เศรษฐา ประกาศอัพราคาข้าวขึ้น 3 เท่า ชม ประวิตร ทำกับข้าวอร่อย

นายเศรษฐา ทวีสิน

เศรษฐา ลงพื้นที่เป็นครั้งที่ 2 พบปะชาวนา ประกาศอัพราคาขึ้น 3 เท่า พร้อมกินข้าวกับชาวบ้าน ก่อนชม บิ๊กป้อมทำกับข้าวอร่อย

วันที่ 10 มีนาคม 2566 ที่ตำบลลาดชิด อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับชาวนาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย

รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วยผู้สมัคร จ.พระนครศรีอยุธยา นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล นายองอาจ วชิรพงศ์ นายจิรทัศ ไกรเดชา นายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ร่วมรับฟังปัญหาของเกษตรกรชาวนา

นายเศรษฐา ทวีสิน

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า วันที่ 17 มีนาคมนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา จะประกาศนโยบายชุดใหญ่ให้พี่น้องพิจารณา และภายในปี 2570 ค่าแรงวันละ 600 ทำได้แน่นอน พร้อมทั้งยกระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 25,000 บาท แน่ ๆ รวมถึงข้าราชการที่จบปริญญาตรีก็จะยกระดับเช่นกัน

“เราจะคุยกับชาวนา ต้องคุยกันกลางนา จะได้รู้ว่าชาวบ้านเป็นอย่างไร เลือกพรรคอื่นได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลือกพรรครัฐบาลปัจจุบัน ได้ พล.อ.ประยุทธ์ มีแต่เลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับบ้านได้” นายณัฐวุฒิกล่าว

ขณะที่ตัวแทนเกษตรกร เรียกร้องให้ช่วยเรื่องระบบชลประทาน รวมถึงราคาปุ๋ยที่มีราคาสูง และต้องการให้ราคาข้าวสูงขึ้น

ด้านนายเศรษฐากล่าวว่า จากที่ได้ฟังมา ทราบว่ามีปัญหาเยอะเหลือเกิน เรื่องความเป็นอยู่ชาวนา 8 ปีที่ผ่านมา เราอยู่ในกับดักของหลุมดำ ราคาข้าวไม่ดี น้ำท่วม น้ำแล้งตลอด ขาดการเอาใจใส่ดูแล

นายเศรษฐา ทวีสิน

ทางพรรคเพื่อไทยได้ดูมา ในหลาย ๆ อำเภอ มีน้ำท่วมเยอะ แผนงานของเราคิดว่าทำฟลัดเวย์ เพิ่มพื้นที่รับน้ำในฤดูน้ำหลาก ส่วนน้ำแล้ง จะต้องขุดบ่อเพื่อกักเก็บน้ำ รวมไปถึงจะต้องจัดหาปั๊มน้ำเข้ามาให้ชาวนาไว้ใช้สำหรับทำนาด้วย และนำถนน ไฟฟ้าเข้ามา ยังพื้นที่นา

ส่วนปัญหาหนี้สินเกษตรกร ก็ต้องสะสางซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ เรื่องราคาข้าว รัฐบาลไม่มีการไปเปิดตลาดใหม่ ไม่ทำหน้าที่ขายของ ถ้าหากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจ ได้ ส.ส. 5 เขต กรุยทางสู่ทำเนียบรัฐบาล เราจะไปเปิดตลาดค้าขายใหม่ ๆ ยกระดับราคาข้าวได้มากฃึ้น

“จากข้อมูลค่าเฉลี่ยผลผลิตข้าว 500 กิโลกรัมต่อไร่ แต่เราสามารถยกระดับ 1,200 กิโลกรัมต่อไร่ได้ โดยใช้นวัตกรรม วัดเรื่องค่าความเค็มความด่าง ใช้ปุ๋ยอินทรีย์มาลง แก้ปัญหาได้ถูกจุดมากกว่า”

วันนี้เป็นครั้งแรกมาลงพื้นที่ รับฟังปัญหาของพี่น้องทุกคน หนักใจไม่ได้หมายความว่ามีทางออกทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยเรามีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ในทุกเรื่อง

ด้าน น.สพ.ชัย วัชรงค์ คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าจะเพิ่มเงินในกระเป๋า 3 เท่า จากไร่ละ 1 พันบาท เป็นไร่ละ 3 พันบาท การเพิ่มสามเท่านี้ เราไม่ได้พึ่งพิงแค่หมากเรื่องราคาอย่างเดียว แต่เราจะขยับหมากตัวอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กันคือ ต้นทุนการผลิต

