เปิดสถิติ Q3/66 ยอดขายร้าน 7-Eleven ลูกค้าใช้บริการลดลง-เพิ่มขึ้น ?

เซเว่นฯ

เปิดสถิติไตรมาส 3/66 ยอดขายร้าน 7-Eleven ต่อวัน ลูกค้าใช้บริการลดลง-เพิ่มขึ้น ?

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 “ประชาชาติธุรกิจ” อัพเดตภาพรวมธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ครองเจ้าตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ภายใต้อาณาจักรของ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ซึ่งปัจจุบันมีขนาดมูลค่ากิจการกว่า 6.1 แสนล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ย. 2566)

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา  CPALL รายงานงบการเงินประจำงวดไตรมาส 3/2566 (ก.ค.-ก.ย. 2566) ออกมาแล้ว พบว่าภายใน 1 วัน มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการร้าน 7-Eleven กี่คน มียอดขายต่อสาขาต่อวันเท่าไร ปัจจุบันมีกี่สาขา และมีรายได้-กำไร เป็นอย่างไรกันบ้าง

ลูกค้าใช้บริการต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 959 คน

  • มีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 959 คน ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2/66 ที่มีอยู่ 995 คน แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/65 ที่มีอยู่ 928 คน

ยอดขายต่อร้านต่อวันเฉลี่ย 79,308 บาท

  • มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน 79,308 บาท ลดลง 5.08% จากไตรมาส 2/66 แต่เพิ่มขึ้น 3.51% จากไตรมาส 3/65
  • มียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณ 82 บาท ลดลงจากไตรมาส 2/66 ที่อยู่ 84 บาท แต่ทรงตัวจากไตรมาส 3/65

โดย CPALL ระบุว่า ถึงแม้จะมีฝนตกหนักต่อเนื่องทั้งไตรมาส แต่การบริโภคภายในประเทศยังดีต่อเนื่อง ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศที่ยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้นำเสนอสินค้าใหม่ พร้อมกับโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า

อาทิ การออกแสตมป์แคมเปญเพื่อดึงดูดลูกค้าในช่วงฤดูฝน ประกอบกับรายได้จากการขายสินค้าส่วนเพิ่มผ่านกลยุทธ์ O2O อาทิ 7-Eleven Delivery และ All Online ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภาวะปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยมีสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้จากการขายสินค้ารวม

รายได้ขายสินค้าและบริการ 99,115 ล้านบาท

  • มีรายได้ขายสินค้าและบริการ 99,115 ล้านบาท ลดลง 3.28% จากไตรมาส 2/66 แต่เพิ่มขึ้น 9.61% จากไตรมาส 3/65

โดยมีสัดส่วนของรายได้จากการขายจากสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 75.4% สินค้าอุปโภค 24.6% ซึ่งสัดส่วนรายได้ในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/65 จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค รวมทั้งมีการออกสินค้าใหม่ควบคู่กับโปรโมชั่นของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งสามารถดึงดูดลูกค้าได้เพิ่มขึ้น

และยังมีรายได้อื่นอีกจำนวน 5,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% จากไตรมาส 3/65 โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้ส่วนเพิ่มอื่นที่ไม่ใช่การขายสินค้า รวมถึงรายได้จากการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของสาขา ในขณะที่มีการบันทึกเงินปันผลรับจากบริษัทย่อยจำนวน 1,144 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% จากไตรมาส 3/65

ค่าใช้จ่ายเพิ่ม 9.2% ขึ้นค่าไฟ-ขยายสาขา

  • ต้นทุนในการจัดจำหน่าย-ค่าใช้จ่ายบริหาร 28,475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% หรือราว 2,400 ล้านบาท เทียบจากไตรมาส 3/65

สาเหตุหลักมาจากค่าสาธารณูปโภค เงินเดือน และสวัสดิการพนักงาน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นของราคาไฟฟ้าต่อหน่วย และการขยายสาขา

ทั้งนี้ CPALL ยังคงพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม โดยยังคงขยายสาขาร้าน 7-Eleven ตามแผน และมีการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้าและบริการสำหรับลูกค้า

ไตรมาส 3 เปิดร้านใหม่ 176 สาขา

  • เปิดสาขาใหม่รวม 176 สาขา
  • สิ้นไตรมาส 3/66 มีจำนวนสาขาทั่วประเทศ 14,391 สาขา แยกเป็น ร้านสาขาของบริษัท 7,258 สาขา (ประมาณ 50%) ร้านเปิดใหม่ 125 สาขา ในไตรมาส 3/66
  • ร้าน SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 7,133 สาขา (ประมาณ 50%) ร้านเปิดใหม่ 51 สาขา ในไตรมาส 3/66 โดยร้านส่วนใหญ่ยังเป็น Stand Alone ซึ่งประมาณ 86% ของสาขาทั้งหมด และส่วนที่เหลือเป็นร้านในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.
  • มีสาขาในประเทศกัมพูชา 72 สาขา/สปป.ลาว 1 สาขา

ร้านเซเว่นฯ ไตรมาส 3 กำไรสุทธิเหลือ 3.4 พันล้าน

  • มีกำไรจากการดำเนินงาน 6,376 ล้านบาท ลดลง 29.75% จากไตรมาส 2/66 แต่เพิ่มขึ้น 11.97% จากไตรมาส 3/65
  • มีกำไรสุทธิ 3,480 ล้านบาท ลดลง 43.14% จากไตรมาส 2/66 แต่เพิ่มขึ้น 11.93% จากไตรมาส 3/65