กรณ์ ชัด เลือก อรรถวิชช์ ไปเป็นรัฐบาล-อย่าให้เสียงแตก

กรณ์ ปราศรัยใหญ่ เลือก อรรถวิชช์ ไปเป็นรัฐบาล-ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อ ลั่น ไม่ดึงสถาบันมาเล่นการเมือง-สร้างความแตกแยก  

วันที่ 28 มกราคม 2565 ที่สนามฟุตบอลเคหะท่าทราย ศูนย์เยาวชนหลักสี่ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ขึ้นเวทีปราศรัยใหม่ “รวมพลัง การเมืองคุณภาพ” ของพรรคกล้า ที่ส่งนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ลงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จัตุจักร เบอร์ 2 ว่า

มาช่วยกันสร้างการเมืองคุณภาพ คือ การเมืองที่ทำให้ชีวิตพี่น้องดีขึ้น อยู่ดีกินดี ทำให้ลูกหลานได้เรียนหนังสือ มีโอกาสทำมาหากินเมื่อเรียนจบแล้ว เป็นการเมืองคุณภาพและมีคุณธรรม เป็นการเมืองของผู้เสียสละ และเป็นการเมืองที่มีหลักธรรมาภิบาลที่ดี ยึดอยู่กับความถูกต้อง ไม่สลับซับซ้อน แต่หายากอาทิตย์ที่ผ่านมามีการจัดอันดับประเทศด้านการทุจริตคอรัปชั่น ประเทศไทยตกชั้นอีกแล้ว ลงไปอยู่อันดับ 110 จากทั้งหมด 135 ประเทศ เป็นอันดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขนาดเรามีรัฐธรรมนูญที่โฆษณาว่า เป็นรัฐธรรมนูญแก้โกง ปัญหาการคอรัปชั่นก็แก้ไม่ตก เพราะการเมือง ไม่เป็นการเมืองคุณภาพ 

นายกรณ์กล่าวว่า การที่เราต้องมาเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร เพราะมีการยื่นคุณสมบัติที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เมื่อถูกจับได้ แทนที่จะลาออกกลับต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นภาระปลดออกจากตำแหน่ง จนถึงวันนี้ ยังไม่เห็นคำขอโทษจากเจ้าตัว หรือ คำขอโทษจากพรรคต้นสังกัดแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยได้ยิน

“ขอบอกกับพี่น้องประชาชน ถ้ามีกรณีนี้เกิดขึ้นกับผู้สมัครพรรคกล้าในอนาคต นอกจากจะกล่าวคำขอโทษแล้ว พรรคกล้าจะแสดงความรับผิดชอบโดยไม่ส่งลงแข่งในการเลือกตั้งซ่อมครับพี่น้อง”

นายกรณ์กล่าวว่า การต่อสู้การเมืองคุณภาพเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่ไม่มีไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีการเมืองคุณภาพ ไม่มีโอกาสสำหรับประเทศชาติ ไม่มีโอกาสสำหรับลูกหลานของพี่น้องที่ก้าวหน้าได้ การเมืองมีความสำคัญ ต้องเป็นการเมืองคุณภาพ ไม่มีอะไรต้องอาศัยความกล้ามากกว่านี้ มากกว่าการพยายามทำการเมืองคุณภาพ ความพยายามในการชนะในศึกเลือกตั้งด้วยการเมืองสร้างสรรค์ การเมืองสุจริต ต้องอาศัยความกล้า

“พรรคกล้าถ้าเราประสบความสำเร็จ เราจะสามารถกำหนดอนาคตที่ดีให้กับบ้านเมืองได้ เราจะสามารถทำในเรื่องที่เราตั้งใจและมุ่งมั่นตั้งแต่แรกในการตั้งพรรค คือ ทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี ดูแลเรื่องของปากท้อง”

นายกรณ์กล่าวว่า พรรคกล้าที่บังอาจมาเสนอตัวแข่งกับพรรคใหญ่เพราะเราเชื่อ เรื่องแรก เชื่อในศักยภาพประเทศไทย เรื่องที่สอง ตัวตนความเป็นไทย ไม่ใช่เรื่องล้าสมัย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

“ผมไม่มีวันเอาประเด็นเรื่องสถาบันมาเป็นประเด็นการเมืองเด็ดขาด พรรกล้าจะไม่มีวันสนับสนุนการใช้เรื่องของสถาบันมาเป็นประเด็นการเมือง เราจะไม่มีวันสนับสนุนการใช้โอกาสการเลือกตั้ง เป็นเรื่องการจัดทำโพลวัดคะแนนนิยมของสถาบัน ว่าใครรัก ใครไม่รัก ใครเอา ใครไม่เอา เราไม่เห็นด้วยกับการนำสถาบันมาเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมือง ไม่ว่าจะฝั่งใด ซ้าย หรือ ขวา”

นายกรณ์กล่าวว่า การเมืองเป็นเรื่องของการแบ่งแยก ถ้ามีพรรคใดพรรคหนึ่งพยายามผูกขาดในเรื่องสถาบัน ในเรื่องของการรักสถาบัน แล้วพรรคการเมืองอื่นที่เป็นคู่แข่งจะมีที่ยืนอยู่จุดไหน จะถูกกล่าวหาว่า ไม่จงรักภักดีหรืออย่างไร เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่ใช่เรื่องของเราที่จะมาสร้างการแบ่งแยกในประเด็นนี้ 

