สนธยา คุณปลื้ม เลือกทักษิณเป็นแต้มต่อ อุ๊งอิ๊ง แคนดิเดตนายกฯคนเดียว

คอลัมน์ : สัมภาษณ์พิเศษ 
ผู้เขียน : ณัฐวุฒิ การัณยโสภณ / อิศรินทร์ หนูเมือง

3 ทศวรรษ คืออายุงานการเมือง ของสนธยา คุณปลื้ม ลูกกำนันเป๊าะ-ผู้ทรงอิทธิพล แห่งภาคตะวันออก คือตำแหน่งทางการเมือง ที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด

6 ตำแหน่ง 9 พรรคการเมือง เป็นตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี และพรรคที่สังกัด “สนธยา” ผ่านมาแล้วทั้งกระแสพรรคเทพ-พรรคมาร ไทยรักไทยพรรคเดียวจัดตั้งรัฐบาล และ “พรรค คสช.”

การเลือกตั้ง 2566 คือสนามแข่งขันที่ดุดัน แตกต่างจาก 3 ทศวรรษที่ผ่านมา อย่างน้อยครั้งนี้ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” ต้องชิงเก้าอี้ ส.ส.กับคนเคยอยู่ในบ้าน ออกไปตั้ง “บ้านใหม่-ตระกูลชมกลิ่น”

เดิมพันการเมืองไม่เพียงแค่ต้องหอบ ส.ส.เพื่อไทย ให้กลับเข้าสภาผู้แทนฯให้ได้ 10 เขต แต่ต้องดันให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผงาดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

และนี่คือคำสัญญา-สาบาน จากบ้านใหญ่ ที่มีสายเลือดการเมืองมากว่าครึ่งศตวรรษ

การเลือกตั้ง 2566 เข้มและดุกว่าทุกครั้งในรอบ 30 กว่าปีอย่างไร

เป็นเรื่องปกติของคนที่อยู่ในสนามการเมือง ถ้านับเฉพาะผมเองอยู่การเมืองเต็มตัวตั้งแต่ 2531 นับถึงปีนี้ 35 ปีแล้ว ใช้เวลากับการเมืองมากว่าครึ่งชีวิต เพราะเราทำงานการเมืองมา เริ่มต้นตั้งแต่ผู้ช่วย ส.ส. ติดตามท่านรัฐมนตรีนิคม แสนเจริญ (อดีต รมช.คมนาคม) ซึ่งเป็นน้องของคุณแม่ผม

แต่ถ้านับครอบครัวเราตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อ (กำนันเป๊าะ สมชาย คุณปลื้ม) ตั้งแต่ปี 2512 ที่เรานับว่ามีการเมืองจริงจัง พล.ต.ศิริ บุญชู โรจนเสถียร สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ครอบครัวเราอยู่การเมืองมา 50 ปี เราเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ทางการเมือง

เราต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ไม่ว่าระดับท้องถิ่น หรือระดับประเทศ ซึ่งที่ผ่านมายืนยันได้อย่างชัดเจนว่าเรามองเรื่องงานเป็นหลัก เรามองเรื่องปัญหาที่มีขึ้น เป็นสิ่งที่เราต้องแก้ เป็นประสบการณ์ในการทำงานต่อไป และการเมืองก็จะสั่งสมประสบการณ์ให้กับเราตลอด ไม่ว่าเป็นรุ่นพ่อถ่ายทอดมาถึงเรา

ผมมีเวลาอยู่กับพ่อเยอะ ดังนั้นมีเวลาที่จะคุยกัน และพ่อเองถ่ายทอดให้กับเราไม่ว่าการพูดหรือการกระทำโดยเฉพาะการเมือง หรือเรื่องคน

เดิมพันบ้านใหม่-ชมกลิ่น คือเอาประยุทธ์ เป็นนายกฯ เดิมพันบ้านใหญ่-คุณปลื้ม ใครเป็นนายกฯ

ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย วันนี้เรามองเห็นว่าเป็นคุณแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งในทางการเมืองคนอาจมองว่าใหม่ แต่ด้วยองค์ประกอบ ทีมงาน องคาพยายพ หรือความรู้ความสามารถส่วนตัว การนำพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้งให้ประชาชนได้ตัดสินใจ

ซึ่งผมมองว่าเราเห็นโพล การสำรวจความคิดเห็น แม้แต่เราเอง หรือพื้นที่เรา พรรคเพื่อไทยได้รับคะแนนความนิยม คุณแพทองธาร ก็ได้รับความนิยม อยู่ในอันดับการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของประเทศไทย ดังนั้น ในการเลือกตั้ง ทุกพรรคต้องชูแคนดิเดตนายกฯ ของตัวเอง

แต่เรื่องการตัดสินใจอยู่ที่ประชาชน สุดท้ายคือผลการเลือกตั้ง ที่จะออกมาว่าพรรคไหนได้รับความไว้วางใจ มี ส.ส.เข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง มากที่สุด หรือรวมกันได้มากที่สุด เป็นธรรมเนียมทางการเมือง เมื่อเรามาอยู่พรรคเพื่อไทย เรามั่นใจ

ระหว่างพรรครวมไทยสร้างชาติ กับพรรคพลังประชารัฐ ใครคือคู่แข่งที่แท้จริง

ปัญหา และความต้องการของประชาชน คือคู่แข่งของเรามากกว่า เราไม่ได้มองว่าเป็นพรรคไหน คนไหนจะต้องเป็นคู่แข่ง แต่เรามองว่าปัญหาของบ้านเมืองคืออะไร แนวทางที่เราต้องแก้ปัญหาในแต่ละเรื่องคืออะไร ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง การก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อที่ทำให้ทุกคนร่วมกันเดินต่อไปข้างหน้า

เราจึงไม่ได้มองว่าคู่แข่งคือพรรคไหน อย่างไร ถ้าเราสามารถนำเสนอนโยบายให้กับประชาชนได้มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยสามารถเดินหน้าในปี 2570 ตามเป้าหมายที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คุณแพทองธาร กับหัวหน้าพรรค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ได้ประกาศไว้ทั้ง 10 นโยบาย เป็นสิ่งที่จะต้องทำให้เห็น ทำได้จริง เป็นผลงาน รวมถึงผลงานที่ผ่านมาก็จะสร้างความเชื่อมั่นได้

ผมมองว่าตรงนั้นเป็นหลักมากกว่า เรามองว่าชลบุรี และภาคตะวันออกเป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศ เพราะภาคตะวันออก 8 จังหวัด มีขนาดเศรษฐกิจประมาณ 2.85 ล้านล้าน ถือเป็นอันดับสองรองจากภาคกลาง ซึ่งรวม กทม.ด้วย ถ้าไม่รวม กทม. ภาคตะวันออกเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ

ถ้ามองภาคตะวันออก ระยองคืออันดับหนึ่ง ชลบุรีอันดับสอง ฉะเชิงเทราอันดับสาม อันดับสี่คือปราจีนบุรี ถ้าลงลึกไปอีก 4 จังหวัด เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีอุตสาหกรรม ท่าเรือ เป็นพื้นที่เป้าหมายของประเทศ อีก 4 จังหวัดเป็นพื้นที่เกษตร ท่องเที่ยว และเรื่องอื่นเข้ามา เรามีครบหมดทั้งเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายก็อยู่ที่นี่

การขับเคลื่อนโดยพรรคการเมืองที่มีขนาดใหญ่ มีนโยบายที่สอดคล้องกับเป้าหมายพรรคเพื่อไทยคือ เขตเศรษฐกิจใหม่ NBZ ซึ่งเป็นแนวทางที่ไปกับเรา เป็นการนำพาพื้นที่เศรษฐกิจของประเทศมาสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศให้สูงขึ้น ผมก็ถือว่าเป็นจุดที่ทำให้เรามองว่าพรรคเพื่อไทยตอบโจทย์กับเรา

