ครม.ไฟเขียวต่ออายุความตกลงว่าด้วยการก่อตั้งศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่นอีก 5 ปี เสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ
วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการต่ออายุความตกลงว่าด้วยการก่อตั้งศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (ASEAN-Japan Centre : AJC) ออกไปอีก 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2565-24 พฤษภาคม 2570
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
และมอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศซึ่งเป็นผู้แทนประเทศไทยในสมาชิกคณะมนตรีของศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น เป็นผู้แทนในการลงนามให้การรับรองต่ออายุความตกลงฯครั้งนี้ มีสาระสำคัญคือ วัตถุประสงค์เพื่อการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศญี่ปุ่น และประเทศสมาชิกอาเซียน
โดยการส่งเสริมการค้าจากประเทศสมาชิกอาเซียนไปญี่ปุ่น โดยเฉพาะสินค้ากึ่งสำเร็จรูป การส่งเสริมการไหลเวียนของการลงทุน รวมถึงการถ่ายทอดทักษะ และเทคโนโลยีระหว่างญี่ปุ่นและประเทศสมาชิกอาเซียน การกระตุ้นการท่องเที่ยวทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ขณะที่กิจกรรมต่างๆที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ของความตกลงฯ เช่น แนะนำ และประชาสัมพันธ์ในญี่ปุ่นและประเทศสมาชิกอาเซียน ถึงผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โอกาสการลงทุน และทรัพยากรการท่องเที่ยวทั้งของญี่ปุ่น และประเทศสมาชิกอาเซียน, บริหารจัดการอาคารแสดงนิทรรศการแบบถาวรของศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น, ช่วยเหลือและให้คำแนะนำในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนบุคลากร
ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลประโยชน์ทั้งของญี่ปุ่น และสมาชิกอาเซียน, เป็นช่องทางสำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว, วิจัยและศึกษาเกี่ยวกับการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนบุคลากรตามความจำเป็น
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า สำหรับศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น เป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ ภายใต้ความตกลงฯ เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคคลระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับญี่ปุ่น โดยมีคณะมนตรีจำนวน 11 ราย จากประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่น มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น