“บิ๊กตู่” ลงพื้นที่สมุทรสาคร ขอความร่วมมือ “เอ็นจีโอ” ช่วยแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว

“บิ๊กตู่” ลงพื้นที่สมุทรสาคร ขอความร่วมมือ “เอ็นจีโอ” ช่วยแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว ดูประโยชน์ชาติเป็นหลัก

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 5 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สมุทรสาคร ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 2/2561 ที่ จ.เพชรบุรี ในวันที่ 6 มีนาคม โดย พล.อ.ประยุทธ์ และคณะออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร มายังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จากนั้นได้เยี่ยมชมมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพแรงงาน (LPN) ต.บางหญ้าแพรก ทั้งนี้ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพแรงงาน เป็นองค์ที่ทำงานภาคประชาสังคมและเน้นการทำงานกับแรงงานข้ามชาติใน จ.สมุทรสาครเป็นหลัก เป็นศูนย์ให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่แรงงานย้ายถิ่น ส่งเสริมการรับรู้และเข้าถึงสิทธิที่พึงจะได้รับ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับตัวแทนเอ็นจีโอตอนหนึ่งว่า เข้าใจการทำงานของเอ็นจีโอ ซึ่งโลกวันนี้เป็นแบบนี้ แต่เอ็นจีโอ ก็ต้องดูด้วยว่าผลประโยชน์ประเทศชาติอยู่ตรงไหน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องปกปิดใคร ทุกอย่างต้องทำให้ถูกต้อง ยอมรับว่ามันยาก ซึ่งเรื่องของแรงงานเกี่ยวข้องทั้งผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ และตัวแรงงาน โดยทั้ง 3 ส่วนนี้ต้องช่วยกัน อย่าให้ต่างคนต่างมีปัญหา รัฐบาลจะดูในภาพรวม เชื่อมโยงกับเอ็นจีโอ รัฐบาลจะไม่เอาเอ็นจีโอไปข้างนอก เราต้องทำงานร่วมกันให้ได้ เอาปัญหามาพูดกันแล้วหาทางแก้ แต่ถ้าจะโจมตีกันไปมา คนนั้นถูก คนนี้ผิด ก็จะทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ ในเรื่องของกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ละเลยไม่เอาจริงเอาจัง เจ้าหน้าที่ก็จะต้องถูกลงโทษ ถ้ามีขอให้ส่งชื่อมาจะสอบสวนลงโทษให้ และถ้าผู้ประกอบการไหนไม่ให้ความร่วมมือ ตามกฎหมายก็จะต้องถูกลงโทษด้วย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะทำผิดไม่ได้

“ถ้าไม่มีคนให้ความร่วมมือ ถ้าไม่มีคนเสนอก็จะไม่มีคนรับ ถ้ามีคนเรียกก็ต้องฟ้องกันไป ถ้ารักษากฎหมายได้เท่านี้ทุกอย่างก็จบหมด แต่ที่ผ่านมา มันมีสมยอมกัน แม้แต่เรื่องการจดทะเบียนแรงงานในวันนี้ยังค้างอีกเกือบแสน ซึ่งเจ้าหน้าที่นัดให้ไปขึ้นทะเบียนแรงงาน แต่ผู้ประกอบการก็ไม่นำแรงงานของตัวเองไปขึ้นทะเบียน ตรงนี้เอ็นจีโอจะต้องไปไล่ในส่วนของผู้ประกอบการ ที่ไม่มาตามนัดให้รัฐบาลด้วย ทั้งหมดนี้ เอ็นจีโอจะต้องช่วยกันแก้ปัญหาด้วย พร้อมกับการชี้แจงไปยังต่างประเทศ ไม่ใช่ปล่อยให้รัฐบาลชี้แจงแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยเฉพาะปัญหาไอยูยู การค้ามนุษย์ ซึ่งเกิดจากต่างประเทศทั้งนั้น และนับวันองค์กรเหล่านี้จะมีบทบาทสูงขึ้น เพราะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจก็ต้องหามาตรการที่เกิดประโยชน์กับตัวเอง ถ้าเราไปเข้าข้างเขามากๆ ประเทศจะไม่เกิดประโยชน์อะไรแรงงานพวกเรานี่แหละจะลำบากไปด้วย ฉะนั้นบทบาทของ NGO จะต้องทำด้วยกัน 2 อย่าง คือดูแลแก้ปัญหาของตัวเองและช่วยรัฐบาลด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับแรงงานชาวเมียนมาว่า เมื่อมาอยู่แผ่นดินไทย ก็จะต้องรักทั้ง 2 ประเทศ เมืองไทยทำให้เรามีอาชีพและรายได้ ในวันข้างหน้าทุกคนก็คงต้องกลับประเทศ เพราะแต่ละประเทศมีการพัฒนา เชื่อว่าทุกคนอยากกลับบ้าน แต่ต้องยอมรับว่าวันนี้ รายได้ที่ประเทศไทยดีกว่า การดูแลก็ดีกว่า แต่ขอให้เชื่อว่าวันข้างหน้าประเทศของท่านก็จะต้องดีขึ้น ส่วนปัญหาการค้ามนุษย์ รัฐบาลไทยจะดูแลทั้งหมด โดยปฏิบัติตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานทั้งชาวไทยและพม่า โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ เช่น นายสอนรัก จีนอิน ลูกเรือประมงชาวไทย ที่ประสบอุบัติเหตุแขนขาด โดยทางมูลนิธิฯได้ดูแลเยียวยา รวมถึงนายทูน ริน อดีตลูกเรือประมงชาวพม่า ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับครูที่สอนหนังสือให้กับบุตรของแรงงานในพื้นที่ว่า ให้สอนเรื่องจิตสำนึกและคุณธรรมด้วย รวมถึงการมีอุดมการณ์ เพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข มิเช่นนั้นจะเกิดความขัดแย้งเช่นนี้ เหมือนกับที่ขัดแย้งในเรื่องของกฎหมาย

 

ที่มา : มติชนออนไลน์