หัวหน้าประชาธิปัตย์จบไม่ลง ทีมอภิสิทธิ์คุมเกม-21 สส.เพื่อนเฉลิมชัยแตกหัก

หัวหน้า ปชป
คอลัมน์ : Politics policy people forum

องค์ประชุมล้มเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ล่มเป็นครั้งที่สอง ตอกย้ำความขัดแย้งร้าวลึก แม้ไม่เป็นธรรมชาติ แต่เป็นวัฏจักรของพรรค 77 ปี

ความไม่ลงตัว-ไม่ลงรอยศึกชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9-คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ฝ่ายหนึ่ง “เดิมพัน” ด้วยเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาลผสมข้ามขั้ว อีกฝ่ายหนึ่งชี้ชะตาอนาคตของพรรคเก่าแก่ “ฟื้น” หรือ “ฟุบ”

2 ก๊กเปิดหน้าแลกหมัด

“กลุ่มอำนาจใหม่” ของ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรค ดาหน้า-เปิดหน้า 21 สส. ประณามพฤติกรรมล้ม-ล่มองค์ประชุมของ “กลุ่มอำนาจเก่า”

เท่ากับเป็นการ “เปิดหน้าชก” ของ “เฉลิมชัยกับพวก” ครั้งแรก หลังจากมีเพียงเล่าปาก-คำยืนยันของ “ผู้มีบารมี” นอกวงประชุม สส.กลุ่มผลัดใบ

สมคำร่ำลือสรรพคุณ “เจ้าของบ้าน” “ที่เปิดประตู-เปิดบ้าน” เป็น “บริษัทให้คำปรึกษา” สส.ในพรรค-นอกพรรค ทั้งในขั้ว-นอกขั้ว แต่ไม่มีเส้นแบ่ง ไม่สนทนาเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย

ขุมกำลังขั้วใหม่

21 สส.แผงอำนาจของนายเฉลิมชัย แสดงแสนยานุภาพทันทีที่องค์ประชุมล่มซ้ำซาก นำโดย สส.ประจวบคีรีขันธ์ นายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ และนายประมวล พงศ์ถาวราเดช

โดยเฉพาะ “ประมวล” ที่นั่งควบ “ประธาน สส.” ที่ถูกมองว่าเป็น “เงา” ของ “เสี่ยต่อ” แต่เขาลั่นวาจาว่า “ไม่ถูกครอบงำใด ๆ” มีเพียงทรรศนะที่ต้องการให้ประชาธิปัตย์เดินหน้า

เขายอมรับว่า ท่ามกลางบริบททางการเมืองที่พรรคเก่าแก่ที่ไม่ใช่ “พรรคใหญ่” แต่เป็น “พรรคเล็ก” ที่มี “พรรคขั้วเดียวกัน” มาแชร์อุดมการณ์ใหญ่-อุดมการณ์เดียวกัน ไม่ใช่พรรคการเมืองที่ส่งเสาไฟลงสมัครเลือกตั้งแล้วจะชนะ

ฐานที่มั่นใหญ่ของกลุ่มอำนาจใหม่ ปักหลัก-ปักธงในพื้นที่ปักษ์ใต้ ใต้ร่มเงาบ้านใหญ่  21 คน ประกอบด้วย

1.นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง
2.นายกาญจน์ ตั้งปอง ส.ส.ตรัง
3.นายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์
4.นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์
5.นายราชิต สุดพุ่ม ส.ส.นครศรีธรรมราช
6.นายทรงศักดิ์ มุสิกอง ส.ส.นครศรีธรรมราช
7.นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช
8.ว่าที่ร้อยโทยุทธการ รัตนมาศ ส.ส.นครศรีธรรมราช
9.นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช
10.นางอวยพรศรี เชาวลิต ส.ส.นครศรีธรรมราช
11.นายชาตรี หล้าพรหม ส.ส.สกลนคร
12.นายสมยศ พลายด้วง ส.ส.สงขลา
13.นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา
14.นางสาวสุภาพร กำเนิดผล ส.ส.สงขลา
15.พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา
16.นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา
17.นายยูนัยดี วาบา ส.ส.ปัตตานี
18.นางสุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง
19.นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง
20.นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี
21.นายสมบัติ ยะสินธุ์ ส.ส.แม่ฮ่องสอน

ก๊กอภิสิทธิ์คุมเกม

ส่วน “กลุ่มอำนาจเก่า” ที่มี 4 อดีตหัวหน้าพรรคเก่าแก่ นายชวน หลีกภัย-นายบัญญัติ บรรทัดฐาน-นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

การประชุมใหญ่วิสามัญฯ ครั้งนี้ได้ “จัดระเบียบ” การนั่งขององค์ประชุมใหม่ โดยให้แถวแรกเป็นที่นั่งของ 25 สส.ชุดปัจจุบัน ส่วนแถวที่สอง เป็นที่นั่งของ กก.บห.พรรค แถวที่สาม ที่นั่งของอดีต สส.

