ประยุทธ์ เสียงดัง ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 4 เดือน สูญ 4 หมื่นล้าน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ประยุทธ์ เสียงดัง รู้ยัง ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละ 5 บาท 4 เดือน สูญรายได้รัฐ 4 หมื่นล้านบาท บ่นอุบ กองทุนน้ำมันฯติดลบ-แทนที่จะเอางบประมาณไปใช้อย่างอื่น

วันที่ 17 มกราคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายระยะเวลาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 ว่า ดำรงรักษาไว้ให้ได้ลิตรละ 35 บาท ซึ่งราคาตามกลไกตลาดควรจะขึ้นไป 40 กว่าบาทต่อลิตรแล้ว

“รู้ไหมเราดูแลอย่างนี้ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ รู้ยัง เท่าไหร่ 1 หมื่นล้านบาท (น้ำเสียงดังขึ้น) ต่อเดือน นะ คือ เราลดภาษีสรรพสามิตตัวเดียวเนี่ยแหละ ก็ยังเห็นว่ายังเดือดร้อนอยู่ ก็ต้องทำต่อไปอีก ต่ออีก 4 เดือน ก็อีก 4 หมื่นล้านบาท เข้าใจยัง

สถานการณ์กองทุนน้ำมันฯก็ติดลบอยู่เดิม เมื่อเราลดภาษี เราลดไปอย่างนี้เรื่อย ๆ รายได้ก็ไม่กลับมา รายได้ที่มันตรงมาแก้ปัญหาเฉพาะจุดด้านพลังงานก็ไม่ได้ ก็ไปดึงเงินตรงอื่นมา ซึ่งอาจจะมีภาษีสูงขึ้น เก็บรายได้มากขึ้น แทนที่จะไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ ก็ต้องมาดูแลตรงนี้ ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ก็ต้องตัดสินใจ เพราะประชาชนเดือดร้อนไง แก้ปัญหาพุ่งเป้าไง เข้าใจไหมจ๊ะ เออ ไม่มีอะไรได้มาเปล่า ๆ หรอก

ทีนี้ เราก็ต้องมาทำยังไง เราก็ต้องติดตามสถานการณ์ภายนอก ต้องรับรู้ด้วยสิ สถานการณ์ภายนอกเป็นยังไง ราคาน้ำมันเป็นยังไง การสู้รบยังมีอยู่หรือเปล่า พลังงานมาจากไหน ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ครบลูป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….

โดยเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกันในบัญชีพิกัดภาษีสรรพสามิต ประเภทที่ 01.05 รายการน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันและรายการน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ โดยปรับอัตราภาษีลดลง ประมาณ 5 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 ถึง 20 พฤษภาคม 2566 โดยเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 20 มกราคม 2566 นี้

ร่างกฎกระทรวงที่เสนอในครั้งนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของรัฐ โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมาตรการภาษีครั้งนี้ จะดำเนินการเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน จึงคาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท

นายอนุชากล่าวว่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากน้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนในภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันในครั้งนี้จะช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจในระดับที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการปรับลดอัตราภาษี เพื่อให้ฐานะการคลังของประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น

รวมทั้งให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐเป็นไปตามประมาณการการจัดเก็บรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลดูแลมาตรการนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลพี่น้องประชาชน ในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานของโลกยังคงผันผวนและสูงอยู่