เข้าสู่ปี 2563 อย่างเป็นทางการยังคงเป็นที่จับตาวาระงานของ “กระทรวงคมนาคม” มีโปรเจ็กต์ก่อสร้างเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการลงทุนของประเทศ จะสร้างผลสำเร็จได้มากสักแค่ไหน เพราะช่วงที่ผ่านมาขยับเขยื้อนได้น้อยมาก
นอกจาก 44 เมกะโปรเจ็กต์ เม็ดเงินลงทุน 1,947,310 ล้านบาท ที่ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการทั้ง “ถาวร เสนเนียม” และ “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” ต้องออกแรงเข็นกันไปแล้ว
- ขาลงยางพารา ราคาร่วงฉุดไม่อยู่ 10 วันราคาตกลงไปแล้ว 7 บาทกว่า
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
ม.ค.คิกออฟประมูลงบฯ 63
ยังมีโครงการอยู่ในงบประมาณปี 2563 ที่ได้รับจัดสรร 208,396 ล้านบาท รอกดปุ่มประมูลอีกนับ 1,000 โครงการ เนื่องจากงบประมาณบังคับใช้ล่าช้า 4 เดือนต้องขยับการประมูลจากเดิมต้องเริ่มบรรเลงในเดือน ต.ค. มาเป็นเดือน ม.ค. 2563 แทน เพื่อให้การเบิกจ่ายทันสิ้นปีงบประมาณ
ด้าน “ศักดิ์สยาม” จัดติวเข้มผู้บริหารเร่งผลักดันแผนงาน-แผนเงินออกสู่ระบบ โดยงบฯลงทุนในปี 2563 ทั้งของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจอยู่ที่ 346,524.96 ล้านบาท แบ่งเป็น ทางบก 163,371.63 ล้านบาท หรือ 47.15%, ทางราง 126,419.32 ล้านบาท หรือ 36.48%, ทางอากาศ 48,637.53 ล้านบาท หรือ 14.04%, ทางน้ำ 7,791.96 ล้านบาท หรือ 2.25% และด้านนโยบาย 304.52 ล้านบาท หรือ 0.09%
“ให้แต่ละหน่วยเตรียมแผนจัดซื้อจัดจ้างให้เรียบร้อย คาดว่า พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 จะประกาศใช้ในเดือน ก.พ. ซึ่งจะเหลือเวลาแค่ 8 เดือนใช้จ่ายงบประมาณ หากเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ควรใช้โมเดลแบ่งสร้างเป็นหลายสัญญาให้งานเดินหน้าได้เร็วขึ้น หากโครงการใหญ่ที่พร้อมเสนอคณะรัฐมนตรีให้เร่งเสนอมายังกระทรวง แต่ต้องทำทุกอย่างให้รอบคอบ ผลศึกษา EIA แหล่งเงินทุนจะใช้งบประมาณ PPP กองทุนหรือเงินกู้”
ปิดดีลเซ็นงานระบบมอเตอร์เวย์
ไฮไลต์โครงการเด่นในปี 2563 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จะเซ็นสัญญาโครงการติดตั้งและบริหารระบบเก็บเงิน (O&M) มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี มูลค่ารวม 39,138 ล้านบาท ที่มีกลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์, บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ราชกรุ๊ป เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด คาดว่าจะเซ็นสัญญามอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา ก่อนจะเสนอ ครม.อนุมัติเดือน มี.ค. 2563 และช่วงกลางปีจะเซ็นมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี
ต่อมาเป็นมอเตอร์เวย์ช่วงบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว วงเงิน 32,210 ล้านบาท เซ็นสัญญาแล้วกำลังเตรียมก่อสร้างช่วง 10 กม.แรก จากบางขุนเทียน-เอกชัย 1 ระยะทาง 10.8 กม. ส่วนการเปิด PPP ระบบเก็บเงินและสร้างต่ออีก 15 กม.ถึงบ้านแพ้ว รอสรุปผลการศึกษา จะเสนอให้กระทรวงพิจารณาต้นปี 2563
ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิต-บางปะอิน 18 กม. วงเงิน 29,400 ล้านบาท และมอเตอร์เวย์ศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ 18 กม. วงเงิน 37,500 ล้านบาท จะสรุปผล PPP ในช่วงต้นปี และรอรายงานวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม (EIA) ส่วนสายนครปฐม-ชะอำ 109 กม. วงเงิน 79,006 ล้านบาท รอทบทวน EIA ใหม่ ชาวบ้านยังคัดค้าน ด้านสายหาดใหญ่-ชายแดนไทย/มาเลเซีย 71 กม. วงเงิน 40,620 ล้านบาท รออนุมัติ EIA และความไม่แน่ไม่นอนของกระแสรายได้การเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างด่านศุลกากรสะเดา แห่งที่ 2 และด่านศุลกากรฝั่งประเทศมาเลเซีย