จะพูดให้คนเลือกสนธยา คุณปลื้ม และ ส.ส.ทั้ง 10 คน ชูจุดขายอะไร

ส่วนหนึ่งที่สำคัญคนมองว่าการทำงานที่ผ่านมาแต่ละคนเป็นอย่างไร กับชาวบ้านมองเรื่องความคุ้นชิน การทำงานของทีมงานเราทั้งหมดทำงานกันแบบไหนเราสามารถพูดได้เลยว่าเราทำงานตั้งแต่ระดับท้องถิ่น รากหญ้า เพราะเรามีผู้แทนที่มีเครือข่ายของเรา ตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่ ผู้ช่วย สารวัตร

พอขึ้นมาท้องถิ่นก็มีนายกฯ ทั้งหลาย มี อบจ.เป็นตัวหลัก ที่มีนายกวิทยา คุณปลื้ม เป็นหลักการทำงานร่วมกัน พอมาการเมืองระดับประเทศ อย่างตัวผมเองเป็น ส.ส.มาหลายสมัย เป็นรัฐมนตรีมา 6 กระทรวง สามารถที่ทำงานเป็นเครือข่าย

รวมถึง อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ก็ทำงานอย่างเต็มที่ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นเว่าโครงข่ายของเราทำงานจริงจัง มีความจริงใจ และมีผลงานแค่ไหน บางครั้งมีปัญหาชาวบ้าน องค์กรปกครองท้องถิ่นสามารถแก้ปัญหาได้เลย และบอกว่าด้วยว่ารัฐมนตรีฝากไว้ สนธยา ฝากไว้ให้มีการดูแลแบบนี้ เป็นโครงข่าย ถ้าเหนือบ่ากว่าแรงก็จะขึ้นมาเป็นลำดับ

จริง ๆ แล้ว ตั้งแต่ยุคคุณพ่อ ที่อยู่บนยอด มีหลักอยู่ทุกอำเภอในการประสานงาน จะเห็นว่าปัญหาหรือเรื่องทั้งหมดในพื้นที่มีเครือข่ายมอบหมายให้แต่ละคนไปทำ เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความมั่นใจในการทำงาน จน อบจ.ใช้แนวทางทำงานมาตลอดคือ รวมกันเป็นหนึ่ง เป็นที่พึ่งประชาชน เป็นสโลแกนของเรา และใช้คำว่าจริงใจ พัฒนา เป็นแค่คำสั้น ๆ แต่ให้เห็นว่าเราทำงานกันมาแบบไหน

คู่แข่งบ้านชมกลิ่น เป็นคู่แข่งที่แหลมคมแค่ไหน

ขึ้นอยู่กับว่าเรามองจุดไหน ถ้าเรามองเป็นคู่แข่งก็ถือว่าเป็นคู่แข่ง ก็แข่งกันไป อยู่ที่ประชาชนจะให้ความมั่นใจกับทีมเราแค่ไหน และเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาจะเป็นตัวพิสูจน์ได้ว่าการตัดสินใจของประชาชนจะตัดสินใจเลือกใคร ถ้ามองในทางการเมืองเราถือว่าเป็นคู่แข่ง เราก้าวข้ามเรื่องอื่นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้

ดังนั้น กลยุทธ์ หรือ ยุทธวิธี เรื่องการเลือกตั้ง หรืออยู่ในสนาม ขึ้นอยู่กับว่าเราวางกลยุทธ์อย่างไร และแก้ไขปัญหาในแต่ละเรื่องอย่างไร เพราะปัญหามีหลายอย่าง ปัญหาด้านการเมือง ปัญหาการใส่ร้ายป้ายสี สร้างเรื่อง เพื่อผูกโยงให้เกี่ยวกับการเมือง

ก็เป็นเรื่องที่เราดูว่าปัญหาคืออะไร ประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาแต่ละเรื่องเป็นอย่างไร และมาแก้ไขปัญหาให้ถูกจุดเท่านั้นเอง

