เบื้องหลังคว่ำรัฐธรรมนูญวาระ 3 : ประวิตร ฟรีโหวต คอเป็นเอ็น แก้ รธน.อยู่แล้ว

ร่างรัฐธรรมนูญ

เบื้องหลังคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 : ประวิตร ฟรีโหวต คอเป็นเอ็น แก้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังรัฐสภาลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 เพิ่มหมวด 15/1 เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ว่า ไม่กระทบ เพราะเมื่อคืนเขาก็ลงกันแล้วว่า ฟรีโหวต ให้ฟรีโหวต คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจกันแล้ว ไม่มีอะไร ไม่มีผล ปล่อยให้ฟรีโหวต

“เราตั้งใจจะแก้ (รัฐธรรมนูญ) เราแก้อยู่แล้ว แต่จะแก้ยังไง แก้ให้ถูกระเบียบแล้วกัน ให้ตามศาลรัฐธรรมนูญว่า ก็ไม่ว่าอะไร”

เมื่อถามว่าจะเสนอญัตติร่างรัฐธรรมนูญใหม่อีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “เรายังไม่รู้ ยังไม่รู้ ยังไม่รู้ ยังไม่ประชุมกัน”

ถามย้ำว่าหมายความว่าจะประชุมกันเพื่อเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมไม่รู้ ผมจะไปรู้ได้ไงอ่ะ จะมาบอกว่าผมไม่รู้ ก็ผมไม่รู้จริง ๆ”

เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปกี่ครั้งวุฒิสภา (ส.ว.) 250 คน ก็ไม่อยากแก้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่รู้ ไม่รู้ อันนี้ก็ต้องไปถาม ส.ว. ถามไรผมล่ะ”

เมื่อถามว่า ส.ส.พรรคภูมิใจไทย บอกว่าพรรคพลังประชารัฐหักหลัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “หักหลังเรื่องไรเล่า ก็บอกว่า ฟรีโหวตไง จะไปหักหลังไงอ่ะ”

เมื่อถามว่า ตลอดการอภิปรายมาทั้งวันเรื่องความชัดเจนของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สุดท้ายมายื่นญัตติให้ลงมติวาระ 3 พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่โหวต ก็แล้วแต่ ก็มันดึกแล้วมั้ง เขาก็ปล่อยให้ฟรีโหวตอยู่แล้ว”

พล.อ.ประวิตรตอบคำถามอีกครั้งเพื่อย้ำว่า “ไม่มีการหักหลัง ไม่มีหรอก”

เมื่อถามว่าจะมีปัญหาในการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันและจะเป็นรอยร้าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มี ไม่มี”

เมื่อถามว่ากังวลว่าพรรคประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยจะถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมจะไปรู้ได้ยังไง คุณไปถามเขาดูดิ ก็เห็นเขาคุยกับผมดีอยู่”

เมื่อถามว่า ยืนยันว่ารัฐบาลมีความจริงใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ก็แก้ไข ก็แก้ไข ผมพูดตั้งหลายทีแล้วใช่มั๊ย”

ถามย้ำว่า จะตั้งหลักเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังจากนี้อย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมก็ไม่รู้ ผมจะไปรู้ได้ยังไง”