ปริญญ์ ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์

ปริญญ์ลาออกทุกตำแหน่งในประชาธิปัตย์

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ แถลงข่าวลาออกรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความรับผิดชอบ หลังมีกระแสข่าวพาดพิง

วันที่ 14 เมษายน 2565 กรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โพสต์เฟซบุ๊กระบุมีรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ มีพ่อดังระดับโลก ลวนลามหญิงสาวที่ไม่ได้รับความยินยอม และแม่ของผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว ต่อมา นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา นายปริญญ์ได้ออกมาแถลงข่าว เริ่มต้นจากการปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง และแสดงความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจนี้ พร้อมกับได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการตัดสินใจลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรค และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งที่อยากทำงานให้พรรคและสังคม แต่เมื่อกระทบกับภาพลักษณ์ จึงอยากเคลียร์ตัวเองก่อน ซึ่งผู้ใหญ่ก็รับทราบ โดยตนตัดสินใจเอง

“ผมยังช็อกและตกใจมาก ยืนยืนไม่ใช่คนแบบนั้น และไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนคุณพ่อคุณแม่นั้น คุณพ่อคุณแม่ก็รักลูก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ขอชี้แจงกับตำรวจดีกว่า”

เมื่อถามว่าหากไม่จริงจะฟ้องกลับหรือไม่ นายปริญญ์ ตอบว่า ไม่อยากให้มองเรื่องฟ้องกลับ แต่ใครทำอะไรไว้ก็เป็นเรื่องอนาคต ขอเล่ารายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ฟังดีกว่า เวลาจะพิสูจน์ความจริง ไม่อยากพูดว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร แต่เรื่องที่กล่าวหาไม่ใช่ความจริง ไม่อยากให้จับว่าเป็นประเด็นการเมือง แต่อยากให้เวลาพิสูจน์

เมื่อถามอีกว่า ผู้ใหญ่ในพรรคให้คำแนะนำอย่างไร นายปริญญ์กล่าวว่า จริงๆ ท่านเคารพในการตัดสินใจ ตนคิดว่าต้องรับผิดชอบหน้าที่การงาน ถามว่าอยากทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคมไหม ก็อยาก แต่ต้องรับผิดชอบต่อภาพลักษณ์ของพรรค ผู้ใหญ่ก็รับทราบ ตัดสินใจเองตั้งแต่วานนี้ ส่วนหัวหน้าพรรคท่านก็เคารพในการตัดสินใจ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว ท่านไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร

ส่วนกรณีติดต่อเข้าไปหาแม่ของหญิงวัย 18 ปีนั้น เป็นการคุยกับแม่เพื่อทำความเข้าใจกัน แสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หนีปัญหา ที่มีคนมากล่าวหา ก็ยินดีถ้าจะพบปะพูดคุย แต่ไม่มีอะไรต้องซ่อน ส่วนรายละเอียดต่างๆ นั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอไปให้การกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย จริงๆ สถานที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงแรม เป็นร้านอาหารเปิด เวลา 5 โมงเย็น คนแน่นร้าน

“เชื่อว่าความจริงจะปรากฏตอนที่ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ หากพูดออกสื่อ จะกลายเป็นว่าไม่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ข้อกล่าวหาไม่ใช่ความจริง พร้อมที่จะให้การ และขออนุญาตให้การกับเจ้าหน้าที่ในการพูดความจริงทั้งหมด เชื่อว่าความจริงจะปรากฏแม้จะต้องใช้เวลา” นายปริญญ์กล่าว

นายปริญญ์ ทิ้งท้ายว่า “ผมไม่ได้ทำตามข้อกล่าวหาในโซเชียล ต้องให้ความเป็นธรรม ขออนุญาตให้การในชั้นศาล” ก่อนเดินออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะลาออกจากทุกตำแหน่งของพรรค นายปริญญ์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพรรค 3 ตำแหน่ง ได้แก่

  1. รองหัวหน้าพรรค
  2. หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย
  3. ผอ.เลือกตั้งผู้ว่า กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์