“กระบวนการล้มล้างสถาบันมีอยู่จริง เราต้องยึดมั่นในการต่อสู้กับกระบวนการนี้ และต่อสู่ด้วยกฎหมายอย่างเคร่งครัด เรามาต้องใจกว้างไปรักทุกคนเหมือนกัน แต่ผมขอเพียงแค่ อย่าใส่ฟืนลงไปในไฟ ให้มันลุกโชนขึ้นมากกว่านี้ ให้มันแตกแยก แบ่งแยกมากกว่านี้ ประชาชนเดือดร้อนมากพอแล้ว ประเทศชาติเสียโอกาสพอแล้ว หยุดเถอะครับ”

นายกรณ์กล่าวว่า อยากบอกไปถึงเพื่อนนักการเมือง การได้มาซึ่งอำนาจ การได้มาซึ่งตำแหน่ง บนพื้นฐานของความเดือนร้อน ความแตกแยก โดยเฉพาะการดึงสถาบันมาเป็นประเด็นทางการเมืองไม่คุ้ม เลิกเถอะ และมาทำการเมืองคุณภาพ การเมืองที่มาถกมาเถียงกัน ว่าเราจะทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ประชาชนมีรายได้ ประชาชนทุกคนมีโอกาสก้าวหน้าในชีวิต นั่นคือหน้าที่ของนะการเมืองที่มีคุณภาพ เราจะเดินหน้าสร้างการเมืองคุณภาพตามแนวความเชื่อของเราอย่างไม่หยุดยั้ง

นายกรณ์กล่าวว่า เราเป็นพรรคใหม่ วันนี้เรายังไม่มี ส.ส.อยู่ในสภา จะทำได้ไหม ๆ ผมขอบอกพี่น้องว่าผมมั่นใจ ผมมั่นใจเพราะว่า ทุกสิ่งที่เราต้องการ ทุกเป้าหมายที่พรรคกล้ามี คือ เรื่องเดียวกับที่พี่น้องประชาชนหลักสี่ จัตุจักร พี่น้องประชาชนกรุงเทพฯ ทั่วประเทศต้องการเหมือนกัน แล้วทำไมจะทำไม่ได้ ง่ายนิดเดียว รวมพลังเข้าคูหาวันอาทิตย์กาเบอร์ 2 ให้กับอรรถวิชช์ เราก็จะเดินก้าวแรกไปสู่จุดเป้าหมาย แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งซ่อม ไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี แต่การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญก้าวแรกที่เราจะเดินไปสู่การเมืองคุณภาพด้วยกัน 

“แล้วถ้าอรรถวิชช์ได้รับเลือกตั้งซ่อมวันอาทิตย์นี้ แล้วเข้าไปในสภา จะอยู่ฝ่ายไหน ผมขอตอบให้ชัด ถ้าพี่น้องต้องการเลือก ส.ส.จากการเลือกตั้งซ่อมนี้เข้าไปเป็นฝ่ายค้าน พี่น้องไปเลือกก้าวไกล ไปเลือกเพื่อไทย พรรคกล้าไม่ได้มีเจตนาลงเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อเข้าไปเป็นฝ่ายค้าน แต่พรรคกล้าโดยอรรถวิชช์ ในเวลาที่เหลือของรัฐบาลนี้ สภานี้ พร้อมที่จะสนับสนุนทุกเรื่องนายกรัฐมนตรี ที่รัฐบาลและสภานำเสนอที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เรื่องไหนที่ทำให้ประเทศชาติก้าวหน้า พัฒนาได้เรายกมือสนับสนุนแน่นอน ขอเรื่องเดียว ขออย่าโกง อย่ามีทุจริต เพราะถ้ามีเรื่องทุจริต ไม่ว่าจะพรรคใด คนใด เราไม่ยอม”

นายกรณ์กล่าวว่า พรรคกล้าเป็นพรรคใหม่ ไม่ครบ 2 ปี พี่น้องไม่รู้จักดี จึงยากที่จะศรัทธาเพราะต้องใช้เวลา แล้ววันนี้พี่พรรคไหนที่พี่น้องศรัทธาได้บ้าง ค่ารถไฟฟ้า 20 บาท หาเสียงไว้ตั้งแต่ปี 54 เป็นรัฐบาลแล้วก็ยังไม่ได้ทำ วันนี้จะมาเสนออะไร อีกพรรคหนึ่ง พรรครัฐบาล ปี 62 หาเสียงไว้ว่าจะลดภาษีให้มนุษย์เงินเดือน เด็กแรกเกิดได้รับเงินแจกเกือบ 2 แสนบาท วันนี้ไม่เห็นทำสักเรื่อง มีอะไรให้ประชาชนศรัทธาได้บ้าง 

“ต้องอดทนกับใครก็ไม่รู้มาแล้วหลายปี โอกาสนี้สภาเหลืออีก 1 ปี เลือกคนดีมีคุณภาพเข้าไปทำงาน เราจึงเลือกคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมากที่สุดที่มีในพรรค เหมาะสมที่สุดมาเป็นตัวเลือกให้พี่น้อง ถ้าพี่น้องต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ต้องการเห็นการเมืองดีขึ้น การเมืองมีคุณภาพ เลือก ส.ส.ที่พร้อมทำงานทันที มีตัวเลือกเดียว คือ เบอร์ 2 อรรถวิชช์ อย่าให้เสียงแตก เพื่อการเมืองมีคุณภาพ”