มัดรวมวาระ ครม. ที่เรียกว่าของขวัญ ของฟรีปีใหม่ 5 กระทรวง

ของขวัญปีใหม่

ครม.เห็นชอบมาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 จำนวน 5 กระทรวง สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่อยู่อาศัยผู้ประกันตน ม.33 เตือนภัยข่าวปลอมทางเป๋าตัง ฟรีค่าโทร.-ส่ง SMS ลดค่าส่ง EMS บ้านเช่า 1,500 บาทต่อเดือน หรือ 50 บาทต่อวัน 5,000 หน่วยของการเคหะแห่งชาติ

วันที่ 20 ธันวาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบและรับทราบมาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 ดังนี้

โครงการ “ให้ ฟรี ลด แรงงานสุขใจ” ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ จำนวน 6 กิจกรรม 1.ให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ตาม ม.33 ดอกเบี้ยต่ำจำนวน 15,000 ราย ไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท ตั้งแต่ ม.ค. 2566 เป็นต้นไป

2.ให้เข้าถึงสิทธิการรักษา 5 โรค ตามโรงพยาบาลที่กำหนด 7,500 คน ได้แก่ โรคมะเร็งเต้านม ก้อนเนื้อที่มดลูก โรคนิ่ว โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจและหลอดเลือด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 30 มิ.ย. 2566 เป็นต้นไป

3.ให้งานทำ “ต้องการทำงาน ต้องได้งานทำ” โดยมีตำแหน่งงานว่าง ที่หลากหลายไว้ให้บริการ รวม 613,754 อัตรา แบ่งเป็นต่างประเทศ 50,000 อัตรา และในประเทศ 563,784 อัตรา

4.ฟรี ค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจในสถานประกอบการสำหรับผู้ประกันตน 300,000 คน ใน 7 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จ.สมุทรปราการ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี ระยอง พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร ให้ได้รับการตรวจสุขภาพ โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตนต่อหัว เฉลี่ยรายละ 910 บาท (กลุ่มเสี่ยง) และ 340 บาท (กลุ่มไม่เสี่ยง) ตั้งแต่ ม.ค. 2566 เป็นต้นไป

5.ฟรี อบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ระดับเทคนิค ระดับเทคนิคขั้นสูง และระดับวิชาชีพ 10,000 คน โดยมีหลักสูตรการอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัย ในการทำงาน เช่น กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และทักษะการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย ในการทำงาน ตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค. 2566

และ 6.ลดอัตราค่าทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ คงเหลือ 1-3 บาท นาน 3 เดือน มีผู้เข้าร่วมทดสอบ 5,000 คน ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 2566

ยุติธรรม 24 กิจกรรม ไกล่เกลี่ยหนี้ ป้องกันแชร์ลูกโซ่

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า มาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 ตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ จำนวน 24 กิจกรรม อาทิ เช่น 1.บริการสานสุข 10 กิจกรรม เช่น 1.1 ไกล่เกลี่ยทั่วไทยสุขใจปีใหม่ เปิดโอกาสให้เจ้าหนี้ ลูกหนี้ได้เจรจากัน ด้วยความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย ลดปัญหาหนี้สิน ส่งผลให้ลูกหนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 1.2 กิจกรรม “LED-Care” ลงพื้นที่พบปะประชาชน ให้คำปรึกษากฎหมาย ประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ บทบาท ภารกิจ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

1.3 แอปพลิเคชั่น “เช็กดิ” DSI ตรวจสอบการหลอกชักชวนลงทุนเฉพาะกิจแชร์ลูกโซ่ โดยสามารถประเมินความเสี่ยงที่บุคคล บริษัท หรือองค์กรที่เข้ามาชักชวน ให้เข้าร่วมลงทุนว่าเข้าข่ายลักษณะแชร์ลูกโซ่หรือไม่ แบบเบ็ดเสร็จในแอปพลิเคชั่นเดียว 1.4 กิจกรรมการลดราคาผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์และบริการอาหารเครื่องดื่ม โดยให้เรือนจำ/ทัณฑสถาน ดำเนินการลดราคาผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์และบริการอาหารเครื่องดื่มตามความเหมาะสม

2.ปีใหม่…ให้ความรู้คู่ความสุข 7 กิจกรรม เช่น 2.1 ยุติธรรมสร้างสุข ส่งสุขให้กับประชาชน โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงช่องทางการขอรับคำปรึกษากฎหมายและการยื่นคำขอรับบริการ เช่น สายด่วน 1111 กด 77 แอปพลิเคชั่น Justice care หรือศูนย์ยุติธรรมชุมชน และผ่านช่องทางสื่อสารต่าง ๆ 2.2 สนับสนุนการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน ในเดือน ธ.ค. 2565-ม.ค. 2566 และพัฒนาระบบยื่นคำขอ กรณีสนับสนุนโครงการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน

2.3 ส่งความสุข ส่งความรู้กฎหมายกลับบ้าน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 โดยการนำสื่อความรู้กฎหมายในรูปแบบสมุดอินโฟกราฟิกกฎหมาย ฉบับพกพา และสื่อความรู้กฎหมายอื่น ๆ มอบให้กับประชาชน รวมถึงแนะนำช่องทาง การเข้าถึงความรู้กฎหมาย และการขอรับความช่วยเหลือบริการงานยุติธรรมของ ยธ.

