เศรษฐา-แพทองธาร in Paris เปิดห้องเสื้อ Dior ในตำนาน โชว์ซอฟต์พาวเวอร์

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง และ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ เปลี่ยนถนนกลางกรุงปารีส เมืองหลวงแฟชั่นโลก ให้เป็นแคตวอล์ก อวดโฉมความสวยงามของผ้าไทย เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สายตาต่างชาติ 

นายกรัฐมนตรีคิดไว้ตั้งแต่ออกเดินทางออกจากประเทศไทยว่าจะนำผ้าขาวม้าไทยลายต่าง ๆ มาใช้เป็นผ้าพันคอเวลาพบปะผู้นำและนักธุรกิจต่างชาติ

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเล่าว่า ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ท่านนายกฯ หยิบผ้าขาวม้าไทย ประกอบชุดสากลได้อย่างดี นั่นเป็นเพราะเรากำลังจะเชิญชวนเอาสิ่งที่เข้มแข็งของคนไทยไปนำเสนอให้กับนักลงทุน เจ้าของกิจการแฟชั่นใหญ่ของโลกในหลาย ๆ แบรนด์ 

เมื่อไปเยือนเมืองหลวงแห่งแฟชั่น “เศรษฐา” จึงหยิบผ้าขาวม้าสีชมพูสดใส ของ จ.ร้อยเอ็ด ที่ชาวบ้านมอบให้เมื่อครั้งลงพื้นที่ภาคอีสานมาเป็นผ้าพันคอ 

ต่อด้วยนำผ้าขาวม้า จ.กาฬสินธุ์ ลายตาหมากรุกสีม่วงสลับขาวดำ 

ถือเป็นการโปรโมตสินค้าไทย  

ขณะที่ “แพทองธาร” ที่เดินทางในนามส่วนตัว แต่ได้ร่วมขบวนกับนายกรัฐมนตรี สวมเสื้อโค้ตผ้าไทยทำจากผ้าฝ้ายย้อมครามของ จ.สกลนคร เข้าพูดคุยกับธุรกิจยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแฟชั่น  

ซึ่งกำหนดการสำคัญจะเกิดขึ้นในวันที่ 11 มีนาคมนี้ โดยนายเศรษฐาเตรียม พบหารือ Mr.Bernard Arnault Chairman and CEO of LVMH Group) เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับแบบเรียล์ไทม์ เมื่อเดือนมกราคม 2024 ของนิตยสาร Forbes โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของครอบครัว Arnault เพิ่มขึ้นเป็น 2.08 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากเพิ่มขึ้น 2.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

สถานที่ที่นายกฯเศรษฐาจะพบปะหารือแบบ One-On-One กับ Mr.Bernard Arnault ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของ Dior 

เพราะเป็นร้าน Dior สาขา Avenue Montaigne สถานที่ก่อตั้งห้องเสื้อ Christian Dior เมื่อปี 2449 (ค.ศ. 1946) หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง Christian Dior ได้เปิดห้องเสื้อแห่งนี้ ต่อมาในปี 1947 ได้ออกคอลเล็กชั่น Spring/Summer ประจำปีนั้นในชื่อ “Corolle” บรรดาผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นเรียกว่า “New Look” เพราะถือว่าเป็นการปฏิวัติวงการแฟชั่น เพราะช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วงการแฟชั่นอยู่ในยุคตกต่ำจากภาวะสงคราม  

ปัจจุบัน Dior เป็น 1 ใน 70 แบรนด์สุดหรู ของ LVMH ที่มีตระกูล Arnault เป็นเจ้าของกิจการ ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton,Tiffany & Co., Bulgari,Sephora,Celine, Givenchy, TAG Heuer, Hublot

นอกจาก “เศรษฐา” พบกับ LVMH แล้ว ยังได้พบหารือกับผู้บริหารบริษัทเอกชนแบบ One-On-One ในสาขาอุตสาหกรรมเเฟชั่น Mr.Pascal Morand, Executive President, Fédération de la Haute Couture et de la Mode

พบหารือกับผู้บริหารบริษัทเอกชนแบบ One-On-One ในสาขาอุตสาหกรรมเเฟชั่น

Mrs. Bénédicte Épinay, President & CEO of Comité Colbert