“ม.ค.กรมจะประมูลงานโครงการใหญ่และย่อยเป็นโครงการใหม่ในปี 2563 ซึ่งกรมได้งบฯ 113,883 ล้านบาท ให้จบ เมื่องบประมาณมีผลบังคับใช้จะได้เบิกจ่ายในทันที ส่วนโครงการใหญ่ก็จะพยายามผลักดันเคลียร์ปัญหาโดยเร็ว”
ประมูลถนนชนบท 3 พันสัญญา
ด้าน “ปฐม เฉลยวาเรศ” อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า งบประมาณปี 2563 ของกรมได้รับจัดสรร 47,472 ล้านบาท เป็นงบฯลงทุน 97% และดำเนินการ 3% ในครึ่งหนึ่งของงบฯลงทุน เป็นงบฯซ่อมบำรุงทาง ยังไม่มีโครงการใหญ่เกิน 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีโครงการมีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท จำนวน 2 โครงการ จะลงทุนในปี 2563 ได้แก่ 1.ก่อสร้าง ถ.สาย ง1 ผังเมืองรวมเมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ 434 ล้านบาท และ 2.ก่อสร้าง ถ.สาย จ4 และ จ5 ผังเมืองรวมเมืองมหาสารคาม 167 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างรวมเบ็ดเสร็จแล้วอยู่ที่ประมาณ 3,000 โครงการ
“โครงการใหญ่ได้งบฯศึกษาแล้ว จะของบฯปี 2564 เช่น สะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อยกับแผ่นดินใหญ่ จ.กระบี่ ออกแบบไทยแลนด์ริเวียร่า ถนนต่อเชื่อมสะพานนนทบุรี 1 ถึงวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก และส่วนต่อขยายถนนกัลปพฤกษ์-ถนนพุทธสาคร”
ปิดจ๊อบด่วนพระราม 3
ในส่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มี 2 โครงการเร่งด่วนใช้เงินลงทุนจากกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์(TFFIF) คือ 1.ทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก ระยะทาง 18.7 กม. วงเงินรวม 31,244 ล้านบาท หลังจากลงนามในส่วนสัญญาที่ 4 ระยะทาง 2 กม. วงเงิน 6,636 ล้านบาท กับ บมจ.ช.การช่าง ไปแล้ว อีก 3 สัญญา จะเซ็นให้ได้ในเดือน ก.พ. 2563
ส่วนสัญญา 5 งานระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง ระบบควบคุมจราจรและระบบสื่อสาร วงเงิน 877.4 ล้านบาท ที่ยกเลิกประมูลไป ล่าสุดอยู่ระหว่างหารือกับกรมทางหลวงพิจารณาปรับปรุงระบบไร้ไม้กั้นซึ่งเป็นนโยบายของนายศักดิ์สยาม 2.ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 แยกเกษตรฯเชื่อมต่อ ถ.วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯด้านตะวันออก ระยะทาง 18.5 กม. วงเงิน 15,200 ล้านบาท อยู่ระหว่างขอปรับปรุงรายงาน EIA คาดว่าจะเสนอ ครม.ขออนุมัติโครงการในเดือน มิ.ย. และเปิดประมูลในเดือน ต.ค. 2563
ได้ฤกษ์ประมูลสายสีแดง
ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หลังรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 เส้นทางผ่าน ครม.เมื่อต้นปี 2562 ได้แก่ ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ 6,570.40 ล้านบาท ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา 10,202.18 ล้านบาท และช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช 6,645.03 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมประมูลพร้อมกันทั้ง 3 เส้นทาง คาดว่าจะได้ผู้รับเหมาก่อสร้างในเดือน มิ.ย.-ก.ค. 2563
ส่วนสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก (Missing Link) และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง รวมระยะทาง 25.9 กม. วงเงิน 44,157.76 ล้านบาท หลังจากได้ขยายเวลาก่อสร้างจาก 36 เดือน เป็น 54 เดือน เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างทบทวนแนวเส้นทางที่ทับซ้อนกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ทางคู่ติดเวนคืน-สภาพัฒน์
โครงการที่เงียบหายไปตลอดปีที่ผ่านมา อย่าง “รถไฟทางคู่ เฟส 2” อีก 7 เส้นทาง และรถไฟสายใหม่ 2 สาย ยังไม่รู้ว่าในปี 2563 จะได้ฤกษ์ประมูลหรือไม่ ได้แก่ สายบ้านไผ่-นครพนม 355 กม. 66,848.33 ล้านบาท และเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 323 กม. 85,345 ล้านบาท หลัง ครม.อนุมัติตั้งแต่ปี 2561 กำลังจ้างที่ปรึกษาสำรวจเวนคืนที่ดิน จะแล้วเสร็จและเปิดประมูลทั้ง 2 โครงการ ในปี 2564