3.ปีใหม่ปลอดภัย 3 กิจกรรม เช่น การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยนำผู้ถูกคุมความประพฤติทำงานบริการสังคมปรับภูมิทัศน์ ตัดแต่งต้นไม้ บริเวณทางแยกและจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับ การบังคับใช้กฎหมายและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขับรถขณะเมาสุรา และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการสุ่มตรวจปัสสาวะ ในผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทาง ภายใต้หัวข้อ “ปีใหม่สุขใจ เดินทางปลอดภัยไร้ยาเสพติด” ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต) จตุจักร

4.กฎหมายดี… รับปีใหม่ 4 กิจกรรม เช่น 4.1 คุมประพฤติห่วงใย สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยเตรียมการรองรับการมีผลบังคับใช้ของพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 ให้กรมคุมประพฤติเป็นหน่วยงานหลักในการติดตามเฝ้าระวังพฤติกรรมของผู้พ้นโทษในความผิด 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มความผิดเกี่ยวกับเพศ กลุ่มความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย และกลุ่มความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ

4.2 กิจกรรม “เร่งรัดผลักดันการแก้ไขกฎหมายลดค่าธรรมเนียมในชั้นบังคับคดี” โดยดำเนินการผลักดันให้มีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. …. (ในส่วนของการลดค่าธรรมเนียมในชั้นบังคับคดี) ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ลูกหนี้ในการลดภาระทางการเงินของลูกหนี้ ลดความเหลื่อมล้ำ ในสังคม ทำให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้มากขึ้น

ดีอีเอส 24 เตือนภัยข่าวปลอมทางเป๋าตัง

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ จำนวน 24 กิจกรรม อาทิ เช่น 1.แจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงทางออนไลน์และข่าวปลอม ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2566 เป็นต้นไป ให้ประชาชนรู้เท่าทันและสามารถรับมือกับการหลอกลวงรูปแบบใหม่ได้

2.ยกเว้นบริการค่าโทร. เช่น บริการ NT Voice ยกเว้นค่าโทร.ที่โทร.ไปยังเลขหมายปลายทางที่เป็น Fixed Line/IP Phone ของ NT ทั่วไทย (วันที่ 30 ธ.ค. 2565-2 ม.ค. 2566) และบริการ my โทร.ฟรีในเครือข่าย และส่ง SMS ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (วันที่ 31 ธ.ค. 2565-1 ม.ค. 2566)

3.ส่วนลดค่าบริการไปรษณีย์ไทยด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศ ร้อยละ 19-48 สำหรับประชาชนที่ใช้บริการแบบ Walk In (วันที่ 26 ธ.ค. 2565-5 ม.ค. 2566) 4.ให้ผู้ประกอบการ SMEs ยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ช่วยลดค่าใช้จ่าย ร้อยละ 250 ในการส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษา/ฝึกอบรม หรือในการจัดฝึกอบรมให้แก่ลูกจ้าง โดยเฉพาะทักษะดิจิทัล

5.จัดให้มีบริการ/นวัตกรรมด้านดิจิทัลภาครัฐสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ เช่น ระบบการหางาน ห้องสมุดออนไลน์ ระบบการเดินทาง และระบบสวัสดิการด้านสุขภาพ 6.เพิ่มจำนวนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นให้สามารถรองรับการใช้งานของคนพิการและคนทุกกลุ่ม 7.ยกเว้นค่าบริการข้อมูลสารสนเทศด้านอุตุนิยมวิทยาและสถิติภูมิอากาศของประเทศ (1-15 ม.ค. 2566) ผ่านเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา 8.ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมให้ดาวโหลดสติ๊กเกอร์ “อัศวินต่อต้านข่าวปลอม” ฟรี ผ่าน Line Sticker Shop @antifakenewscenter สามารถใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 90 วัน