ไม่ได้คิดว่าเป็นการแข่งกันระหว่างบ้านใหญ่ กับบ้านใหม่

เปล่าเลย เรื่องนี้ก็แค่ปัญหาหนึ่ง เรื่องหนึ่งที่เรา ที่ก็ต้องดูว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรเท่านั้นเอง เราให้น้ำหนักเรื่องปัญหาภาพรวมบ้านเรา ปัญหาภาพรวมของภาค และเข้าไปสู่ประเทศ ผมเชื่อว่าเป็นหลักมากกว่าในการที่ไปให้น้ำหนักมากกับบางเรื่อง

ร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งแต่ยุค คสช. ประเมินโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาเป็นนายกฯ มีมากหรือน้อย

ผมเริ่มมาทำงานกับท่าน เดือนเมษายน 2561 เข้ามาในฐานะที่ปรึกษานายกฯ และอีอีซี รัฐมนตรีอิทธิพล คุณปลื้ม ตอนนั้นเข้ามาในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรี ตอนเริ่มต้นเข้ามาเพราะโครงการอีอีซี เพราะอยู่ในบ้านเรา ถ้าเราเข้าร่วมมาตั้งแต่ต้น มันเป็นโอกาสในการทำงาน เราถือว่าทำงานด้วยกันมาตลอด จนถึงปี 2566

หลังเลือกตั้ง ตอนทำพรรคพลังประชารัฐ ถ้าตามกันอยู่จะเห็นว่าเราโพสต์ถึงพรรคพลังประชารัฐว่า เรามาร่วมกันสร้างพรรคนี้ตั้งแต่ต้น ซึ่งเห็นว่าผลงานต่าง ๆ สิ่งที่เราเห็นทั้งหมดเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจของประชาชนว่าจะเลือกใคร พรรคไหน

ดังนั้น ทุกคนมีโอกาส ถ้าจะให้บอกว่า ใครมีโอกาสมาก โอกาสน้อย คนที่จะตัดสินใจได้คือประชาชนมากกว่า เพราะเป็นผู้ที่ได้รับผลจากการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ และรัฐบาลที่ผ่านมา จะส่งผลมาถึงการตัดสินใจของประชาชน จุดสุดท้ายหลักคือประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ

ความหวังและความตั้งใจสูงสุดในการเลือกตั้ง 2566 คืออะไร

เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ได้เข้ามา และทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายหลังจากการเลือกตั้งให้ดีที่สุด ไม่ว่าเป็นตำแหน่ง ส.ส. หรือตำแหน่งใดก็แล้วแต่ เป็นสิ่งที่คุณพ่อพูดกับเราไว้อยู่ดี การเมืองมีได้มีตก มีได้เป็น มีไม่ได้เป็น มีตำแหน่ง ไม่มีตำแหน่ง อยู่ที่ว่าเราจะทำงานให้ดีที่สุด เกิดประโยชน์ที่สุดได้อย่างไร

จะเห็นว่าไม่ว่าเราเป็นฝ่ายค้าน เป็นฝ่ายรัฐบาล หรือ เป็นรัฐมนตรี หรือไม่มีตำแหน่งอะไรเลย เราก็สามารถทำงานได้ การเมืองก็คือสิ่งที่เราตั้งใจจะทำอะไรมากกว่า ถ้าเรายึดติดไปหมดว่าเที่ยวนี้แพ้แน่เลย เราไม่ได้เป็น ส.ส.ทิ้งเลย แล้วเที่ยวหน้าว่ากันใหม่ มันจะไม่มีความต่อเนื่อง และประชาชนจะเห็นเอง การแพ้ไม่ใช่ว่าเราได้ศูนย์คะแนน การแพ้คือเรายังมีคะแนน ดังนั้น เราต้องทำให้คนไว้วางใจเลือกเรา

เหมือนเลือกตั้งคราวที่แล้ว เราแพ้ไป 3 เขต ถ้าไปดูข้อเท็จจริงเป็นเพราะการยุบพรรคไทยรักษาชาติ คะแนนจึงออกเป็นลักษณะนั้น แต่คะแนนของเราไม่ได้ทิ้งน้ำไปไหนเลย ซึ่งเราก็ยอมรับ และทำงานกันใหม่ เที่ยวนี้ถือว่าเราเดินหน้าอย่างเต็มที่

การทำงานเรามองอะไรมากกว่า มองงาน มองปัญหา ผมถึงพูดตลอดว่างานมีไว้ทำ ปัญหามีไว้แก้ ทำให้เราคิดมองไปข้างหน้าได้

เป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่ คาดการณ์จับขั้วรัฐบาลหลังเลือกตั้งอย่างไร

เรายังมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับ 1 แลนด์สไลด์ไปเกิน 250 นั่นคือเป้าหมาย แต่จะได้ตัวเลขเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง จะมีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเหมือนทุกครั้ง

แต่การจัดตั้งรัฐบาลไม่เหมือนกับคราวที่แล้ว เพราะคราวที่แล้วเป็นการเลือกตั้งหลังจากเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ดังนั้น บรรยากาศการเมือง ณ วันนี้ จะไม่เหมือนกับอดีตแน่นอน ถ้าเราคิดว่าวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้ง หลังวันที่ 7 พฤษภาคม บรรยากาศทุกอย่าง องค์ประกอบการเมือง รวมถึงปัญหาของประเทศจะไม่เหมือนปี 2562 แน่นอน

เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับหนึ่ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล การที่เราจะดูว่าพรรคการเมืองไหนที่เข้ามาร่วมรัฐบาล ดู ส.ส.แต่ละพรรคเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับจำนวนที่ได้รับความไว้วางใจในแต่ละพรรคการเมือง

สามารถประนีประนอมกับพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ในการจัดตั้งรัฐบาล

ผมให้คำตอบไม่ได้ เราไม่ใช่ผู้ที่ตัดสินใจของพรรค ถึงบรรยากาศ ณ วันนั้นจะมีองค์ประกอบหลายอย่าง อย่างแรกคือผลการเลือกตั้งแต่ละพรรคได้ ส.ส.จำนวนเท่าไหร่ สมการทางการเมืองจะออกมาเป็นอย่างไร การที่รวมเสียงให้ได้ 375 เสียง จะสามารถทำได้อย่างไร มีองค์ประกอบกี่พรรคเข้ามาบ้าง

ซึ่งตรงนั้นเชื่อว่า ณ วันนั้น ประชาชนจะเป็นหลักในการนำการตัดสินใจของพรรคร่วมรัฐบาล หรือสมาชิกวุฒิสภา ที่จะเข้ามามีบทบาทในการเลือกนายกฯ เสียงของประชาชนจะกำหนดทิศทาง รวมถึงการตัดสินใจของ ส.ว.ด้วย

ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ต้องได้ ส.ส.เท่าไหร่ และชลบุรี ได้เท่าไหร่

คำว่าแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย คือ เกิน 250 เสียง ชลบุรีก็เช่นกัน 10 คน คือเป้าหมายที่เราทำให้ประชาชนให้ความไว้วางใจเลือกเราทั้ง 10 เขต

ถ้าพรรค 2 ป. รวมกันเป็นอันดับสอง จะสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ไหม

ถ้า ณ วันนี้ พรรคอีก 1 ป. น่าจะเป็น ต. พี่ตุ๋ย ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (รวมไทยสร้างชาติ) มากกว่านะ ถ้ามองตัวเลขทั้งหมดเป็นตัวเลขของพรรคพลังประชารัฐในคราวที่แล้วก็เป็นอันดับ 2 แต่วันนี้แบ่งออกเป็น 2 ขั้ว 3 ขั้ว สำหรับพรรคเดิม ก็ยังบอกไม่ได้ว่าพรรคใดจะเป็นแกนนำจัดตั้ง หรือพรรค 2 ป.รวมกันจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