ส่วนอีก 7 เส้นทาง วงเงินรวม 263,453.57 ล้านบาท รายงาน EIA ผ่านแล้วในบางเส้นทาง อยู่ระหว่างทำข้อมูลเพิ่มเติมตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเสนอ ครม.ในเดือน มิ.ย. และประมูลได้ทุกโครงการในเดือน ก.ค. 2563
ประกอบด้วย 1.ปากน้ำโพ-เด่นชัย 281 กม. 59,399.8 ล้านบาท 2.เด่นชัย-เชียงใหม่ 189 กม. 54,470.02 ล้านบาท 3.ขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. 25,842 ล้านบาท 4.จิระ-อุบลราชธานี 308 กม. 36,683 ล้านบาท 5.ชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. 23,080 ล้านบาท 6.สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา 321 กม. 56,114.26 ล้านบาท และ 7.หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. 7,864.49 ล้านบาท
ลุ้น ครม.อนุมัติสีส้ม ม.ค.นี้
ฟากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เตรียมผลักดัน 2 รถไฟฟ้าเปิดประมูลในปี 2563 ได้แก่ สายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ 35.9 กม. 122,041 ล้านบาท รูปแบบลงทุน PPP net cross 30 ปี คาดว่า ครม.จะอนุมัติเดือน ม.ค. จากนั้นเปิดประมูลเดือน มิ.ย. และเซ็นสัญญาเดือน มี.ค. 2564 และสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ 23.6 กม. 101,112 ล้านบาท
ขยายสนามบินใต้-อีสาน
โครงการทางอากาศก็คึกคัก “ทวี เกศิสำอาง” อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า จะเร่งดำเนินการให้สนามบินเบตง จ.ยะลา เปิดบริการในเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนโครงการลงทุนใหม่มี 4 โครงการ วงเงิน 3,425 ล้านบาท เริ่มประมูลในเดือน ม.ค.-มี.ค.นี้ มีโครงการขยายลานจอดเครื่องบิน สนามบินสุราษฎร์ธานี เพิ่มจาก 5 ลำ เป็น 11 ลำ วงเงิน 500 ล้านบาท, ขยายทางขับขนาน สนามบินกระบี่ เพิ่มศักยภาพการรองรับเครื่องบิน จาก 10 ลำ/ชม. เป็น 25 ลำ/ชม. วงเงิน 1,350 ล้านบาท, ปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร สนามบินนราธิวาส เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 864,000 คน/ปี เป็น 1.7 ล้านคน/ปี วงเงิน 800 ล้านบาท และปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร สนามบินบุรีรัมย์ เพื่อเพิ่มความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 850,000 คน/ปี เป็น 1.7 ล้านคน/ปี วงเงิน 775 ล้านบาท
ฝั่ง บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ในวันที่ 3 มี.ค.นี้ จะเปิดประมูลรันเวย์ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ 21,795.941 ล้านบาท แต่จะเซ็นสัญญาได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (EHIA) คาดว่าจะได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ในเดือน มิ.ย. 2563
ปิดท้ายที่ บมจ.การบินไทย กับการจัดหาฝูงบินใหม่ 38 ลำ มูลค่า 156,169 ล้านบาท หลังคณะกรรมการ (บอร์ด) ตีกลับให้ทบทวนและนำเสนออีกครั้งภายใน 6 เดือน ซึ่งเดดไลน์ในวันที่ 28 มี.ค.นี้
ขณะที่เจ้ากระทรวง “ศักดิ์สยาม” เปรยอยากจะใช้แนวทางการเช่าเหมือนกับรถเมล์ใหม่ ขสมก. จำนวน 2,500 กว่าคัน จะเปิด PPP ให้เอกชนหารถมาวิ่งในเส้นทาง มาเป็นโมเดลพลิกฟื้นภาระหนี้ ดีกว่าทุ่มเม็ดเงินไปซื้อใหม่ และต้องแบกภาระการซ่อมบำรุง
ส่วนการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง (MRO) เครื่องบินอู่ตะเภา วงเงิน 4,400 ล้านบาท ทางคณะกรรมการคัดเลือกเห็นชอบเอกสารข้อเสนอ (RFP) คาดว่าแอร์บัสในฐานะคู่สัญญาจะมายื่นข้อเสนอในเดือน มี.ค.นี้ จากนั้นเสนอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) และ ครม.เห็นชอบผลการเจรจาและร่างสัญญา และเซ็นสัญญาในเดือน ส.ค. 2563 นี้
เป็นสารพัดโปรเจ็กต์ของ “คมนาคม” ที่พร้อมกดปุ่มเดินหน้าในปีหนู ถ้าไม่โดน “สารหนู-โอ๋ แซ่รื้อ” แตะเบรกไปเสียก่อน
คลิกอ่านเพิ่มเติม… 3 รัฐมนตรียูไนเต็ด รวมใจเป็นหนึ่งยึดฐานที่มั่น 2 ล้านล้าน