แถวที่สี่ ที่นั่งของอดีตรัฐมนตรี ส่วนแถวถัด ๆ ไปเป็นที่นั่งของตัวแทนพรรคประจำจังหวัดและสาขาพรรค จากเดิมที่จัดที่นั่งไว้เพียง สส.ปัจจุบันเท่านั้น องค์ประชุมส่วนที่เหลือนั่งได้เป็นอิสระ

“กลุ่มอภิสิทธิ์” ถึงแม้ไม่มี สส.อยู่ในมือ แต่ขุมอำนาจยังแทรกซึมอยู่ทุกองคาพยพ-สอดแนมก๊กเฉลิมชัยทุกฝีก้าว ทั้งในห้องประชุม-นอกห้องประชุม

ช่วงการประชุมแม้จะถูกเซตให้ “จับตาย” แต่ก่อนเริ่มการประชุมจะเห็นความเป็น “อิสระ” มีการ “จับกลุ่ม” กัน กลุ่มนายเฉลิมชัย นายชัยชนะ และนายเดชอิศม์ กับ สส.ภาคใต้ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มย่อยที่มีนายชัยชนะ-น.ส.สุณัฐชา-จิตภัสร์ เป็นแกนกลาง

ส่วนกลุ่มของนายอภิสิทธิ์ “เกาะกลุ่ม” กับคนคุ้นเคย-หน้าเดิมที่เป็นแดนหน้า-แนวรบกับระบอบทักษิณ ทั้งนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตแกนนำ กปปส. จับมือกันหลวม ๆ กับกลุ่มของ “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค

แต่ “จุดสลบ” ของกลุ่มเฉลิมชัยอยู่ที่ “สองอดีตหัวหน้าพรรค” นายชวน-นายบัญญัติ ที่นั่งเป็น “เสาหลัก” ค้ำยัน คอยสังเกตการณ์ใกล้ชิด ทุกครั้งที่ถึง “ทีเด็ดทีขาด” จะเห็น “สองปูชนียบุคคล” ร่ายกลอนการเมืองหลังจากเงี่ยหูฟังมาจากสมาชิกพรรค

ธงของการ “ล่ม-เลื่อน” การประชุมเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างไม่มีกำหนด ให้ล่วงเลยไปจนถึงการเลือกนายกรัฐมนตรี-ฟอร์มรัฐบาล เพื่อให้ “กก.บห.ชุดรักษาการ” ที่มี “อำนาจเต็ม” จำนวน 33 คน

สำหรับ กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ ชุดรักษาการ ประกอบด้วย นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย เลขาธิการพรรค

รองหัวหน้าพรรค 11 คน ได้แก่ นายนราพัฒน์ แก้วทอง นายไชยยศ จิรเมธากร นายสาธิต ปิตุเตชะ นายเดชอิศม์ ขาวทอง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายอลงกรณ์ พลบุตร นายสรรเสริญ สมะลาภา และนายอัศวิน วิภูศิริ

รองเลขาธิการพรรค 4 คน ได้แก่ น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร นายอิสะ เสรีวัฒนวุฒิ นายชัยชนะ เดชเดโช นายธนา ชีรวินิจ นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ เหรัญญิกพรรค นายวิรัช ร่มเย็น นายทะเบียนสมาชิกพรรค นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค

กก.บห.พรรคที่เหลือ ได้แก่ นางขนิษฐา นิภาเกษม นางกษมา วงศ์ศิริ นายชวลิต รัตนสุทธิกุล นายถนอมศักดิ์ แป๊ะเส้ง นายทวีโชค อ๊อกกังวาล นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ นางสุพัชรี ธรรมเพชร น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ นายบัญญัติ เจตนจันทร์ และนายชนินทร์ รุ่งแสง

เมื่อกลุ่มขั้วอำนาจเดิมยังไม่เพลี่ยงพล้ำในกลศึกชิงหัวหน้าพรรคคนใหม่ เท่ากับยังอยู่ในเกมของตัวเองและสามารถ “พลิกเกม” ในที่ประชุม กก.บห.ชุดรักษาการ ร่วม สส.ลงมติไม่ร่วมรัฐบาล-เป็นฝ่ายค้าน

ปูทาง “อภิสิทธิ์” กลับมากู้วิกฤตศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์