ซึ่งวันนี้ยังเป็นการคาดการณ์เท่านั้นว่าจะเป็นอย่างไร ทั้ง 2 พรรคมีความมั่นใจและพูดถึงเป้าหมายของตัวเองอยู่ เหมือนที่พรรคเพื่อไทยตั้งเป้า และผมตั้งเป้า แต่สุดท้ายคือวันเลือกตั้งว่าตัวเลขการไว้วางใจจากประชาชนที่จะได้รับเป็นอย่างไร

นักวิเคราะห์การการเมือง มองว่าถ้าจะเป็นรัฐบาล ทุกขั้วขาดพรรคภูมิใจไทยไม่ได้

พรรคภูมิใจไทย ณ วันนี้ ที่วิเคราะห์กันไม่น้อยกว่า 80 ที่นั่ง ก็จะทำให้เป็นพรรคตัวแปรได้ ไม่ว่าที่หัวหน้าพรรค (อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย) มาพูด หรือ ครูใหญ่ (เนวิน ชิดชอบ) มาพูด เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า การเมืองไม่ได้อยู่ ณ วันนี้ แต่อยู่ ณ วันเลือกตั้ง ผลเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร จะเป็นจุดชี้ว่ารัฐบาลออกมาหน้าตาแบบไหน

ประชาชนจะเป็นคนกำหนด เพราะประชาชนเป็นผู้ที่เข้าคูหาแล้วกาคะแนน ไม่สามารถจับมือใครไปกาได้ แต่เราสามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจ เข้าคูหา และกาให้เราได้

การกลับมาอยู่ฝ่ายเดียวกับคุณทักษิณ ชินวัตร เป็นต่อ หรือเป็นรองทางการเมือง

ถ้าเราพูดถึงกระแสที่มีอยู่ในปัจจุบัน เรามองว่าเป็นต่อทางการเมือง กระแสจากโพล ที่เราเห็นมาจากการวิเคราะห์ แต่การที่เรากลับมาในครั้งนี้เราวิเคราะห์และสำรวจของเราเช่นเดียวกันว่า ที่เราทำงานกับเครือข่ายทั้งหมดไม่ว่าท้องถิ่น ท้องที่ หรือประชาชน

เราได้ลงไปพูดคุยสำรวจด้วยตัวเราเอง และสำรวจทางวิชาการ ประชาชนคาดหวังให้พรรคการเมืองที่มาแก้ปัญหาคือพรรคเพื่อไทย ซึ่งตรงกับแนวทางของกลุ่มเรา จึงกลับเข้าไปทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้งหลังจากที่เราเคยเข้าไปทำงานด้วยกันในปี 2548 เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจในครั้งนี้

ถ้าสุชาติ ชมกลิ่น ลงเขต 1 สนธยา คุณปลื้มจะลงสู้ไหม

เราวางตัวไว้แล้ว ในเรื่องการลงเขตไหนเราไม่ได้สนใจ อย่างที่ผมว่า คู่แข่งใครจะลงเขตไหนอย่างไร เป็นการพิจารณาของคู่แข่งทุกพรรคว่าจะลงเขตไหน แต่เรากำหนดตัวไว้แล้ว เขต 1 สุภีพรรณ หอมหวน หรือ ส.จ.แอ้ เขต 2 เป็นใครจนถึงเขต 10 เรามองจุดนั้นมากกว่า การคัดเลือกคนลงไปเป็นผู้สมัครให้ประชาชนพิจารณา สำคัญกว่า เพื่อให้ประชาชนในเขตนั้นมอง พิจารณา ตัดสินใจเลือกเราไปเป็นผู้แทน

ปัจจัยชี้ขาดที่ทำให้แพ้ หรือ ชนะ คือตัวบุคคล หรือนโยบายที่ดีไซน์โดยพรรคเพื่อไทย

เป็นองค์ประกอบ ทุกคนก็ต้องนำเสนอนโยบาย ไปจนถึงตัวบุคคลของตัวเอง แต่สุดท้ายเราต้องให้เกียรติประชาชนในการตัดสินใจบนพื้นฐาน ในการนำเสนอในสิ่งที่เราเชื่อมั่นจะทำให้เขาไว้วางใจเลือกเรา