ประธานรัฐสภา “วันนอร์” นัดวันที่ 22 สิงหาคม 66 สส.-สว. ลงมติโหวตเลือกนายกฯ รอบที่ 3
วันที่ 16 สิงหาคม 2566 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา แถลงถึงการกำหนดวันลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ว่าหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้วินิจฉัยมติที่ประชุมรัฐสภาห้ามเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซ้ำในสมัยประชุมเดียวกันนั้น คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ถือว่าสิ่งที่ทางรัฐสภาประชุมไปแล้วเป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ถูกต้อง
ไม่ขัดต่อสิ่งที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งไปให้พิจารณาว่าระหว่างข้อบังคับกับรัฐธรรมนูญมีความขัดแย้งกันหรือไม่อย่างไร ทำให้สิ่งที่สภาทำไปดำเนินการต่อไปได้ โดยพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) เวลา 14.00 น. จะให้ฝ่ายกฎหมายสภา และฝ่ายที่เกี่ยวกับประชุมรัฐสภาในการเลือกนายกฯ ได้พิจารณารายละเอียด ระเบียบวาระที่ค้างอยู่ และกระบวนการเลือกนายกฯ
จากนั้นตนจะนัดประชุมวิป 3 ฝ่าย คือ วุฒิสภา กับสภาทั้งสองฝ่ายเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งที่ตนกำหนดไว้แล้วน่าจะออกระเบียบวาระได้หลังฝ่ายกฎหมายให้ความเห็นเรียบร้อยแล้ว และจะเชิญสมาชิกรัฐสภา ประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ซึ่งตนได้หารือประธานวุฒิสภา เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จะดำเนินการให้เรียบร้อยมากที่สุด แต่จะจบวันที่ 22 สิงหาคม 2566 หรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมรัฐสภา
ส่วนกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอญัตติให้ทบทวนมติของที่ประชุมรัฐสภา ที่ให้การเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ รอบสองเป็นการเสนอญัตติซ้ำ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในวาระการประชุมอยู่แล้ว เมื่อมีคำวินิจฉัยศาลก็ต้องหารือต่อไป โดยจะดำเนินการตามข้อบังคับ และจะทบทวนอย่างไรต้องอยู่ในกรอบคำวินิจฉัยศาล
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะประธานรัฐสภา เห็นควรหรือไม่ว่าแคนดิเดตนายกฯ ต้องเข้ามาชี้แจง และแสดงวิสัยทัศน์ด้วย นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ตนไม่สามารถกำหนดได้ แต่รัฐธรรมนูญ และข้อบังคับ ไม่ได้กำหนดก็ขึ้นอยู่กับสภาว่าจะเห็นสมควรอย่างไร
เมื่อถามว่าข้อเรียกร้องของสมาชิกส่วนใหญ่ สมเหตุสมผลหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผู้ที่ถูกเสนอชื่อว่าอยู่ที่ไหน หากอยู่ที่นี่และพร้อมแสดงวิสัยทัศน์ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม แต่หากเขาไม่อยู่ที่นี่ก็คงไม่สะดวก เพราะในปี 2562 เราก็ได้พิจารณาในข้อนั้น รวมถึงได้สอบถามฝ่ายกฎหมายว่า
ตอนที่ร่างข้อบังคับในการเลือกนายกฯ ทำไมจึงไม่ได้กำหนดเหมือนการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับการชี้แจงเบื้องต้นว่า เดิมได้กำหนดว่าจะให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ แต่ภายหลังผู้ร่างข้อบังคับได้มีการตัดออกไป เพราะเห็นว่าอาจจะเป็นบุคคลภายนอก ที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมของรัฐสภาที่ถูกเสนอชื่อเข้ามา
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญได้กำหนดว่าสามารถเสนอบุคคลภายนอกได้ และเราจะนำข้อกฎหมายนี้จะมีการนำเรื่องนี้พูดคุยในการหารือวิป 3 ฝ่ายด้วย อยากให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ไม่อยากให้มีการกังขา หรือประเด็นอะไรต่าง ๆ ที่ยืดเยื้อกัน