วิษณุ ชี้ หาก ประยุทธ์ พ้นนายกรัฐมนตรี 8 ปี “บิ๊กป้อม” รักษาการแทน

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายตอบ หากประยุทธ์ พ้นเก้าอี้เพราะดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี ต้องมีนายกฯ รักษาการ 

วันที่ 2 พฤษาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล กล่าวถึงกระแสข่าวนายกรัฐมนตรีสำรองสามารถเกิดขึ้นได้หรือไม่ ว่า ยังไม่รู้เลยว่าที่พูด ๆ กันแปลว่าอะไร และสำรองตอนไหน ตอนนี้หรือหลังเลือกตั้ง คำพูดคำนี้ทำท่าเหมือนกับมีคนพูดขึ้นมาก่อน และความหมายคืออะไรไม่ทราบ ต้องไปถามคนที่พูด

สุดท้ายแล้วเรื่องนี้เริ่มต้นลำดับที่ 1 คือว่า ต้องดูจากบัญชีรายชื่อที่เหลืออยู่ และที่มีอยู่ หากไม่เอารายชื่อดังกล่าว ต้องใช้มาตราที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เปิดทางคนนอกบัญชี จะเรียกนายกฯสำรองหรือไม่สำรองตนไม่รู้

เมื่อถามว่า ก่อนจะเป็นนายกฯสำรอง ต้องมีนายกฯรักษาการก่อนใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ จะต้องมีคนใดคนหนึ่งรักษาการ จะว่างเว้นนายกฯไม่ได้ เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ รักษาการคนแรกใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ และย้อนถามว่า เหตุใดจึงต้องมีนายกฯ รักษาการ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจต้องพ้นจากตำแหน่งกรณีดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี นายวิษณุกล่าวว่า “สมมุติว่า เกิดมีคำวินิจฉัยว่า เข้า 8 ปี ถ้าอย่างนั้น ผู้เป็นนายกฯรักษาการก็เป็นไปตามลำดับที่เรียงไว้ คนแรกคือ พล.อ.ประวิตร และคนที่สองคือ ตน โดยนายกฯรักษาการสามารถยุบสภาได้ แต่ไม่เคยทำ”

จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จะต้องจัดให้มีการเลือกนายกฯคนใหม่ ภายใน 3-7 วัน เหมือนกับการเลือกนายกฯครั้งที่ผ่านมา โดยใช้บัญชีที่มีอยู่คือสำรอง ตอนนั้นประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายชัยเกษม นิติสิริ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 5 คนนี้คือ บัญชีสำรอง

เมื่อถามว่า คุณหญิงสุดารัตน์ออกจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แล้วยังจะเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรรค พท.ได้อีกหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่สำคัญ เพราะชื่อยังอยู่ในบัญชีสำรอง นายชัชชาติก็ออกไปแล้ว ก็ยังอยู่ในบัญชีสำรอง

เมื่อถามว่า หากคนที่อยู่ในบัญชีนายกฯสำรอง ต้องการเป็นนายกฯ จำเป็นต้องไปรวบรวมเสียง ส.ส.ให้มากที่สุดใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่รู้ จะรวบรวมหรือไม่รวบรวมอะไรทั้งสิ้น เพราะกระบวนการคือ นายชวนจะต้องเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อกำหนดว่าถึงเวลาเสนอชื่อนายกฯ จากนั้นก็เสนอขึ้นมา โดยไม่ต้องรวบรวมเลย และคงจะมีคนลุกขึ้นมาเสนอชื่อ 2-3 คนเหมือนครั้งที่แล้ว และมีการลงมติแข่งกัน ใครคะแนนสูงสุดก็ว่ากันไป

เมื่อถามว่า มีสิทธิเสนอชื่อคนนอกบัญชีได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้ ต้องเสนอจากรายชื่อที่อยู่ในบัญชี เมื่อถามว่า หากเลือกกันไม่ได้ ต้องไปใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสอง เพื่อเปิดทางนายกฯ คนนอกได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เลือกได้หรือไม่ได้ ก็ต้องมีผู้เสนอคือ ส.ส. 250 คนเสนอว่า ให้ล้มบัญชีที่มี และเอาบัญชีใหม่ และประธานประรัฐสภา ก็เรียกประชุมรัฐสภา

โดยรัฐสภาต้องมีมติ 500 เสียงจาก 750 เสียง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้เห็นชอบ เมื่อเห็นชอบก็จะมี ส.ส. 50 คน เสนอชื่อ และประชุมรัฐสภาอีกครั้ง เพื่อโหวตทั้งรัฐสภา ว่าจะเอาชื่อไหน กระบวนการทำได้แต่ซับซ้อน

เมื่อถามว่า ถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะไปถึงจุดนั้นใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตอบไม่ได้ว่ายากหรือไม่ยาก คุณฟังแล้วว่ายากหรือง่าย บางคนบอกอาจจะง่ายนิดเดียว เพราะสามารถทำได้ ก็ไปทำเอา แต่ก็จะมีอายุถึงเดือนมีนาคม 2566 เท่ากับอายุของสภา

“ผมก็ไม่รู้จะมาพูดทำไมเรื่องนายกฯ สำรอง สำรองมีอยู่แล้วคือ 5 คนที่ผมบอกไป ใครที่ไม่อยู่ในนี้ไม่ใช่สำรองทั้งนั้น แต่อันนี้จะเรียกสำรองบอกไม่มี ก็ไม่ได้ มันก็มีอยู่แค่นี้อย่างที่พูดกฎกติกาเป็นอย่างนั้น สำรองถูกต้องตามกฎหมาย”

เมื่อถามว่า สงสัยหรือไม่ที่มีการพูดเรื่องนายกฯสำรอง หรือเป็นเพราะมีการประเมินว่านายกฯจะถูกพิจารณาเรื่องนายกฯ 8 ปี จนทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่สงสัย เพราะเป็นปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นเสมอ เมื่อไม่มีอะไรทำก็จะเปิดวาทกรรมทางการเมืองออกมาเพื่อให้เกิดความสับสนเล่น


“ในอดีตผมเคยรู้จักใครบางคนที่อยู่ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ ทำให้สับสนเล่นโดยปล่อยคำพูดอะไรสักคำหนึ่ง และคำพูดหนึ่งนักข่าวก็พอใจที่จะตะครุบ เพราะว่าแปลกและไม่เคยได้ยิน สุดท้ายก็หายไปกับสายลมแสงแดด” นายวิษณุกล่าว