3 รัฐมนตรียูไนเต็ด รวมใจเป็นหนึ่งยึดฐานที่มั่น 2 ล้านล้าน

หลัง 3 รัฐมนตรีคมนาคม มาจาก 3 พรรคการเมืองใหญ่แบ่งงานกันเสร็จสรรพตั้งแต่ก้าวแรกเข้ามารับตำแหน่งเมื่อกลางปี 2562

โดย “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” พรรคภูมิใจไทยคุมเบ็ดเสร็จทั้งกระทรวง กวาดเรียบหน่วยงานเกรดพรีเมี่ยมคุมโปรเจ็กต์ใหญ่ทุกโหมด คิดเป็นมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้าน

ไม่ว่ากรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมการขนส่งทางราง สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.)

ขณะที่ “ถาวร เสนเนียม” พรรคประชาธิปัตย์ ดูงานทางอากาศเป็นหลัก ขาดแต่ “ทอท.” แต่ก็ได้ “การบินไทย” มาชดเชย และ “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” พรรคพลังประชารัฐ ได้กำกับกรมเจ้าท่า (จท.) กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์พิเศษทั้ง 3 รัฐมนตรีกับผลงานกว่า 4 เดือนที่ผ่านมา และสิ่งที่อยากจะเห็นในปี 2563

“2563 จะทำให้ดีที่สุดกว่าปีที่ผ่านมา” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ

“ศักดิ์สยาม” ฉายภาพว่า ช่วง 4 เดือนที่เข้ามา ในช่วง 2 เดือนแรกเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารที่หมดวาระ อีก 2 เดือนต่อมาถึงจะได้เริ่มดูโครงการลงทุนอยู่ในแผน 8 ปีของคมนาคมที่ทำต่อเนื่องไปถึงปี 2565 มูลค่ากว่า 1.9 ล้านล้านบาท พร้อมเดินหน้าทุกโครงการ แต่ต้องเป็นไปตามความพร้อมของโครงการและแหล่งเงินที่จะนำมาลงทุนด้วย เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระด้านหนี้สาธารณะให้กับประเทศ

“ผมเต็มที่อยู่แล้วกับการผลักดันลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ที่ล่าช้า เพราะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณยังไม่ออก ที่ผ่านมาก็สางโครงการเก่าให้สำเร็จ เช่น ค่าเวนคืนมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี เซ็นสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เร่งงานก่อสร้างถนนพระราม 2 ถนนกัลปพฤกษ์ เพื่อแก้ปัญหารถติด ซึ่งในปี 2563 ผมจะทำให้ดีที่สุดกว่าปีที่ผ่านมา และผลักดันให้ทุกโครงการเสร็จตามแผนในปี 2565”

“2563 การบินไทยต้องไม่ขาดทุน”  ถาวร เสนเนียม

ด้าน “ถาวร” กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในส่วนของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ยังไม่ทันใจเท่าไหร่ในช่วงที่ผ่านมา ในปี 2563 จะต้องเร่งรัด อย่างแรกจะเร่งพัฒนาสนามบินภูมิภาคเชื่อมไทยเชื่อมโลกสู่เมืองรอง แม้จะก้าวหน้า แต่ยังไม่ถูกใจ มีบางสนามบินยังล่าช้า เช่น นครศรีธรรมราช ตรัง กระบี่

ผลักดันโครงการศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินและอวกาศอู่ตะเภาของสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) วงเงินลงทุน 2,715 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาพัฒน์ ก็ยังไม่ทันกับความต้องการต่ออุตสาหกรรมการบินในการผลิตคนป้อนเข้าระบบ เตรียมจะขอจัดสรรงบประมาณในปี 2564 ดำเนินการ

การแก้ปัญหาขาดทุนของการบินไทยที่ผ่านมาแม้ว่าทุกฝ่ายจะพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังคงขาดทุนต่อเนื่อง ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ขาดทุนกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งไตรมาส 4 ให้การบ้าน

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) ต้องเร่งแก้ปัญหาในการเพิ่มรายได้ด้านคาร์โก้ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ต้องดูอย่างใกล้ชิด ได้หารือร่วมกับประธานบอร์ดบินไทยคนใหม่ ตั้งเป้าปี 2563 จะต้องไม่ขาดทุน

“3 หน่วยงานที่กล่าวมานี้ จะต้องให้กำลังใจ ร่วมมือ ร่วมใจกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการบินไทยจะต้องหยุดเลือดไหลให้ได้ ส่วนหน่วยงานอื่น ๆ ดูแล้วผลการดำเนินการก็โอเค ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมสุวรรณภูมิ ไทย-อมาดิอุส วิทยุการบิน”

“2563 อีอีซีต้องมี งานใหม่ต้องมา”  อธิรัฐ รัตนเศรษฐ

รัฐมนตรีที่อายุน้อยสุดใน ครม. “อธิรัฐ” ย้ำว่า ปี 2563 จะเร่งสะสางงานที่ค้างทั้งหมด ให้กรมเจ้าท่าเร่งปรับปรุงท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาเขตกรุงเทพฯและนนทบุรี จะนำร่อง 3 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือราชินี ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือท่าเตียน ซึ่งทั้ง 3 ท่าเรือเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเดินทางอย่างหนาแน่น

รวมถึงปรับปรุงท่าเรือสาทรให้เสร็จ เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางแบบล้อ-ราง-เรือ ตามที่กระทรวงได้ตั้งเป้าไว้ ขณะเดียวกันปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเรือคลองแสนแสบ ได้ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยครบทุกท่า เช่น รั้ว, กล้องวงจรปิด, จอแสดงผลบอกพิกัดเรือโดยสาร เป็นต้น ยังมีแผนจะนำเรือโดยสารแบบไฟฟ้ามาทดลองใช้ทดแทนเรือโดยสารแบบเดิมที่ใช้น้ำมันดีเซล ลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

ส่วนการท่าเรือฯ จะผลักดันโครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบายอีอีซีหรือเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก มีท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มูลค่า 114,046 ล้านบาท จะเซ็นสัญญาร่วมลงทุนให้ได้ นอกจากนี้จะพัฒนาท่าเรือระนองให้เป็นจุดขนส่งสินค้ากับต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ BIMSTEC 7 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ ศรีลังกา อินเดีย ภูฏาน เนปาล เมียนมา และไทย และพัฒนาที่อยู่อาศัยย่านคลองเตย บริเวณท่าเรือกรุงเทพ หรือ smart community 6,144 ยูนิต ภายในปี 2563 จะออกประกาศเชิญชวนเอกชนออกแบบโครงการได้

“ปี 2563 จะเร่งสร้างงานเก่าให้เสร็จ และเร่งแจ้งเกิดโครงการในอีอีซี เมื่อสำเร็จจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของประเทศ”

คลิกอ่านเพิ่มเติม… “คมนาคม 2563” มือเติบกำงบฯ 2 แสนล้าน เทกระจาดลงทุน กู้เศรษฐกิจปีชวด