อีกแค่อึดใจเดียว จะถึงวันเปิดหีบสนามเลือกตั้งท้องถิ่น ชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สมาชิกสภา อบจ.)
ซึ่ง อบจ.ทั้ง 76 จังหวัด ครอบครองงบประมาณประเทศกว่า 8 หมื่นล้านบาท
และศึกชิงเก้าอี้ผู้บริหารท้องถิ่นรอบนี้สำคัญกว่าครั้งไหน ๆ เพราะมีพรรคการเมืองระดับชาติ กระโดดเข้ามาสนับสนุน “อย่างเป็นทางการ”
ต่างจากอดีตที่การเมืองท้องถิ่นเป็นของกลุ่มทุนบ้านใหญ่-ตระกูลการเมืองในจังหวัด และมีพรรคการเมืองระดับชาติเป็นแค่สปอนเซอร์-กองหนุน
คู่ที่ต่อสู้กันชัด ๆ คือ พรรคเพื่อไทย กับคณะก้าวหน้า ส่วนที่เหลือยังยึดการสู้รบในตำราอดีต มีพรรคการเมืองหนุนอยู่เบื้องหลัง สู้เป็นกลุ่ม ๆ รักษาเก้าอี้เดิม
“คณะก้าวหน้า” ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และคณะ ทุ่มทุนส่งผู้สมัครนายก อบจ.มากถึง 42 จังหวัดหวังล้มบ้านใหญ่ หักปากกาเซียนรอบ 2
ก้าวหน้าย้ำจุดยุทธศาสตร์
ในช่วงหาเสียงโค้งสุดท้าย “คณะก้าวหน้า” จึงจัดทัพใหญ่ จรยุทธ์ทั้งบนพื้นดินและในโซเชียลมีเดีย นำโดย “ธนาธร-ปิยบุตร แสงกนกกุล-พรรณิการ์ วานิช” 3 หัวหอก
“ชำนาญ จันทร์เรือง” กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้รับผิดชอบหลักการเลือกตั้งท้องถิ่น พูดถึงการหาเสียงในช่วงสุดท้ายว่า จะมีการเดินสายลงพื้นที่ให้มากที่สุด จะลงพื้นที่ในจังหวัดที่สูสี เป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ ต้องลงไปปราศรัยย้ำจุด เราใช้เทคโนโลยีมาช่วย มีการประเมินตลอดเวลา คณะก้าวหน้ามีคะแนนสูสีกับผู้สมัครกลุ่มอื่น ๆ ผลการตอบรับดีกว่าที่คาด
ร้องเอาผิดขบวนการไล่ “ธนาธร”
แม้ว่า “ธนาธร” และพวก จะเจอขับไล่ในบางพื้นที่ แต่ “ชำนาญ” ไม่กังวล “ผมเห็นเหตุการณ์มีมาไม่กี่คน เช่น นครสวรรค์ เป็นพวกมืออาชีพร่วมกับคนในพื้นที่ มาไล่แล้วถ่ายรูปนำไปลงในโซเชียลมีเดีย เสร็จแล้วก็ไป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้งชัดเจน เพราะเป็นการขัดขวางการรณรงค์หาเสียง และกฎหมายเลือกตั้งเห็นชัดว่า ห้ามนำสถาบันพระมหากษัตริย์มายุ่งเกี่ยว แต่มีบางพื้นที่มาชูป้ายว่าเราล้มสถาบัน ซึ่งผู้สมัครได้ไปแจ้งความไว้แล้ว”
จากการวิเคราะห์ของแกนนำ ในช่วงแรกที่คนไม่พอใจม็อบเยาวชนปลดแอก คณะราษฎร จึงมาระบายกับนายธนาธร แต่กลับมีคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามมาผสมโรง เพราะเขาคิดว่าแพ้แน่ ๆ จึงมีการจ้างวานมาจึงต้องฟ้องและร้องเรียนกับ กกต. แม้ตอนนี้ กกต.ยังเฉย ๆ แต่ กกต.ก็อาจให้ใบเหลือง-ใบแดงตามหลัง
“ชำนาญ” ไม่จำนนต่ออิทธิพลบ้านใหญ่ “เราอาศัยการเดิน อาศัยการทำความเข้าใจ อาศัยโซเชียลมีเดีย บอกได้เลยว่าพวกบ้านใหญ่ทั้งหลายในจังหวัดที่คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัคร คนบ้านใหญ่เขาไม่เคยเดินหาเสียง มีแต่การแจกช่วงโค้งสุดท้าย แต่มาปัจจุบันนี้เขาเดินเกือบทุกจังหวัด ชลบุรี เดินกันจนเป็นลม นครปฐม สมุทรปราการ เดินกันหมด นี่คือความเปลี่ยนแปลง”
