โดยจะเปิดตัวในวันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2565

ถือเป็น “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ของพรรคพลังประชารัฐ ที่สามารถ “ปิดดีล” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่แสดงตัวชัดเจนทั้งในพื้นที่ออฟไลน์-ออนไลน์ว่าอยู่ตรงข้ามกับระบอบ พล.อ.ประยุทธ์

รวมถึง “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ อีก 1 คู่ปรับของ พล.อ.ประยุทธ์ แม้ในขณะนี้สถานะทางการเมืองยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไปปรากฏตัวในงานสัมมนาพรรคพลังประชารัฐ และร่วมเป็นสักขีพยานแถลงข่าวเปิดตัวนายมิ่งขวัญ

อีกคู่อริของ พล.อ.ประยุทธ์ที่จะย้ายเข้าพรรคพลังประชารัฐ คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับพวก 13 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ที่รอเพียงสัญญาณสุดท้ายจากทำเนียบรัฐบาล

วีรกรรมของหัวหน้ากบฏ 19 มกราฯ ในความพยามก่อการปฏิวัติ-ชิงอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์กลางสภา จนถูกปลดฟ้าผ่าจากตำแหน่งรัฐมนตรีและถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ผูกใจเจ็บ พล.อ.ประยุทธ์ตลอดมา

แกนนำระดับสูงพรรคพลังประชารัฐเปิดเผยถึงฤกษ์ยามในการเปิดตัวนายอันวาร์อย่างเป็นทางการว่า วันนี้กรอบระยะเวลาย้ายพรรค 90 วัน กรณีรัฐบาลอยู่ครบวาระคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์คงจะยุบสภาก่อนครบวาระ วัน หรือสองวัน เพื่อเปิดโอกาสให้ ส.ส.ย้ายพรรคได้อีกครั้ง

ก่อนหน้านี้พรรคพลังประชารัฐโยนชื่อ คุณชายอุ๋ย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล คั่วตำแหน่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ-แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ยุครัฐบาล คสช. มีเรื่องบาดใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ กรณี “คลิปเสียง” วิพากษ์สกิลวิชาเศรษฐศาสตร์ของหัวหน้า คสช. จนนำไปสู่วลีเด็ด-วรรคทองก้องทำเนียบ “แบ่งแยกแล้วปกครอง”

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ตั้ง “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เสียบแทนหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ คุณชายอุ๋ย ก็ออกมาวิจารณ์กิริยาของหัวหน้ารัฐบาล-พฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจของเครือข่าย คสช.อย่างถึงพริกถึงขิง

วันนี้พรรคพลังประชารัฐจึงเป็นแหล่งรวมพลคนไล่ พล.อ.ประยุทธ์