สามมิตรแตก สมศักดิ์ การันตี พลังประชารัฐ เป็นรัฐบาล 99%

สมศักดิ์ เทพสุทิน
สมศักดิ์ เทพสุทิน

สมศักดิ์การันตีพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล 99% แนะอุตตม-สนธิรัตน์ ทำตัวให้เหมือนน้ำ ยอมรับกลุ่มสามมิตรแตก ธนกรอ้าแขนรับอนุชาร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ ฟุ้งพูดจะหาว่าคุย กระแสดีมาก ผู้สมัครล้นต้องทำโพลตัดสิน

วันที่ 31 มกราคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐและแกนนำกลุ่มสามมิตรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กลับมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐอีกครั้งจะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ ว่าตนไม่เคยลงชื่อขับไล่นายอุตตมและนายสนธิรัตน์ และจะไม่มีปัญหาการทำงานร่วมกัน

เมื่อผู้ใหญ่ในพรรคกำหนดทิศทางเป็นอย่างไรแล้ว เราก็สามารถทำตัวให้เหมือนน้ำในแก้วที่มีน้ำแข็งอยู่ ต้องแทรกแซง หรือประสานเป็นเนื้อเดียว เพื่อให้ทำงานไปได้เพื่อส่วนรวม ซึ่งการมีบุคลากรของพรรค มีผู้สมัคร หรือมีผู้ที่มีความรู้ทางการเมือง การบริหารมาเสริมให้มันแน่นขึ้น ผมก็คิดว่าไม่แย่ไปกว่าเดิมและจะดีขึ้น

เมื่อถามย้ำว่า นายอุตตมกับนายสนธิรัตน์จะสามารถทำงานได้กับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เราทำตัวให้เหมือนน้ำในแก้ว สามารถที่จะพัฒนาหรือปรับเข้าไปสู่สภาพที่มีภาชนะรองรับ ก็ปรับไปตามนั้น

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ส่วนอนาคตทางการเมืองของตนก็คงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า กลุ่มสามมิตรอยู่กับพรรคพลังประชารัฐครบทั้งสามคน (นายสมศักดิ์ นายอนุชา นาคาศัย และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่าเหมือนครอบครัวใหญ่ เรามีลูกมีหลานมันก็ต้องออกเรือน ถ้าเราออกเรือนไป เติบใหญ่ไปเป็นเถ้าแก่ ที่โน่น ที่นี่ ที่นั่นได้ ก็ดี ถ้าเราออกเรือนไปแล้วไม่สามารถเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ได้มันก็เท่าทุน ก็ให้โอกาสแต่ละคน ก็ไม่ได้ไปบังคับให้อยู่อย่างนี้ เราไม่ใช่นักเลง เราเป็นคนทำงานก็ต้องให้โอกาสคน เหมือนกับครอบครัวใหญ่ ๆ ก็ต้องออกเรือนไปแต่งงาน มีครอบครัว ขยายออกไป

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นการการันตีว่า หลังเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นรัฐบาลแน่นอนใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า 99%

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่นายอนุชาจะย้ายจากพรรคพลังประชารัฐมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะรวมไทยสร้างชาติก็อยากให้หลายท่านที่ตนเคารพ นับถือ ซึ่งนายอนุชาก็เหมือนพี่ชาย ตนก็อยากให้ท่านมาช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำมาเป็นประโยชน์กับประชาชนหลายด้าน เพราะฉะนั้นการจะมีคนที่ดีและมีอุดมการณ์เดียวกันมาช่วย พล.อ.ประยุทธ์เป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว

“ผมเชื่อว่าไม่ได้มีแค่นั้น ช่วงเวลาอีกไม่นาน ผู้หลักผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านก็แสดงความจำนงมาช่วยพรรค พูดไปแล้วเดี๋ยวจะหาว่าเราคุย วันนี้หลังจากท่านนายกรัฐมนตรีเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ มีการลงพื้นที่ ทำให้กระแสดีขึ้นมาก ทำให้วันนี้เรามีผู้สมัครบางพื้นที่ทับซ้อนกันอยู่ กติการเราคือเลือกคนที่พี่น้องให้ความไว้ใจสูงสุด จึงต้องมีการทำโพลบ้าง คนที่ไม่ได้รับเลือกก็ให้มาช่วยงานในพรรค ทุกวันนี้ทุกพื้นที่มีผู้สมัครเกิน ซึ่งกว่าจะถึงวันเลือกตั้งก็จะมีผู้มาร่วมงานกับพรรคอีกหลายคน” นายธนกรกล่าว