“บ้านใหญ่ที่มีเครือข่ายไม่ถึงกับได้เปรียบคณะก้าวหน้า การชนะเลือกตั้งอาจไม่หมู แม้จะไม่ชนะบ้านใหญ่ทุกที่ แต่เชื่อว่าครั้งนี้จะมีหักปากกาเซียนหลายที่ เหมือนตอนเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 แน่นอน ทุกที่มีความหวังเพราะกว่าจะส่งผู้สมัคร เราได้คัดแล้วคัดอีก กระแสตอบรับก็ดีกว่าเลือกตั้งปี 2562 ด้วย”
เพื่อไทยรุก เคาะประตูโค้งท้าย
ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส่ง 29 ขุนพลลงเลือกตั้งนายก อบจ.ในนามพรรค วางกลยุทธ์ในโค้งสุดท้าย จัดชุดใหญ่ลงพื้นที่ปราศรัยให้มากที่สุด นำโดย “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ เป็นตัวชูโรง หมุนวนในพื้นที่ที่เพื่อไทยแข็งแกร่งโดยเฉพาะอีสานเหนือ อีสานตอนกลาง เว้นอีสานตอนใต้ สุรินทร์-บุรีรัมย์-โคราช ให้กับภูมิใจไทย
ทีมหาเสียงเพื่อไทย มีทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน และอดีตคนเพื่อไทย-แกนนำเสื้อแดง ที่แวะเวียนไปขึ้นเวทีปราศรัย อาทิ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย, นายอดิศร เพียงเกษ นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
แบ่งสาย-หมุนวน ร่วมกับ ส.ส.ในแต่ละพื้นที่ วันละ 2-3 เวที สลับกับการเดินเคาะประตูเรียกคะแนน ยิ่งเข้าใกล้วันหย่อนบัตร คนในเพื่อไทยต้องยิ่งปั้นคะแนน ในจังหวัดที่แพ้ไม่ได้
โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ ฐานที่มั่น ทักษิณ-เพื่อไทย ซึ่งทำให้การเลือกตั้งดุเดือดที่สุดในภาคเหนือ เพราะเป็นศึกสายเลือดคนเพื่อไทย เครือข่ายทักษิณ
โดยเพื่อไทย ส่ง “นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร” อดีต ส.ว.เชียงใหม่ ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับ “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” น้องสาวทักษิณ ชินวัตร สู้ศึกกับ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ที่มี “ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์” หลานสาวเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย และทั้งที่ซุ้มการเมือง “บูรณุปกรณ์” ผูกติดกับ “พรรคทักษิณ” มาตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ซึ่งมีหัวหอกเสื้อแดง “จตุพร พรหมพันธุ์” ไปช่วยหาเสียง
ซึ่งก่อนหน้านี้ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” 2 นายกฯชินวัตร ส่งจดหมายน้อยข้ามโลกถึงโหวตเตอร์เชียงใหม่ ให้ช่วยเลือก “พิชัย” แต่บางช่วงการปราศรัยของ “จตุพร” ตั้งใจแทงข้างหลังไปถึง “ทักษิณ” และเครือข่าย พูดถึง “เจ๊” ทำให้เพื่อไทยพังมานักต่อนัก
ส.ส.ในเพื่อไทย ที่เฝ้ามอนิเตอร์แนวโน้มผลเลือกตั้งท้องถิ่น มองว่า สนามเลือกตั้งเชียงใหม่ “พิชัย” ยังตามหลัง “บุญเลิศ” อยู่ แต่เมื่อมี “จตุพร” ไปหาเสียงเหน็บแนม “เจ๊” อาจทำให้กระแสตีกลับ ทำให้คะแนน “พิชัย” ตีตื้นขึ้นมารดต้นคอ “บุญเลิศ”
