เปิดกรุ 454 ไร่ มอนต์เอซัวร์ อาณาจักรมิกซ์ยูสริมทะเล หาดกมลา ภูเก็ต

MontAzure

เกาะภูเก็ต ไข่มุกล้ำค่าของคนไทยแห่งทะเลอันดามัน

สถานการณ์โควิดทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้าโหมดพักร้อนตามไปด้วย แต่ความเป็นเดสติเนชั่นระดับโลก เมืองท่องเที่ยวที่ต่างชาติทั่วโลกใฝ่ฝันจะต้องเดินทางเข้ามาเช็กอินสักครั้งในชีวิต ดังนั้น เมื่อโลกเริ่มเดินทางอีกครั้ง ภูเก็ตก็เลยฟื้นเร็วตามกระแสโลก

พันธมิตรไทย-ฮ่องกง-สิงคโปร์

ย้อนกลับไปเมื่อ 11 ปีที่แล้ว พันธมิตรธุรกิจสำคัญ 3 รายลงขันซื้อที่ดินผืนใหญ่มหึมา ขนาด 454 ไร่ ครอบคลุมทำเลริมหาดกมลาเลื้อยขึ้นไปถึงโซนอินแลนด์ มีการจัดทำผังแม่บทภายใต้แนวคิดพัฒนาให้เป็นอาณาจักรมิกซ์ยูสโปรเจ็กต์ระดับไฮเอนด์ของภูเก็ต

โดยพันธมิตรธุรกิจ 3 ราย ประกอบด้วย The Narai Group (จากประเทศไทย), ARCH Capital (จากฮ่องกง) และ Philean Capital (จากสิงคโปร์) ในเครือ Pontiac Land Group

มาสเตอร์แพลนแบ่งเป็น branded residence หรู, โรงแรม 5 ดาว, วิลล่าหรู, พื้นที่รีเทล, บีชคลับระดับเวิลด์คลาส และอีกมากมาย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าและนักลงทุนที่กำลังมองหาโครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ รวมถึงการลงทุนที่คุ้มค่า เบื้องต้นประเมินมูลค่าโครงการอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท

โมเดลการลงทุนมีโรดแมปไม่ทำคนเดียว แต่เปิดกว้างสำหรับ strategic partnership ทำให้มี 2 เวอร์ชั่นหลัก คือ 1.มอนท์เอซัวร์เป็นผู้ลงทุนพัฒนาโครงการเอง กับ 2.พันธมิตรธุรกิจซื้อที่ดินแล้วพัฒนาโครงการภายใต้มาสเตอร์แพลนที่มอนท์เอซัวร์เป็นผู้กำหนดไว้ตั้งแต่แรก

MontAzure

ล่าสุด “เศรษฐพล บุตรโท” กรรมการบริหาร มอนท์เอซัวร์ key person ผู้บริหารที่รู้ทุกข้อมูลตั้งแต่ก่อนจัดซื้อที่ดิน ตลอดจนการจัดวางแผนแม่บท กล่าวว่า หลังยุคโควิด ภูเก็ตมีการพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว นับเป็นการกลับมาของภาคอสังหาริมทรัพย์ขาขึ้นอย่างแท้จริง

“เรายังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของการสร้างประสบการณ์ และพัฒนาโครงการระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ริมชายหาด ที่ต้องบอกว่าเป็นทำเล rare item โดยเรายังเดินหน้าสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ ในอาณาจักรมอนท์เอซัวร์แห่งนี้ต่อไป”

สถิติปัจจุบัน แลนด์แบงก์ผืนใหญ่ 454 ไร่ พัฒนาโครงการแล้ว 70% เหลือแลนด์แบงก์รอการพัฒนาอีก 30% เท่านั้น

ผนึกเจ้าพ่อพูลวิลล่า-โบทานิก้า

หนึ่งในไฮไลต์ของมอนท์เอซัวร์ในนาทีนี้ อยู่ที่โรดแมป strategic partnership โดยประกาศดีลจับขั้วพันธมิตรธุรกิจรายล่าสุด กับกลุ่มโบทานิก้า ภูเก็ต ที่มีฉายาเป็นเจ้าพ่อพูลวิลล่าของภูเก็ต มีประสบการณ์และชื่อเสียงโด่งดังในกลุ่มลูกค้าต่างชาติไม่ต่ำกว่า 20 ปี