9.จัดงาน NSO Data Camp งานประชุมเสวนาวิชาการและนิทรรศการการใช้ประโยชน์ข้อมูลสถิติ และกิจกรรมนักสถิติรุ่นเยาว์สัญจร เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากข้อมูลสถิติ (เดือน ม.ค.-ก.พ. 2566) 10.สร้างความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้กับประชาชน ผ่านสื่อวีดิทัศน์ และอินโฟกราฟิก ผ่านสื่อส่วนกลางของ สนง. คกก. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (วันที่ 28 ธ.ค. 2565-3 ม.ค. 2566)

11.ส่งเสริมการมี Digital ID เพื่อให้ประชาชนประหยัดเวลา/ค่าใช้จ่าย และปลอดภัยในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนสามารถยืนยันตัวตนได้สะดวก ลดความเสี่ยงการถูกปลอมแปลงตัวตน (คาดว่าจะประกาศใช้ภายในเดือน ม.ค. 2566)

12.นำผลสำรวจความต้องการของประชาชน สำหรับการวางแผนช่วยเหลือประชาชนของหน่วยงานรัฐ ปี 2566 เสนอ ครม. ต่อไป เช่น เรื่องควบคุมราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค ลดค่าไฟฟ้า/ค่าน้ำประปา/ค่าอินเทอร์เน็ต และแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร

อว. 14 กิจกรรมส่งเสริมชาวนา เกษตรกร และ SME

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ เพื่อประชาชนทุกช่วงวัย 14 กิจกรรม โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้ 1.กิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย 11 กิจกรรม แบ่งเป็น 1.1 กิจกรรมเกี่ยวกับการเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศและภูมิสารสนเทศและดาราศาสตร์ 3 กิจกรรม คือ 1.ให้บริการแหล่งการเรียนรู้ด้านอวกาศและภูมิสารสนเทศ (Space Inspirium) ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2565-1 ม.ค. 2566 ณ Space Inspirium ในพื้นที่อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

2.ชมนิทรรศการด้านดาราศาสตร์ Night at the Museum เปิดประสบการณ์ชมนิทรรศการดาราศาสตร์และท้องฟ้าจำลองรอบพิเศษยามค่ำคืนและกิจกรรมดูดาวผ่านท้องฟ้าจริง ระหว่างวันที่ 23-25 ธ.ค. 2565 และ

3.NARIT Public Night Countdown 2023 ชมพาเหรดดาวเคราะห์ (อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ ยูเรนัส) ดูดาวข้ามปี และร่วมนับถอยหลังเริ่มศักราชใหม่ ในวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ณ อุทยานดาราศาสตร์ สิรินธร จ.เชียงใหม่ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.นครราชสีมา จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.สงขลา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

1.2 จัดเต็มความสนุกสนาน ฟรี! โดยจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ ในพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2565-8 ม.ค. 2566 ได้แก่ 1.กิจกรรมห้องทดลองวิทยาศาสตร์ (Science Lab) ณ อพวช. คลองห้า จ.ปทุมธานี และจัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. (เดอะสตรีต รัชดา กรุงเทพฯ จ.เชียงใหม่ และ จ.นครราชสีมา) และ 2.การแสดงทางวิทยาศาสตร์ Science Show โชว์สุดมหัศจรรย์ ณ อพวช. คลองห้า ปทุมธานี

1.3 เปิดตัวแพลตฟอร์ม Traffy Fondue 2023 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมืองเวอร์ชั่นใหม่ที่ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งเปิดตัวไลน์แชตบอต Fondue Manager เพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนให้สะดวกง่ายขึ้นผ่านทาง LINE และเจ้าหน้าที่สามารถบริหารจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา “ฟรี” ทุกหน่วยงานทั่วประเทศ

1.4 จัดทำแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับสุขภาพ ได้แก่ 1.A-MED Telehealth แพลตฟอร์มดิจิทัลดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เป็นระบบบริการทางการแพทย์ทางไกล และ 2.“แอปพลิเคชั่นรู้ทัน” สื่อสารความเสี่ยง ด้านสุขภาพ ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงหรือรับการแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสาร ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างสะดวกและรวดเร็วจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น การแพร่ระบาดของไข้เลือดออก สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และดัชนีความร้อน ที่นำไปสู่โรคลมแดด และพร้อมขยายผลสู่ความเสี่ยงสุขภาพอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต

1.5 แพลตฟอร์ม BrighterBee Talent Solution ที่เปิดให้นักศึกษาสามารถค้นหาโอกาสทางอาชีพทั้งในองค์กรขนาดใหญ่และ Startup ในหลากหลายอุตสาหกรรม ช่วยสร้างโปรไฟล์อย่างมืออาชีพ รวมทั้งมีหลักสูตรที่รวบรวม ไว้ในแพลตฟอร์มนี้กว่า 250 หลักสูตร ให้เข้าไปเรียนรู้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 1.6 กิจกรรม ณ สถานีวิจัยลำตะคอง ระหว่างเดือน ธ.ค. 2565-ม.ค. 2566 โดยให้บริการจุดพักรถในช่วงการเดินทางไปภาคอีสาน เส้นทาง ถ.มิตรภาพ และจุด check-in ทุ่งดอกผักเสี้ยนบานและซุ้มดอกไม้นานาพรรณให้เข้าชมฟรี

