ค่าไฟแพง ครม.แจกส่วนลดผู้ใช้ไฟบ้าน 301-500 หน่วย อีก 4 เดือน

ค่าไฟฟ้า

ครม.อนุมัติงบฯกลาง สำรองจ่าย-ฉุกเฉิน ปี 2566 กว่า 6,693 ล้านบาท ตรึงค่าไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย อีก 4 เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2565 กลุ่มเปราะบาง ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ลด 92.04 สตางค์ต่อหน่วย 301-500 หน่วยต่อเดือน ส่วนลดแบบขั้นบันได

วันที่ 20 ธันวาคม 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการเร่งด่วนด้านพลังงาน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2565 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยพิจารณาอนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใช้จ่ายในวงเงินรวม 6,693.31 ล้านบาท

โดยใช้แหล่งเงินจากงบประมาณปี 2566 งบฯกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับค่าไฟฟ้าเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2565 เพื่อให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน โดยให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เบิกจ่ายเงินจากสำนักงบประมาณต่อไป

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการของมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านไฟฟ้า โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน เป็นเวลา 4 เดือน สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2565 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ส่วนลด 92.04 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย (กลุ่มเปราะบาง) ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน

และกลุ่มที่ 2 ส่วนลดค่า Ft แบบขั้นบันไดร้อยละ 15-75 (จำนวน 10.30-51.50 สตางค์ต่อหน่วย) สำหรับกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน ซึ่ง ครม.มีมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 อนุมัติงบฯกลางปี 2565 ให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใช้จ่ายในวงเงิน 2,231.10 ล้านบาท เพื่อให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าของเดือนกันยายน 2565 ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน

“สำหรับส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าของเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2565 ที่ทางการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ประมาณการงบประมาณที่ใช้ดำเนินการ 6,693.31 ล้านบาทนั้น ครม.เห็นชอบให้ใช้จ่ายจากงบประมาณกลางปี 2566 โดยจะเบิกจ่ายจากงบฯเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ซึ่งทางการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไปด้วย” น.ส.ทิพานันกล่าว