โดย “อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักเซอรี่ ภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า ดีลธุรกิจนี้ มีการพูดถึงการใช้แลนด์แบงก์ 90 ไร่ แต่จะเริ่มต้นจากการพัฒนาเฟสแรกก่อน จำนวน 30 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท

รายละเอียด เป็นโครงการพูลวิลล่า แบรนด์ “โบทานิก้า มอนท์เอซัวร์” จำนวนจำกัดเพียง 36 ยูนิต ราคา 49-170 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 550-1,000 ตารางเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้านตัวอย่าง หรือ Show Villa คาดว่าจะเปิดให้เยี่ยมชมได้ในปี 2567 และคาดว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเวลา 3 ปี

กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นลูกค้าต่างชาติ 95% คนไทย 5% โดยไม่มีข้อจำกัดด้านกฎหมาย เพราะขายในรูปแบบขายสิทธิการเช่าหรือลีสโฮลด์ (leasehold) อายุการเช่า 30+30+30 ปี เป็นเวลานานเพียงพอที่ทำให้ต่างชาติยอมรับว่ามีคุณค่าเทียบเท่ากับถือกรรมสิทธิ์ฟรีโฮลด์ (freehold)

ตอบโจทย์ดีมานด์พูลวิลล่าหรูบนดินแดนภูเก็ต ทั้งจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่กำลังแสวงหาบ้านหลังที่สอง บ้านพักตากอากาศ หรือโอกาสในการลงทุนที่คุ้มค่าในภูเก็ต

“เรารู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับมอนท์เอซัวร์ เหตุผลที่ผมอยากได้แลนด์แบงก์ผืนนี้เพราะมีศักยภาพสูงครบถ้วนในการนำเสนอโปรดักต์พูลวิลล่า สามารถเทกวิวริมฝั่งทะเลอันดามันของที่ตั้งโครงการ ซึ่งอยู่ห่างจากชายหาดกมลาเพียง 400 เมตร ผสมผสานกับวิวเชิงเขาอันงดงาม ทำให้โบทานิก้า มอนท์เอซัวร์ มีความโดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด เราตั้งใจที่จะพัฒนาโครงการนี้ให้เป็นโครงการระดับแฟลกชิปของโบทานิก้า ที่ทุกคนต้องกล่าวขวัญถึงอย่างแน่นอน”

ทวินปาล์ม-MGallery ขายพุ่ง

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนที่มอนท์เอซัวร์เป็นผู้พัฒนาโครงการเอง มี 2 อสังหาฯหรู ได้แก่ 1.โครงการทวินปาล์ม (Twinpalms Residences MontAzure) ห้องชุดบีชฟรอนต์ที่มีเพียง 73 ห้อง ปัจจุบันเหลือเพียงเพนต์เฮาส์ 1 ห้องสุดท้าย ราคาขยับขึ้นมาอยู่ที่ตารางเมตรละ 2 แสนบาท หรือห้องละ 70 ล้านบาท

กับ 2.โครงการห้องชุดระดับลักเซอรี่แบรนด์ “เอ็มแกลเลอรี่ (MGallery Residences MontAzure)” จำนวน 200 กว่ายูนิต มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท โดยมีคีย์แฟกเตอร์ในการลงทุนคือมีผู้บริหาร branded residence จากกลุ่มแอคคอร์ โดยยินยอมให้แบรนด์ MGallery ปักหมุดในประเทศไทยแห่งแรกในมอนท์เอซัวร์

ปัจจุบันมียอดขายเข้ามาแล้ว 50% คาดว่าจะสามารถปิดการขายที่เหลือได้ในเวลาไม่นานนัก เพราะภูเก็ตตอนนี้เป็นทั้งสวรรค์ของการท่องเที่ยวและการลงทุนอสังหาฯรอบใหม่ เฉลี่ยราคา 1.8-2 แสนบาท/ตารางเมตร

“11 ปีของมอนท์เอซัวร์ เราเปิดให้บริการแล้วทั้งโรงแรมทวินปาล์ม มอนท์เอซัวร์, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต, รีสอร์ท คาเฟ่ เดล มาร์ บีชคลับ, ชิมเมอร์ บีช เลานจ์ และร้านอาหาร 333 at the Beach ในอนาคตยังมีแผนการพัฒนาอีกหลายโครงการระดับเวิลด์คลาส” กรรมการบริหารมอนท์เอซัวร์กล่าวสรุป