2.กิจกรรมเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม 3 กิจกรรม แบ่งเป็น 2.1 ลดค่าบริการในการทดสอบและสอบเทียบแบบปกติ ร้อยละ 30 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 2566 เพื่อสนับสนุนบริการทางวิทยาศาสตร์และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ SMEs ภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป

2.2 ไลน์บอตโรคข้าว (Rice Disease Linebot) : โมบายแอปพลิเคชั่นเพื่อการวินิจฉัยโรคข้าว เพื่อให้เกษตรกรหรือผู้ใช้งานที่พบต้นข้าวที่สงสัยว่าจะเป็นโรค สามารถถ่ายรูปแล้วอัปโหลดรูปเข้าในกลุ่มไลน์บอต เพื่อวิเคราะห์โรคข้าว และระบบจะส่งคำวินิจฉัยตอบกลับมาพร้อมคำแนะนำในการแก้ไข

2.3 การจัดการความรู้เพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวปิ่นเกษตรและการปลูกพืชหลังนา โดยจัดกิจกรรมการบริการวิชาการในการพัฒนาการผลิตข้าวและชาวนาไทยในพื้นที่ชุมชน 5 จังหวัด (นครปฐม ราชบุรี ชัยนาท อุทัยธานี และนครศรีธรรมราช) เพื่อเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพด้านแรงงาน การนำผลผลิตมาพัฒนาต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม ยกระดับรายได้และลดต้นทุนสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน

พม. “มีบ้านอยู่ดี-มีงานสร้างเงิน-มีรายได้ดูแลครอบครัว”

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอเพื่อให้ประชาชนมีบ้านอยู่อาศัยที่อบอุ่นและมีรายได้จากการสร้างอาชีพ โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 1.ซ่อมบ้าน สร้างสุข จำนวน 50,000 หลัง ให้บ้านของเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และครอบครัวผู้มีรายได้น้อยมีความมั่นคงปลอดภัย มีมาตรฐาน มีสภาพแวดล้อมและระบบสาธารณูปโภคที่เหมาะสม ตามหลักการการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น และภาคประชาสังคม โดยบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนในการดำเนินการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย

2.บ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย 15,000 หน่วย โดยแบ่งออกเป็นโครงการบ้านเช่า 1,500 บาทต่อเดือน (50 บาทต่อวัน) จำนวน 5,000 หน่วย ของการเคหะแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่ดี สังคมที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน และโครงการบ้านเช่าซื้อ จำนวน 10,000 หน่วย ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เข้าถึงแหล่งเงินเพื่อที่อยู่อาศัยได้อย่างเสมอภาค

3.สร้างอาชีพ สร้างรายได้ จำนวน 15,300 คน โดยแบ่งออกเป็น 3 โครงการ คือ 3.1 สร้างผู้ดูแลเด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบางติดเตียง (Care Giver) จำนวน 10,000 คน โดยการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะในการดูแลคนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบางติดเตียง ให้แก่กลุ่มเป้าหมายใน 3 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรพื้นฐาน (18 ชั่วโมง) หลักสูตรระยะกลาง (70 ชั่วโมง) และหลักสูตรระยะยาว (420 ชั่วโมง) ที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในกลุ่ม 10,000 คนนี้นอกจากจะมีอาชีพและรายได้แล้วยังสามารถสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับกลุ่มเปราะบางที่ดูแลด้วย

3.2 สร้างอาชีพธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ สำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยว กลุ่มเปราะบาง และผู้ว่างงาน จำนวน 5,000 คน โดยการส่งเสริมและพัฒนาทักษะอาชีพใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะในธุรกิจการท่องเที่ยว สถาบันเสริมความงาม ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม และร้านสปา พร้อมทั้งส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้โดยส่งเสริมทักษะที่ครบวงจรในการประกอบอาชีพเพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

3.3 สร้างนักขายมือทอง จำนวน 300 คน โดยพัฒนาทักษะด้านการขายไปสู่การเป็นนักขายมืออาชีพให้แก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ว่างงานที่สนใจได้เข้าร่วมแนะนำโครงการการเคหะแห่งชาติทั่วประเทศ โดยได้รับค่าตอบแทนเหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้