ฝ่ายค้าน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เชือด “ศักดิ์สยาม” เอื้อประโยชน์บุรีเจริญ

ฝ่ายค้านหอบหลักฐาน 14 รายการ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เชือดศักดิ์สยาม มีส่วนทางตรง-ทางอ้อม ในงบประมาณ เอื้อประโยชน์บุรีเจริญ

วันที่ 25 มกราคม 2566 ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมยื่นหนังสือผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้เสนอเรื่องไปยังประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีและสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเข้าข่ายมีการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 144

นพ.ชลน่านแถลงว่า สืบเนื่องจากฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ 151 กล่าวหานายศักดิ์สยาม มีข้อกล่าวหาหลายประการ ส่วนหนึ่งฝ่ายค้านได้ยื่นไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เช่น กรณีที่นายศักดิ์สยามและญาติมีบ้านพักบนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริเวณเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

แต่วันนี้ฝ่ายค้านยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะของนายศักดิ์สยาม เนื่องจากเป็นผู้เสนอตั้งงบประมาณของกระทรวงคมนาคม ในฐานะรัฐมนตรี และขณะเดียวกัน ก็เข้าร่วมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณในฐานะ ส.ส. และเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2564

นายศักดิ์สยามได้กระทำการทั้งทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายเพื่อให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 วรรคสอง โดยเรามีเอกสารหลักฐานประมาณ 14 เรื่อง ดังนั้น เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีผลเพราะเอกสารหลักฐานมีพร้อม

“เราไม่มีอาฆาตมาดร้ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ทำหน้าที่ ไม่เกี่ยวว่าเป็นช่วงใกล้เลือกตั้งหรือไม่ เพราะฝ่ายกฎหมายไปดูแล้วเข้าข่ายมาตรา 144” นพ.ชลน่านกล่าว

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายศักดิ์สยาม ซึ่งปกปิดทรัพย์สินของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งได้งานจากกระทรวงคมนาคมหลายโครงการ และเอกชนแห่งนี้หากนายศักดิ์สยามยังคงความเป็นเจ้าของ แน่นอนว่าการรับงานของกระทรวงคมนาคม จะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์อย่างแน่นอนที่สุด

“ครั้งหนึ่งศาลเคยวินิจฉัยความเป็นเจ้าของหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ครั้งนั้นศาลวินิจฉัยว่ามีเหตุ มีเหตุควรสงสัยว่านายธนาธรไม่ได้โอนหุ้นจริง ดังนั้น ศาลมีอำนาจวินิจฉัยเรื่องนี้แน่นอน” นายปกรณ์วุฒิกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเจตนารมณ์สูงสุดของรัฐธรรมนูญที่โฆษณาว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ห้ามรัฐมนตรีหรือ ส.ส.มีส่วนไม่ว่าทางตรงทางอ้อมกับการพิจารณางบประมาณ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และยังเป็น ส.ส.อยู่ด้วย มีการตั้งงบประมาณในฐานะรัฐมนตรี และพบว่าท่านไปเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ในฐานะ ส.ส.ถือว่าครบเงื่อนไขหลักเกณฑ์ความผิด

นายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนในฐานะที่อภิปรายไม่ไว้วางใจนายศักดิ์สยาม และยังโดนสมาชิกจากภูมิใจไทย ปราศรัยด่าว่าเป็นคนโง่ ดังนั้น ขอให้ติดตามการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตนมีคลิปอะไรดี ๆ มาให้ติดตาม จะได้รู้ว่าคนที่โง่ที่พูดว่าเป็นคนดี ใครเป็นคนโง่กันแน่