ชัยวุฒิ ออกโรง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เตือน รุ่นน้อง คิดถึงคุณค่าของพระเกี้ยว และเกียรติภูมิของจุฬา
วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2564 คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ ได้ออกแถลงการณ์ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว ซึ่งจำลองกระบวนแห่อย่างราชสำนัก โดยมีผู้อัญเชิญพระเกี้ยว ถือพระเกี้ยว ที่เป็นสัญลักษณ์สูงสุดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั่งบนเสลี่ยง ถูกแบกโดยนิสิตกว่า 50 คน เสมือนเป็นการสนับสนุนและสะท้อนถึงระบอบอำนาจนิยม รวมถึงค้ำยันความเชื่อว่า คนไม่เท่ากัน
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 มีนาคม ย้อนหลัง 10 ปี
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จุลพันธ์ แจ้งคืบหน้า รอประชุมอีก 2 นัด
- เหล้าเบียร์ 5 แสนล้านสะเทือน สิงห์-ช้างอ่วม กฎหมายใหม่ห้ามโฆษณา
ล่าสุด นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก รมว.”ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” แสดงความคิดเห็นผ่านเรื่องดังกล่าวว่า “พระเกี้ยว สัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาวนิสิตจุฬาฯ อันมาจากชื่อของมหาวิทยาลัยซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัย
หากสืบประวัติที่มาของประเพณีการอัญเชิญตราพระเกี้ยวเข้ามาในสนามแข่งขันนั้น น่าจะคล้ายเหมือนเป็นการเปิดงาน ซึ่งทางธรรมศาสตร์จะต้องมีตราธรรมจักร ส่วนจุฬาฯ เชิญตราพระเกี้ยว
การอัญเชิญตราพระเกี้ยวเปรียบเสมือนการอัญเชิญพระพุทธเจ้าหลวงทั้ง 2 พระองค์ ซึ่งเป็นผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัย เข้ามาในงาน และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่นักกีฬาและเหล่ากองเชียร์ ดังประโยคที่ดังก้องอยู่ในใจชาวจุฬาฯ ทุกคนว่า “สีชมพูจักอยู่ในกายเจ้า พระเกี้ยวเกล้าจักอยู่เป็นคู่ขวัญ”
ผมในฐานะอดีตหัวหน้านิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 2536 มีความภาคภูมิใจในอดีตที่ได้เคยเป็นส่วนหนึ่งในการเชิญพระเกี้ยวเข้ามาในงานฟุตบอลประเพณี ผมจำได้ดีว่าพวกเราทุกคนจะแบ่งหน้าที่กันทำกิจกรรมด้วยความภาคภูมิใจ ผมเชื่อมั่นว่านิสิตทุกคนที่อยู่ในงานมีความสุขและดีใจที่ได้มาร่วม แม้ว่าจะเป็นคนแบกเสลี่ยง เราก็ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ของเรา
สังคมเปลี่ยน วัฒนธรรมบางอย่างอาจต้องเปลี่ยน แต่คุณค่าของพระเกี้ยวสำหรับชาวจุฬาไม่เคยเปลี่ยน ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆครับ และขอให้น้องๆนิสิตจุฬา ไม่ว่าจะจัดกิจกรรมกันอย่างไร ก็ขอคิดถึงคุณค่าของพระเกี้ยว และเกียรติภูมิที่พวกเรายึดถือกันไว้ตลอดมา
เกียรติภูมิจุฬาฯ คือเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน