ประกาศชัยชนะ ม็อบนักศึกษา ปักหมุด “20 กันยายน” นัดบุกสภา 24 ก.ย. อีกรอบ

การชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม ภายใต้หัวข้อ “19 กันยา ทวงคืนอำนาจให้ราษฎร” ทิ้งติ่งให้ติดตามตั้งแต่ช่วง 21.30 น. ให้ติดตามว่าจะมีไฮไลท์และเซอร์ไพรส์สำคัญในช่วงเช้าวันที่ 20 กันยายน ตั้งต้นในเวลา 06.00 น

ตามด้วย ทนายอานนท์ “อานนท์ นำพา”  ทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ปราศรัยกลางดึกบนเวทีว่า จะมีการปักหมุดคณะราษฎรหมุดที่ 2 กลางสนามหลวง

ในช่วงเช้าของวันที่ 20 กันยายน แกนนำชุมนุม อาทิ พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำผู้ชุมนุมและ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เริ่มทำพิธีฝังหมุดลงบนพื้นสนามหลวง พร้อมกับสวดมนต์ อันเชิญเหล่าเทพเทวดา เป็นสักขีพยาน
REUTERS/Athit Perawongmetha

กระทั่งถึงเวลานัดหมายในช่วงเช้าของวันที่ 20 กันยายน แกนนำชุมนุม อาทิ พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำผู้ชุมนุมและ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เริ่มทำพิธีฝังหมุดลงบนพื้นสนามหลวง พร้อมกับสวดมนต์ อันเชิญเหล่าเทพเทวดา เป็นสักขีพยาน นอกจากนี้ ยังมีการสาปแช่งบุคคลที่จะรื้อถอนหมุด ทั้งผู้กระทำการและผู้สั่งถึงกับวิบัติ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ เสื่อมฐานันดร เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

จากนั้น น.ส.ปนัสยา อ่านข้อเรียกร้อง ก่อนรอสัญญาณการเคลื่อนขบวนในเวลา 08.00 น. ทั้งนี้ แกนนำผู้ชุมนุมประกาศว่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้มีอำนาจที่ทำเนียบรัฐบาล ทำให้ตลอดช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งด่านสะกัดทั้งลวดหีบเพลง แท่งปูนแบริเออร์ไว้หลายจุด

เมื่อเวลา 08.14 น กลุ่มแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยนายพริษฐ์ ได้ขึ้นรถมุ่งหน้าสู่ทำเนียบองคมนตรี โดยประกาศเป้าหมายยื่นหนังสือข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
REUTERS/Athit Perawongmetha

กระทั่งเมื่อเวลา 08.14 น กลุ่มแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยนายพริษฐ์ ได้ขึ้นรถมุ่งหน้าสู่ทำเนียบองคมนตรี เพื่อให้ตัวแทนออกมารับหนังสือ

จากนั้นขบวนผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนออกจากท้องสนามหลวง เลี้ยวขวาผ่านหน้าศาลฎีกา โดยมีเจ้าหน้าที่ตั้งแนวรั้วแผงเหล็กสกัดขบวน ผู้ชุมนุมได้ส่งแกนนำมาเจรจา นำโดย น.ส.ปนัสยา

ทั้งนี้ นายอานนท์ นำภา ประกาศบนรถขยายเสียงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ตัวแทนแกนนำ 2 คนเข้าไปยื่นข้อเรียกร้องต่อประธานองคมนตรีได้ ขอให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพประวัติศาสตร์

REUTERS/Athit Perawongmetha

ต่อมาเวลา 08.45 น. น.ส.ปนัสยา ได้เข้าไปยื่นหนังสือ โดยมี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. รับมอบหนังสือ พร้อมอ่านข้อเรียกร้อง

1.ให้พลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และกลุ่มเครือข่ายผลประโยชน์ที่ถูกแต่งตั้งมาโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อธำรงไว้ซึ่งอำนาจของระบบเผด็จการ ลาออกทั้งหมด

2.ให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยจะต้องมีการตั้งสสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด และต้องร่างใหม่ได้ทุกหมวด ทุกมาตรา

3.ปฎิรูปแนวทางที่แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมเรียกร้อง

Mladen ANTONOV / AFP

ซึ่งพล.ต.ท.ภัคพงศ์ ระบุว่า จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนความคืบหน้าสามารถติดต่อหาตนได้โดยตรง ซึ่ง น.ส.ปนัสยา ย้ำเจ้าหน้าที่ให้สัญญาตามข้อเรียกร้อง

ภายหลังที่ น.ส.ปนัสยา ยื่นหนังสือได้เดินกลับมาขึ้นรถปราศรัย พร้อมกับการประกาศความสำเร็จบนเวที

“วันนี้ถือเป็นความสำเร็จของเรา ตั้งแต่วานนี้ที่ได้ยึดมหาวิทยาลัยธรรมศาสต์ ท่าพระจันทร์ เพื่อคืนจิดวิญญาณของท่าพระจันท์กลับคืนมา ได้ยึดสนามหลวงกลับมาเป็นสนามของประชาชนอีกครั้ง ให้ประชาชนสามารถใช้สอย เป็นพื้นที่สาธารณะ และวันนี้ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว”

Lillian SUWANRUMPHA / AFP

ตลอดระยะเวลาสองวันที่ผ่านมา “ขอปรบมือให้กับตัวเองและทุกคนที่เข้ามาร่วมชุมนุม รวมถึงประชาชนที่มาไม่ได้ด้วย ขอบคุณมาก ๆ ที่สนับสนุนเราและขอบคุณที่แสดงความเห็นด้วยต่อ 10 ข้อเรียกร้องของเรา” หากย้อนไปเมื่อวันที่ 10 ส.ค. รุ้งปนัสยาเผยว่า “ตัวเองก็ไม่มีความมั่นใจเลยว่า ทุกคนจะเห็นด้วย”

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันนี้ มันทำให้เจ้าตัวรู้สึกตื่นตันมาก ๆ ถึงข้อเสนอทั้ง 10 ข้อ มีคนที่เห็นด้วยมากๆ เพราะข้อเสนอที่เสนอไปเป็นข้อเสนอที่แก้ปัญหาจากรากลึกที่แท้จริง

ด้าน “เพนกวิน” พริษฐ์ กล่าวว่า การชุมนุมที่ผ่านมานั้นถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลจากการต่อสู้อันยาวนานของเรา ทั้งนักศึกษาและประชาชน ได้ทวงคืนจิตวิญญาณธรรมศาสตร์จากอธิการบดีที่รับใช้เผด็จการ

และทวงคืนสนามหลวง คืนประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตดั้งเดิมกลับมา พร้อมได้ปักหมุดให้สนามหลวงเป็นสนามราษฎรอย่างสมบูรณ์ หากมีใครมารื้อหมุดเราก็ปักใหม่ได้อีก การรื้อหมุด ก็เหมือนการเหยียบหน้าประชาชน

เพนกวิน ยังเรียกร้องผู้ชุมนุมบนเวทีว่า ต่อไปนี้เคารพธงชาติพร้อมกับการชูสามนิ้วเชิงสัญลักษณ์ และให้ชูสามนิ้ว ผูกโบว์ขาวหน้าบ้านหรือของใช้อื่น ๆ เพื่อแสดงความรักประชาธิปไตย เขียนป้ายประณามเผด็จการตามที่ชุมชน เมื่อเจอขบวนของเจ้าหน้าที่ให้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการบีบแตร เชิญชวนให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษาหยุดเรียนและหยุดทำงานในวันที่ 14 ตุลาคม และไม่สนับสนุนธนาคารไทยพาณิชย์

จากนั้น “เพนกวิน” ประกาศยุติการชุมนุม พร้อมกับนัด วันรวมตัวใหม่อีกครั้ง “ขอให้ทุกคนที่มีเวลาในวันที่ 24 กันยายน ไปที่รัฐสภา ที่จะมีการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปดูว่าจะมีการตั้ง ส.ส.ร. แบบพวกมากลากไปหรือไม่ ดังนั้นขอให้ทุกคนไปเจอกันที่รัฐสภาเกียกกาย วันนี้ขอขอบคุณและเราจะไม่หยุดจนกว่าศักดินาจะพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ และขอให้ทุกคนเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ”

ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจที่เตรียมแผนการวางกำลังปฏิบัติ กรณีกลุ่มผู้ชุมนุม มีการเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปทำเนียบรัฐบาล และลานพระบรมรูปทรงม้า ทั้ง 1.ชุดเจรจาต่อรองพร้อมแผงเหล็ก บริเวณแยก จปร. 2.เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร อำนวยการจราจรบริเวณแยก จปร 3.ชุดเจรจาต่อรองสหวิชาชีพ บริเวณแยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมี พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ รอง ผกก.ป.สน.นางเลิ้ง เป็นนายตำรวจประสานงาน 4.กำลังควบคุมฝูงชนประจำจุดต่างๆ เพื่อรักษาความปลอดภัย และรักษาความสงบ ทำเนียบรัฐบาลและเขตพระราชฐาน 5.เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายจราจร, ป้องกันและปราบปราม, ฝ่ายสืบสวน, สันติบาล และสน.ท้องที่ เสริมการปฏิบัติภายในและโดยรอบ

ทั้งสิ้น 15 กองร้อยต้องรอเก้อ ยังไม่นับ กำลังควบคุมฝูงชนระยะ 150 เมตร รอบเขตพระราชฐาน ดังนี้ สถานีดับเพลิงวชิระ (สามเสน) 1 กองร้อย, แยกอู่ทองนอก 1 กองร้อย, สะพานเทเวศรนฤมิตร 1 กองร้อย, สะพานวิศสุกรรมนฤมาน 1 กองร้อย, แนวห้ามผ่าน สะพานมัฆวานรังสรรค์ 3 กองร้อย, แนวรั้งหน่วงแยก จปร. 2 กองร้อย (ปรับกำลังจาก ม.ธรรมศาสตร์), สะพานเทวกรรมรังรักษ์ 1 กองร้อย, แยกยมราช 2 กองร้อย, แยกเสาวนี 1 กองร้อย, แยกอุภัยเจษฎุทิศ 1 กองร้อย, แยกสวนมิสกวัน 1 กองร้อย และ บช.น.อีก 2 กองร้อย

ที่ต้องถอนกำลัง หลังม็อบ 19 กันยา ยุติชุมนุมโดยเคลื่อนขบวน ลับ – ลวง – พราง ไปแค่หน้าศาลฎีกาเพื่อยื่นหนังสือต่อประธานองคมนตรี