แต่ใครก็รู้ว่าสนามเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ เป็นการ “เดิมพัน” ของทักษิณ ที่ยอมทุ่มเขียนจดหมายน้อยมาสนับสนุน หากแพ้ สัญลักษณ์ทักษิณจะสั่นคลอนทันที
บ้านใหญ่ภาคเหนือ รักษาเก้าอี้
ขณะที่จังหวัดอื่นในภาคเหนือ จ.เชียงราย มีการขับเคี่ยวระหว่างซุ้มการเมืองบ้านใหญ่ เมื่อคนเพื่อไทย เจอกับอดีตเพื่อไทย โดยเพื่อไทยส่ง น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ทีมเจียงฮายยิ้มได้ ลูกสะใภ้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องเจอกับ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ในนามอิสระ ซึ่งเป็นลูกสาวนายสมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยมี นายมงคลชัย ดวงแสงทอง อดีต ส.ว. มาเป็นตัวเลือก
พะเยา เป็นงานหินของ “คณะก้าวหน้า” นายชัยประพันธ์ สิงห์ชัย ที่ต้องสู้ในถิ่นพลังประชารัฐเข้มข้น ต้องชนกับ “อัครา พรหมเผ่า” น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ
ส่วน จ.กำแพงเพชร “บ้านใหญ่รัตนากร-ตระกูลการเมือง” ในนามพลังประชารัฐ เป็นสปอนเซอร์ของ นายสุนทร รัตนากร อดีตนายก อบจ.-น้องชาย “วราเทพ รัตนากร” ในนาม “กลุ่มหมอทร” โดยมี นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ ในนามคณะก้าวหน้า ขออาสา “ล้มช้าง”
กลาง-ตะวันออก-อีสานสู้เข้มข้น
ภาคกลางก็สู้กันดุเดือดเข้มข้น เพราะมีบ้านใหญ่-ตระกูลการเมืองหลายซุ้มเป็นเจ้าของพื้นที่ เริ่มจากนครปฐม มีผู้สมัครกันถึง 6 คน นายชัชวาล นันทะสาร จากคณะก้าวหน้า ต้องเจอ “สายแข็ง” นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ หรือ “เสี่ยหนึ่ง” แห่ง “บ้านใหญ่สะสมทรัพย์” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “ไชยา สะสมทรัพย์” อดีต ส.ส.นครปฐมหลายสมัย อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ยังมี นายพเยาว์ เนียะแก้ว อดีตนายก อบจ. 4 สมัย ลงสู้ศึกด้วย
จังหวัดชัยนาท-ขาใหญ่นาคาศัย หมายเลข 1 นายอนุสรณ์ นาคาศัย อดีตนายก อบจ.-น้องชาย “อนุชา นาคาศัย”เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ-รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “นอนมา” โดยมี หมายเลข 2 นายสุรพงษ์ สะอาด ลงอิสระ
ภาคตะวันออก อาทิ จ.ระยอง “ตระกูลปิตุเตชะ” ของ “ปิยะ ปิตุเตชะ” อดีตนายก อบจ.ระยอง หลายสมัย ที่มีเครือข่าย-สาขาในพื้นที่ เช่น นายเศรษฐา ปิตุเตชะ หรือ “ส.จ.เปี๊ยก” อดีตประธานสภา อบจ.ระยอง นายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง-“หมอตี๋” สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แห่งพรรคสีฟ้า-ประชาธิปัตย์
ด้านสนามเลือกตั้ง จ.ชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม ทีมเรารักชลบุรี ว่ากันว่าเป็นตัวเต็ง เพราะ “สุชาติ ชมกลิ่น” คลื่นลูกที่ 3 แห่งชลบุรี “ยอมถอย” ไม่ส่งคนหักเก้าอี้นายก อบจ. เจอกับ น.ส.พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง คณะก้าวหน้าเปลี่ยนชลบุรี มีนายเกรียงไกร กิ่งทอง-พรรคเพื่อไทย เป็นตัวสอดแทรก
จังหวัดสระแก้ว-บ้านใหญ่เทียนทอง ส่ง นางขวัญเรือน เทียนทอง น้องสะใภ้ “เสนาะ เทียนทอง” และ “มารดา” ฐานิสร์-ตรีนุช เทียนทอง ชิงชัยแบบ นอนมา
ด้านจังหวัดในภาคอีสาน ที่มีหลายกลุ่มก้อนอย่าง จ.อุบลราชธานี นายกานต์ กัลป์ตินันท์-พี่ชาย “เกรียง กัลป์ตินันท์” แห่งพรรคเพื่อไทย เป็นตัวเต็งหาม สู้กับ น.ส.นายกแอน สมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ แชมป์เก่าที่มีแบ็กอัพเป็นประชาธิปัตย์ จากกลุ่ม “คุณธรรม” ลงทุนเปลี่ยนชื่อจริงเป็น “นายกแอน” ส่วน นายบัณฑิต วิลามาศ กลุ่ม “อนาคตของชาวอุบล” ยังต้องลุ้นเหนื่อย
จ.บุรีรัมย์ มี นายภูษิต เล็กอุดากร อดีต ส.อบจ. มีศักดิ์เป็นหลานชายของนายเนวิน ชิดชอบ บ้านใหญ่บุรีรัมย์ ลงแข่งขัน ขณะที่คณะก้าวหน้าส่ง “ทนายอั๋น” คือ “ภัทรพงศ์ ศุภักษร” อดีตผู้สมัครอนาคตใหม่ ลงงัดข้อ
ศึกสายเลือดบ้านใหญ่ภาคใต้
ภาคใต้-พื้นที่สีแดงเข้ม จังหวัดนครศรีธรรมราช-พรรคประชาธิปัตย์ เปิด “ศึกสายเลือด” หมายเลข 2 นางกนกพร เดชเดโช-มารดา “ชัยชนะ เดชเดโช” ส.ส.ประชาธิปัตย์ ในนาม “พลังเมืองนคร” กับ หมายเลข 7 นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.-น้องชาย “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” รองประธานวิปรัฐบาล แห่งพรรคประชาธิปัตย์ และ นายอำนวย ยุติธรรม จากทีมนครประชารัฐ น้องชาย นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.พลังประชารัฐ ร่วมชิงเก้าอี้
เช่นเดียวกับ จังหวัดตรัง หมายเลข 1 นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ กลุ่ม “กิจปวงชน” พี่ชาย “สมชาย โล่สถาพรพิพิธ” อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์-เป็น “ลุง” ของ “สุนัฐชา โล่สถาพรพิพิธ” ส.ส.ตรัง พรรคสีฟ้า หมายเลข 2 นายสาธร วงศ์หนองเตย-น้องชาย “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ส.ส.ตรัง พรรคเก่าแก่ จาก “ตรังพัฒนาเมืองตรัง”
จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่หมายมั่นของคณะก้าวหน้าอีกหนึ่งจังหวัด โดยส่ง นายสรวุฒิ ปาลิมาพันธ์ “คณะก้าวหน้าภูเก็ต” น้องชายของ “ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์” อดีตผู้สมัคร ส.ส.ไทยรักษาชาติ สายตรงตระกูลชินวัตร ต้องชนกับ นายจิรายุส ทรงยศ “คนบ้านเรา” อดีตผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ขณะที่ นายเรวัต อารีรอบ ในทีมภูเก็ตหยัดได้ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ อีกหนึ่งตัวเต็ง สนามภูเก็ตสู้กันเดือด