วิษณุ เตือน พีระพันธุ์ อย่าใช้เวลาราชการ-ทรัพยากรของรัฐ หาเสียง

พีระพันธุ์ จ่อ คุย ประยุทธ์ ทาบ นั่งแคนดิเดตนายกฯ รวมไทยสร้างชาติ

วิษณุ เผย เบื้องหลัง ดิสทัต ลาออก เลขาฯนายก ฯ – ไม่มีใครสั่งให้ออก ชักแม่น้ำ นายกฯ ในอดีต ตั้ง คนของพรรค ไม่แปลกประหลาด เตือน พีระพันธุ์ อย่าใช้เวลาราชการ-ทรัพยากรของรัฐ หาเสียงให้พรรคการเมือง

วันที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการลาออกของนายดิสทัต โหตระกิตย์ จากเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

โดยคาดหมายกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแทน

นายดิสทัตเคยบอกไว้ตั้งนานแล้วว่าจะไปทำอย่างอื่น และเป็นเพราะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดและต่างประเทศบ่อย แต่พล.อ.ประยุทธ์บอกให้อยู่ไปก่อนจนกว่าจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคเสร็จสิ้น และเมื่อนายกรัฐมนตรีต้องไปประชุมสุดยอดอาเซียน-ยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม นายดิสทัตก็ต้องอยู่งาน เมื่อกลับมาแล้วและนายกรัฐมนตรีไม่มีภารกิจต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้วนายดิสทัตจึงขอลาออก ไม่มีใครสั่งให้ลาออก

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรัฐบาลอาจถูกตั้งคำถามถึงความไม่เหมาะสมถึงความได้เปรียบและเสียเปรียบทางการเมือง นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย พรรคนี้ (รวมไทยสร้างชาติ) ยังไม่มีส.ส.เลยสักคน

เมื่อถามว่า แต่เป็นพรรคการเมืองที่จะลงเลือกตั้ง นายวิษณุกล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร นายกฯทุกคนในอดีต นายกฯ ชวน นายกฯ บรรหาร นายกฯ ชวลิต ก็ตั้งคนของพรรคมาเป็นเลขาธิการนายกฯ แม้กระทั่งนายกฯ ทักษิณ ก็ตั้งคนในพรรคมาเป็น เพื่อช่วยงาน หน้าที่เลขาธิการนายกฯ คนละหน้าที่กับรัฐมนตรี ทำงานหลายอย่าง ดูแลงบลับให้นายกฯ ประสานกับสภา ประสานกับมวลชน และประสานกับการต่างประเทศ เป็นภารกิจธรรมดาที่ต้องเลือกคนที่คิดว่าสามารถทำได้ และนายพีระพันธุ์ก็มีคุณสมบัติที่ไม่ต่างไปจากนายดิสทัต คือ เป็นนักกฎหมาย ที่จะมาช่วยนายกรัฐมนตรีในเรื่องกฎหมายได้

เมื่อถามว่า แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งเลขาธิการนายกฯ ในช่วงใกล้เลือกตั้ง นายวิษณุกล่าวว่า ก็ไม่แปลก ตั้งวันนั้นก็ได้ คุณตั้งตอนเป็นนายกฯแล้วก็ตั้งเลยก็ได้ มาตั้งใกล้ ๆ เลือกตั้งก็ได้ ก็ตำแหน่งมันว่างลงจะทำยังไง ก็ต้องตั้งใครสักคน

เมื่อถามว่า คนที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองไปเป็นเลขาธิการนายกฯ ที่ต้องไปดูแลงบประมาณ งบกลาง จะถูกตั้งคำถามหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เป็นหัวหน้าพรรคที่ไม่มี ส.ส.แม้แต่คนเดียว แล้วจะไปห่วงอะไร ถ้าตั้งฝ่ายค้านมาเป็นเลขาฯ นายกฯ สิ ประหลาด นี่ไม่ประหลาดอะไรเลย

เมื่อถามว่า จะเป็นจุดอ่อนให้ถูกโจมตีทางการเมืองหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าจะตีก็ตีกันได้ทุกจุดอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหา แต่คิดว่าไม่มีปัญหา ไม่มีประเด็นให้ต้องโจมตีอะไร เป็นธรรมดา เพราะเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งข้าราชการการเมือง ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองด้วย

เมื่อถามว่า นายพีระพันธุ์ต้องมีความระมัดระวังในการทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯ เพราะมีหมวกอีกใบคือหัวหน้าพรรคการเมือง นายวิษณุกล่าวว่า หมวกหัวหน้าพรรคไม่มีอะไรที่ต้องระวัง แต่ถ้านายพีระพันธุ์ลงสมัครรับเลือกตั้งก็มีบทบาทที่ต้องระวัง เพราะผู้สมัครจะทำอะไรนั้น กติกายังควบคุมน้อย แต่เป็นข้าราชการการเมืองด้วยมีกฎเกณฑ์ กติกามาก 2 เท่า

เมื่อถามว่า ในอนาคตหากเข้าสู่โหมดการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งในฐานะเป็นหัวหน้าพรรคจะไปช่วยหาเสียงได้หรือไม่ เพราะยังมีตำแหน่งเป็นรักษาการเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอยู่ นายวิษณุกล่าวว่า อย่าว่าแต่จะช่วยหาเสียงเลย รัฐมนตรีถามว่าไปหาเสียงได้ไหม ได้ 1.นอกเวลาราชการและ 2.ไม่ใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ไม่เป็นปัญหา อย่าใช้เวลาราชการไปใช้ในเรื่องของพรรคการเมืองของตัว อย่าใช้ทรัพย์สิน ทรัพยากรของทางราชการเท่านั้นเอง