นายเศรษฐา ทวีสิน

ได้ข่าว บิ๊กป้อม ทำอาหารอร่อย

จากนั้น นายเศรษฐา ได้เดินลงยังแปลงนาของเกษตรกร เพื่อรับฟังปัญหาเพิ่มเติม พร้อมกล่าวว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ตนลงพื้นที่มาเห็นปัญหา เพราะตนอยู่ในเมือง ความต้องการของในเมืองอยากให้มีรถไฟฟ้า อยากมีเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทันสมัย แต่พอดูอย่างนี้ มีชาวนาชาวสวนชาวไร่ หลายสิบล้านคน ที่ยังมีความเดือดร้อน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่มีคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยมาร่วมรับฟังปัญหาด้วย ดังนั้น ยืนยันว่านโยบายไม่ท่วม ไม่แล้ง จะเป็นนโยบายหลักเพื่อไทย

ต่อมา นายเศรษฐาได้ไปร่วมวงกินข้าวกับชาวบ้าน โดยกับข้าวที่ชาวบ้านเตรียมไว้มีไก่ผัดขิง ซึ่งนายเศรษฐาขอเติมข้าวเพิ่ม

โดยกล่าวกับชาวบ้านว่า “ผมเป็นคนกินเก่ง แต่ทำอาหารไม่เก่ง ไม่เหมือน พล.อ.ประวิตร (วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ) ท่านทำอาหารอร่อย”

ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า เคยชิมฝีมือ พล.อ.ประวิตร ด้วยหรือ นายเศรษฐาตอบว่า “มีเพื่อนเคยไปทานข้าวกับท่าน แล้วบอกว่าอร่อย ตอนสมัยที่ท่านเป็นทหาร ได้ข่าวว่าท่านก็เปิดบ้านทำมื้อเที่ยงเลี้ยงคนที่ไปพบ แต่ส่วนตัวไม่เคยได้รับเกียรตินี้”

อัพราคาข้าว 3 เท่า

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ชาวนาขอให้ราคาข้าวไม่ต่ำกว่าตันละ 10,000 บาท ว่า ราคาเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น หากราคาข้าวแพง แต่ต้นทุนสูง เงินเข้ากระเป๋าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทต่อไร่ ซึ่งไม่มาก หน้าที่ของพรรคเพื่อไทยคือทำให้จำนวนเงินสุทธิที่จะเข้ากระเป๋าเพิ่มขึ้น 3 เท่า ในช่วงเวลาที่เราเป็นรัฐบาล จาก 1,000 บาท ให้เป็น 3,000 บาท

โดยจะต้องทั้งอัพราคาข้าว ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มผลิตผล ไปด้วยกัน ส่วนเรื่องปุ๋ย พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ โดยจะมีการสร้างผลผลิตในท้องถิ่นมาทดแทนปุ๋ยเคมีที่ราคาขึ้นลงตามราคาตลาดโลก และมีหลายปัจจัยมาควบคุม ซึ่งหากเราใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เราจะสามารถควบคุมอนาคตของตัวเราเองได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่สามารถทำได้ พรรคเพื่อไทยมั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะทำได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคงพูดเรื่อง 8 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ แต่ตนทราบถึงความคับแค้น และความอัดอั้นตันใจของชาวนาที่ประสบมาตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ว่าชาวนาไม่มีความสุข ราคาพืชผลตกต่ำ ซึ่งหากถามว่า พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะทำได้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่า ตนมั่นใจว่าเราสามารถทำได้ เรามีแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี

นายเศรษฐา ทวีสิน

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเคยประสบอุบัติเหตุเรื่องจำนำข้าว จะทำให้มีนโยบายต่างจากเดิมหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า อย่างที่ได้เรียนไปว่าเรามุ่งที่รายได้สุทธิที่จะเข้ากระเป๋าของชาวนา แต่จำนำข้าวเป็นเรื่องที่มุ่งไปที่ราคาพืชผล นโยบายของเราวันนี้คือนโยบายภาพรวมที่จะทำให้ชาวนามีเงินในกระเป๋าสูงกว่าเดิม 3 เท่า

เมื่อถามว่า วันที่ 17 มีนาคม จะมีการประกาศนโยบายใหม่เพิ่มเติม จะสามารถเรียกคะแนนนิยมให้พรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า อันนี้ต้องรอดู เราจะมีการประกาศนโยบายใหญ่ซึ่งจะฮือฮา และกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมโหฬาร

นายเศรษฐายังกล่าวถึงการโอนหุ้นแสนสิริให้บุตรสาวว่า ตนได้โอนหุ้นให้ลูกวาวที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ไหน ๆ จะเดินเข้าสู้เวทีการเมืองแล้ว ตนก็อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยที่จะไม่เอาผลประโยชน์ส่วนตัว หรือของบริษัทที่เราอยู่มาเกี่ยวข้องด้วย และผู้ที่ได้รับไปก็ต้องทำหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมาย