ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564
ก่อนจะเข้าคูหาเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ มีเรื่องใดที่ผู้มีสิทธิต้องรู้ เช็กเลย
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 8 ปี ที่คนไทยมีสิทธิเลือกตั้งเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- มอเตอร์โชว์ 2024 เริ่มแล้ว
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมทุกเรื่องที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิก อบต. และนายก อบต. ต้องรู้ ก่อนถึงวันเลือกตั้ง
อบต. คืออะไร ?
องค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งคนทั่วไปมักเรียกกันติดปากว่า อบต. เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความสำคัญต่อท้องถิ่นเป็นอย่างมาก มีขนาดเล็กและอยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ชนบท
อบต. จัดตั้งโดยประกาศกระทรวงมหาดไทย เพื่อดูแลและจัดทำบริการสาธารณะแก่ประชาชนในหมู่บ้าน ตำบล มีฐานะเป็นนิติบุคคล
ทำไมประเทศไทยไม่ได้เลือกตั้ง อบต. เกือบ 8 ปี ?
ปัจจุบันสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ได้ครบวาระการดำรงตำแหน่งทั่วประเทศแล้ว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2561 โดยที่สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าวยังคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกคำสั่งให้ทำหน้าที่ต่อจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่
ในส่วนของกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยานั้น อาจจะกำหนดให้มีการเลือกตั้งในลำดับต่อไป
สมาชิก อบต. และนายก อบต. มีเท่าไร ?
อบต.ประกอบด้วยสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน เขตเลือกตั้งละ 1 คน โดยกำหนดเขตหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้ง เว้นแต่หมู่บ้านใดมีราษฎรไม่ถึง 25 คน ให้รวมหมู่บ้านนั้นกับหมู่บ้านที่มีพื้นที่ติดต่อกัน และรวมกันแล้วมีราษฎรถึง 25 คน เป็นเขตเลือกตั้งเดียวกัน อายุของสภาองค์การบริหารส่วนตำบล มีกำหนดคราวละ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง
หาก อบต.ใดมีเขตเลือกตั้งไม่ถึง 6 เขตเลือกตั้ง (หมู่บ้าน) ให้สภาองค์การบริหารส่วนตำบลนั้น ประกอบด้วยสมาชิก (ส.อบต.) จำนวน 6 คน โดย
- ถ้ามี 1 เขตเลือกตั้ง ให้มี ส.อบต. 6 คน
- ถ้ามี 2 เขตเลือกตั้ง ให้มี ส.อบต. ได้เขตเลือกตั้งละ 3 คน
- ถ้ามี 3 เขตเลือกตั้ง ให้มี ส.อบต. ได้เขตเลือกตั้งละ 2 คน
- ถ้ามี 4 เขตเลือกตั้ง ให้มี ส.อบต. ได้เขตเลือกตั้งละ 1 คนก่อน แล้วเพิ่มให้เขตเลือกตั้งที่มีจำนวนราษฎรมากที่สุด 2 เขตเลือกตั้งแรก เขตเลือกตั้งละ 1 คน
- ถ้ามี 5 เขตเลือกตั้ง ให้มี ส.อบต. ได้เขตเลือกตั้งละ 1 คน และเพิ่มให้เขตเลือกตั้งที่มีจำนวนราษฎรมากที่สุดอีก 1 คน
และกำหนดให้มีนายก อบต.ที่มาจากการเลือกตั้ง จำนวน 1 คน โดยใช้เขตตำบลเป็นเขตเลือกตั้ง มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้
กรณีดำรงตำแหน่งไม่ครบ 4 ปี ก็ให้ถือว่าเป็น 1 วาระ และเมื่อได้ดำรงตำแหน่ง 2 วาระ ติดต่อกันแล้ว จะดำรงตำแหน่งได้อีกเมื่อพ้นระยะเวลา 4 ปีนับแต่วันพ้นตำแหน่ง
ภายหลังการเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้ ประเทศไทยจะได้นายก อบต. ทั้งหมด 5,300 คน และสมาชิกสภา อบต. 56,641 คน
สถิติที่น่าสนใจหลังเปิดรับสมัคร
หลัง กกต.ประกาศรับสมัครสมาชิก อบต. และนายก อบต. ระหว่างวันที่ 11-15 ตุลาคม 2564 พบสถิติที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
ผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศ 76 จังหวัด รวม 136,250 คน แบ่งเป็น
- ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 12,309 คน
- ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 123,941 คน
จังหวัดที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. สูงสุด 10 อันดับแรก
1.จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 7,333 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 554 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 6,779 คน
2.จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 5,621 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 479 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 5,142 คน
3.จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 5,062 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 371 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 4,691 คน
4.จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 4,823 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 415 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 4,408 คน
5.จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 4,445 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 349 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 4,096 คน
6.จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3,761 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 361 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 3,400 คน
7.จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 3,686 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 294 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 3,392 คน
8.จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 3,609 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 325 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 3,284 คน
9.จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 3,322 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 262 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 3,060 คน
10.จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 3,176 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 280 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 2,896 คน
จังหวัดที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบต. และ นายก อบต. น้อยสุด
จังหวัดภูเก็ต จำนวน 121 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 17 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 104 คน
จำนวนผู้สมัครที่เป็นอดีตนายก อบต.
มีทั้งสิ้น 2,811 คน คิดเป็นร้อยละ 22.84 ของจำนวนผู้สมัครทั้งหมด (เมื่อเทียบกับจำนวน อบต. 5,300 แห่ง จะคิดเป็นร้อยละ 53.03) และเป็นผู้สมัครรายใหม่ 9,498 คน คิดเป็นร้อยละ 77.16 ของจำนวนผู้สมัครทั้งหมด
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ประชาชนจะสามารถใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งได้ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
- มีสัญชาติไทย แต่ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
- อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ในวันเลือกตั้ง
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง
- และคุณสมบัติอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด
ทั้งนี้ เฉพาะผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่ในเขต อบต.เท่านั้นที่ได้ออกไปใช้สิทธิ ประชาชนจึงต้องตรวจสอบว่าที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของตนนั้น อยู่ในเขตความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบใด และตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ชัดเจนก่อนไปลงคะแนน
สามารถตรวจสอบได้ที่นี่ https://stat.bora.dopa.go.th/Election/enqelectloc/
ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
บุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ ในวันเลือกตั้งเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
- เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช
- อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่
- ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ขอบด้วยกฎหมาย
- วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
- มีลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด
หลักฐานที่ใช้แสดงตนในการเลือกตั้ง
- บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรที่หมดอายุก็ใช้ได้)
- บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชน เช่น
– บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ
– ใบขับขี่
– หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
ฯลฯ
การเตรียมความพร้อมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องดำเนินการเตรียมพร้อมก่อนไปใช้สิทธิ ดังนี้
- ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
- ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 25 วัน
- ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ศาลากลางจังหวัด หรือที่ว่าการอำเภอ องค์การบริหารส่วนตำบล ที่เลือกตั้งหรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 15 วัน
- ตรวจสอบรายชื่อจากเอกสารที่แจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งมายังเจ้าบ้าน
- การเพิ่มชื่อ-ถอนชื่อ
- ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน
- หากพบว่าตนเองหรือผู้มีชื่อยู่ในทะเบียนบ้านของตนไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือเจ้าบ้านเห็นว่ามีชื่อบุคคลอื่นอยู่ในทะเบียนบ้านของตนโดยไม่ได้อาศัยอยู่จริงให้ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นเพื่อขอเพิ่มชื่อ-ถอนชื่อ พร้อมนำสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นใดที่ทางราชการออกให้ไปแสดงด้วย
การแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใดที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เนื่องจากมีเหตุอันสมควร ให้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อนายทะเบียนอำเภอที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยทำเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน ภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง หรือภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง สามารถแจ้งด้วยตัวเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นไปยื่นแทน หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
เหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
- มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล
- เจ็บป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
- เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
- เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
- มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร
- ได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้ง
- มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุอื่นที่ กกต.กำหนด
กรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้แจ้งเหตุไว้แล้ว หากในวันเลือกตั้งเหตุดังกล่าวได้สิ้นสุดลง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้งได้
หากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะถูกจำกัดสิทธิอะไรบ้าง ?
- สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือ ส.ถ. หรือ ผ.ถ. หรือสมัครรับเลือกเป็น ส.ว.
- สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน
- เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอน ส.ถ. หรือ ผ.ถ.
- ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
- ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
- ดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น และเลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่น
การถูกจำกัดสิทธิ กำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง
สิ่งที่ทำไม่ได้ หลัง 18.00 น. 27 พ.ย. 64
- ห้ามผู้ใดขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้ง ระหว่างเวลา 18.00 น.ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน (27 พ.ย. 2564) จนถึงเวลา 18.00 น.ของวันเลือกตั้ง (28 พ.ย. 2564)
- ห้ามผู้ใดหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการใด รวมถึงวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครนับตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง (24.00 น. ของวันที่ 28 พ.ย. 2564)
ขั้นตอนการลงคะแนนเลือกตั้ง
1.ตรวจสอบรายชื่อ : ตรวจสอบรายชื่อ และลำดับที่จากบัญชีรายชื่อ ที่ประกาศไว้หน้าที่เลือกตั้ง
2.ยื่นหลักฐานแสดงตน : แสดงหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรที่หมดอายุก็ใช้ได้) หรือบัตรหรือหลักฐานที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชน ต่อ กปน. พร้อมลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือในบัญชีรายชื่อ
3.รับบัตรเลือกตั้ง : ลงลายมือชื่อ หรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือลงที่ต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่ บัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
4.ทำเครื่องหมายกากบาท : เข้าคูหาลงคะแนนทำเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในช่องทำเครื่องหมาย ดังนี้
- บัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล เลือกผู้สมัครได้หนึ่งคน
- บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เลือกผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลได้ไม่เกินจำนวนสมาชิกที่แต่ละเขตเลือกตั้งนั้นพึงมี
- หากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครผู้ใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาท (X) ในช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด แล้วพับบัตรเลือกตั้ง
5.หย่อนบัตรเลือกตั้งด้วยตัวเอง : นำบัตรเลือกตั้งที่พับเรียบร้อยแล้วหย่อนใส่ลงในหีบบัตรเลือกตั้งด้วยตนเอง
บัตรเลือกตั้ง 2 สี กากบาทเลือกอย่างไร
การไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้รับบัตรเลือกตั้ง จำนวน 2 ใบ ในการออกเสียงลงคะแนน ดังนี้
- บัตรเลือกตั้งสีแดง : สำหรับลงคะแนนเลือกตั้ง “สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล” ทำเครื่องหมายกากบาทในช่องทำเครื่องหมาย ได้เพียงคนเดียว
- บัตรเลือกตั้งสีน้ำเงิน : สำหรับลงคะแนนเลือกตั้ง “สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล” ทำเครื่องหมายกากบาทเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ไม่เกินจำนวนที่พึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น
กรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประสงค์จะลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครใด ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำเครื่องหมายกากบาทในช่องทำเครื่องหมาย “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด”
เวลาลงคะแนนเลือกตั้ง
ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-17.00 น.
การประกาศผลเลือกตั้ง
หากไม่มีการร้องเรียน จะมีการประกาศผลการเลือกตั้งในวันที่ 28 ธันวาคม แต่หากมีการร้องเรียน กกต. จะดำเนินการสืบสวนไต่สวน ซึ่งอาจทำให้การประกาศผลล่าช้าออกไปอีกหนึ่งเดือน หรือประกาศผลภายในวันที่ 27 มกราคม 2565
การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
ห้ามมิให้
ผู้ใดซึ่งรู้อยู่แล้วว่าตนเองเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง พยายามออกเสียงลงคะแนน หรือออกเสียงลงคะแนน
ผู้ใดจงใจกระทำด้วยประการใด ๆ ให้บัตรเลือกตั้งที่ตนได้รับจาก กปน. ชำรุดหรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่บัตรเสียเพื่อให้เป็นบัตรที่ใช้ได้
ผู้ใดซึ่งมิได้มีสัญชาติไทย เข้ามามีส่วนช่วยเหลือในการเลือกตั้ง
ผู้ใดเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการพนันขันต่อใด ๆ เกี่ยวกับผลของการเลือกตั้ง
ผู้ใดหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการใด ๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร นับตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง
ผู้ใดใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งเพื่อให้เห็นเครื่องหมายลงคะแนนในคูหาเลือกตั้ง
ผู้ใดขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้ง ในระหว่างเวลา 18.00 น.ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน จนถึงเวลา 18.00 น.ของวันเลือกตั้ง
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อลงคะแนนเลือกหรือไม่เลือกผู้สมัครใดหรืองดเว้นไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครใด
ผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งหรือเพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
ผู้ใดจงใจทำเครื่องหมายโดยวิธีใดไว้ที่บัตรเลือกตั้ง นอกจากเครื่องหมายที่ลงคะแนน
ผู้ใดนำบัตรเลือกตั้งออกไปจากที่เลือกตั้ง เว้นแต่เป็นการกระทำตามหน้าที่และอำนาจ
ข้อพึงระวังในวันเลือกตั้ง
- ห้ามผู้ใดซึ่งรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งพยายามออกเสียงลงคะแนนหรือออกเสียง
- ห้ามผู้ใดจงใจกระทำด้วยประการใด ๆ ให้บัตรเลือกตั้งชำรุด หรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่บัตรเสียเพื่อให้เป็นบัตรที่ใช้ได้
- ห้ามผู้ใดใช้บัตรอื่นที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่ได้รับจากกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเพื่อการออกเสียง
- ห้ามผู้ใดนำบัตรเลือกตั้งออกไปจากที่เลือกตั้ง เว้นแต่เป็นการกระทำตามหน้าที่และอำนาจ
- ห้ามผู้ใดใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งเพื่อให้เห็นเครื่องหมายลงคะแนน
ในคูหาเลือกตั้ง - ห้ามนำบัตรเลือกตั้งที่ออกเสียงลงคะแนนแล้วแสดงต่อผู้อื่นเพื่อให้ผู้อื่นทราบว่าตนได้ลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด
- ห้ามผู้ใดนำบัตรเลือกตั้งใส่ในหีบบัตรเลือกตั้ง โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือ
กระทำการใดในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อแสดงว่ามีผู้มาแสดงตนเพื่อออกเสียงลงคะแนนโดยผิดจากความจริง หรือกระทำการใดอันเป็นเหตุให้มีบัตรเลือกตั้งเพิ่มขึ้นจากความจริง - ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการใดโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
สามารถใช้สิทธิได้ หรือขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ ที่เลือกตั้ง หรือมิให้ไปถึง ณ ที่เลือกตั้ง ภายในกำหนดเวลาที่จะออกเสียงลงคะแนนได้ - ห้ามผู้สมัครจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังที่เลือกตั้งเพื่อการเลือกตั้ง หรือนำกลับจากที่เลือกตั้ง หรือจัดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปหรือกลับเพื่อการออกเสียงลงคะแนน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าจ้าง
ทั้งนี้ ขอย้ำเตือนให้ระมัดระวังอย่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และหากพบเห็นการทุจริตเลือกตั้งสามารถแจ้งเบาะแสได้ทางแอปพลิเคชั่น “ตาสับปะรด” หรือแจ้งเหตุได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2141-8860, 0-2141-8579 และ 0-2141-8859 หรือศูนย์บริการสายด่วนเลือกตั้ง 1444
- เลือกตั้ง อบต. 28 พ.ย. ไปใช้สิทธิไม่ได้ทำอย่างไร
- เลือกตั้งนายก อบต. 28 พ.ย. ปฏิรูปท้องถิ่น
- เลือกตั้ง อบต. 28 พ.ย. เช็กขั้นตอนลงคะแนนเสียง ช่องทางตรวจสอบสิทธิ
- กกต.จ่อแต่งตั้ง กกต.ประจำ อบต. 5,300 แห่ง รองรับเลือกตั้ง 28 พ.ย.
- เลือกตั้ง อบต. : กกต. เปิด 8 ลักษณะดี คนที่ควรเลือกเป็นผู้แทน
-
ด่วน ! ราชกิจจาฯ ประกาศ วันเลือกตั้งสมาชิกสภา-นายก อบต. 28 พ.ย.