คุณหญิงพจมาน ขุนพลบ้านจันทร์ส่องหล้า “ดิสรัปต์” เพื่อไทย

นักการเมืองสายบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่ออกไปสร้างพรรคไทยรักษาชาติ และกลุ่มแคร์ กลับมารื้อโครงสร้าง “ดิสรัปต์” พรรคเพื่อไทย

การเมืองระดับชาติ และระดับท้องถิ่น กำลังชิงชัยในขั้นดุเดือด

ในเวลาเช่นนี้ ทุกพรรคย่อมต้องมีวง “สามัคคีวิจารณ์” เพื่อรุกรบกวาดคะแนนนิยม และสร้างเครือข่ายปูฐานเสียงไปสู่การเลือกตั้งทั้งแบบอุบัติเหตุ หรือเป็นไปตามวาระ

เฉพาะอย่างยิ่งพรรคที่ แตก-ยิ่งกว่าแตก อย่างพรรคเพื่อไทย ที่ในเวลานี้ กำลังเข้าสู่โหมด “ดิสรัปชั่น” อีกครั้ง

หลังจากกวาดล้างทีมของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ พ้นขาดจากสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ คู่ขนานกับการรื้อโครงสร้างการบริหารพรรคใหม่ โดยมีกรรมการการเมืองและคณะผู้บริหารพรรค ซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจสายบ้านจันทร์ส่องหล้า ผงาดขึ้นมาแทน

สนธิกำลังกับกลุ่ม “ขุนพลทักษิณ”  ที่ขนทีมกลับจากการออกไปตั้ง “กลุ่มแคร์” และเคลื่อนกำลังกลับจากอดีตพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)

Advertisment

พร้อมเพรียงทั้ง 4 ขุนพลคนสำคัญ อาทิ นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช , นายแพทยสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี , นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล และนายภูมิธรรม เวชยชัย กลับเข้ามาครองอำนาจ คุมกลไกการบริหารอีกครั้ง

เริ่มจากภารกิจใหญ่-รื้อทีมกรรมการบริหารใหม่ ตามด้วยการตั้งทีมเยาวชนคนรุ่นใหม่ แทนกลุ่มเพื่อไทยพลัส ที่ก่อตั้งโดยฝ่ายคุณหญิงสุดารัตน์ นำทีมโดย “กรรมการที่ปรึกษา” ตามโผ พรึ่บ ทั้ง 3 ขุนพล คือ นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช , นายแพทย์สุรพงศ์ สืบวงศ์ลี และนายวิม รุ่งวัฒนจินดา คนสนิท นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล

Advertisment

ส่วนรายชื่อกรรมการ ล้วนเป็นสายเลือด “ชินวัตร” และคนในชายคา “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ที่มี คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เป็นประมุข

รายชื่อกรรมการคนรุ่นใหม่ในพรรค ปรากฏทั้งชื่อ นายสรพันธ์ คุณากรวงศ์ น้องชายนายณัฐพงษ์ คุณากรวงศ์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง สามีของ เอม-พิณทองทา คุณากรวงศ์ บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร ก็ร่วมเป็นกรรมการด้วย

นอกจากนี้ยังมีมีชื่อนางชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หรือแซน อดีต นายทะเบียนพรรคไทยรักษาชาติ หลานของ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นกรรมการ

ส่วนนักการเมืองระดับมือจ่าย-ใจถึงพึ่งได้ ก็คืนรังกลับมาจากไทยรักษาชาติ อาทิ พิชัย นริพทะพันธ์ และโฆษกพรรค น.ส.อรุณี กาสยานนท์

เป้าหมายของขุนพลบ้านจันทร์ส่องหล้า คือความพยายามในการ “ดิสรัปต์” เพื่อไทย ในยุคโควิด เกิดขึ้นผ่านการประชุม-สัมมนาและอบรม ทั้งรูปแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

ทางหนึ่งเพื่อประคองไม่ให้ “เลือดไหลออก” ไปมากกว่าที่เป็นอยู่ หลังจากแกนนำระดับอดีตรัฐมนตรี ทยอยลาออกจากพรรค ตามด้วยบรรดาอดีต ส.ส. และ ส.ส.ที่สอบไม่ได้ ในฤดูการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

ทางหนึ่งมีการจัดประชุมกลุ่ม อดีต ส.ส. และ ส.ส.ที่สอบตกแต่ได้คะแนนเสียงดี โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์)  เป็นประธาน กล่อมเกลาวัฒนธรรมพรรคยุคใหม่ โดยมีการแจ้งให้สมาชิกกลุ่มนี้ทราบว่า ทุกคนยังคงเป็น “ส่วนหนึ่งของพรรค”

อีกทางหนึ่ง จะมีการแคร์ นักการเมืองทั้งที่สอบตก แต่คะแนนดี ด้วยการจัดหลักสูตร “พัฒนาศักยภาพ ส.ส.” เป็นการติวเข้ม เพื่อเตรียมตัวลงสนามเลือกตั้ง หากมีอุบัติเหตุทางการเมือง

นอกจากนี้ยังมีการเคลียร์ใจกันระหว่าง กลุ่มอำนาจใหม่สายบ้านจันทร์ส่องหล้า กับกลุ่มอำนาจเก่าสายคุณหญิงสุดารัตน์ ด้วยการแจ้งเป็น “วาระเพื่อทราบ” ว่า ที่ผ่านมาการกันไม่ให้นักการเมือง ที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่ให้เข้าประชุมพรรค หรือวาระสำคัญในการพิจารณาทิศทางพรรค เพราะเห็นว่าเป็นวาระเกี่ยวกับภารกิจ “ในสภาผู้แทนราษฎร” แต่ก็ยังเห็นความสำคัญของนักการเมืองกลุ่ม “นอกสภาผู้แทนราษฎร”

การชุมนุมนักการเมืองครั้งสำคัญของพรรคเพื่อไทย ในช่วง “กลางเดือน” ธันวาคม จึงเต็มไปด้วยวาระที่เป็นสัญญลักษณ์ทางการเมือง อาทิ มีการปรากฏตัวของนักการเมืองที่เป็นขุนพลของทักษิณ และนักการเมืองคนสำคัญสายบ้านจันทร์ส่องหล้า ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

พร้อมกันนี้มีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ จับรางวัล รับโชคสูงสุดเป็นเงินสดเลข 6 หลัก ตบท้ายด้วยโบนัส ที่บรรดา ส.ส.ส่งไลน์ข้อความเชิงสัญญลักษณ์ว่า “จะมีฝนตก ระดับเม็ดใหญ่” มากกว่าอัตราที่เคยได้ปกติ 1 เท่า

ผู้ลงทุนและสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ปรากฏตัวขึ้นเวที เป็นตัวแทนและสัญญลักษณ์กลุ่มอำนาจบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งเป็นบุคคที่นักการเมืองในพรรคเพื่อไทยต่างปรารถนาจะเข้าถึง

บุคคลที่งำประกาย ไม่เห็นเงาในงาน คือ “คุณแจ๋ว” หรือ นางจุฑารัตน์ เมนะเศวต เพื่อนสนิทของประมุขบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่เคยมาปรากกฏตัวที่พรรคในวาระสำคัญ หลังจากเปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2563

เธอมีบทบาทสำคัญทางการเมือง ทั้งใน-นอกพรรค ระดับนั่งหัวโต๊ะเจรจา-ยื่นไมตรี และต่อรองกับนักการเมืองระดับเขี้ยวลากดินมาแล้ว ในช่วงปฏิวัติพรรค ครั้งล่าสุด

สำหรับ “คุณแจ๋ว” นั้นเป็นมากกว่า เพื่อนสนิทของคุณหญิงอ้อ เพราะเธอคือ หนึ่งในทีม “เซนต์โยคอนเนคชั่น”  เพื่อนร่วมรุ่นเซนต์โยเซฟ คอนเวนต์ แนบแน่นกับเครือข่ายบ้านจันทร์ส่องหล้าอย่างยิ่ง

ชื่อของเธอ ปรากฏครั้งแรก ในปี 2553 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดขบวนการตรวจสอบ “ท่อน้ำเลี้ยง” ของกลุ่ม นปช. ที่ชุมนุมในปี 2552 และ 2553 ปรากฏชื่อ นางจุฑารัตน์ หรือคุณแจ๋ว อยู่ใน 86 รายชื่อที่ เป็นท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่ม นปช.

นอกจากนั้น ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้ออกคำสั่งที่ 58/2553 ลงวันที่18 พฤษภาคม 2553 ลงนามโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน สั่งระงับการทำธุรกรรมทางการเงินของ นางจุฑารัตน์

ในงานเลี้ยงสังสรรค์ฉลองเทศกาลปีใหม่ ครั้งล่าสุดที่พรรคเพื่อไทย ยังปรากฏหน้าของอดีตเลขาคนสนิท นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มั่งคั่งอีกราย คือ “คุณแจ๋น” หรือ “พวงเพ็ชร ชุนละเอียด” อดีตประธานสรรหาผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ ร่วมออกาไนซ์ งานเลี้ยงแห่งปีครั้งนี้ ร่วมกับทีมงานของอดีต “นายกฯปู” ที่กลับจากพรรคไทยรักษาชาติ อีก 2 ราย คือ สุทิษา ประทุมกุล อดีตกรรมการสรรหา ส.ส.ไทยรักษาชาติ และ ชยิกา วงศ์นภาจันทร์

ความพยายามในการปรับ-ถอด-รื้อโครงสร้างพรรคเพื่อไทยครั้งใหญ่ หวัง “ดิสรัปต์” ให้พรรคเพื่อไทย ยังยืนอยู่ได้ในฝ่ายประชาธิปไตย และมีแม่เหล็กในการดึง-ดูด นักการเมืองขาใหญ่ที่แตกกระสานออกไป ทั้งในพรรคพลังประชารัฐและพรรคอื่น ๆ กลับคืนรัง

ทุกจังหวะก้าว น่าติดตามและจับตาอย่างยิ่ง