ศาลอาญาทุจริตยังไม่รับคำฟ้อง BTS ร้องประมูลสายสีส้ม สั่งส่งหลักฐานเพิ่ม

รถไฟฟ้าสายสีส้ม

ศาลอาญาทุจริตยังไม่รับฟ้อง ปม BTSC ฟ้องอาญา ผู้ว่า รฟม.-บอร์ด ม.36 สั่งรฟม.ส่งหลักฐานเพิ่ม 4 ฉบับ “RFP-ประกาศเปลี่ยนแปลง RFP-ประกาศยกเลิกประมูล-รายงานประชุมบอร์ด ม.36/หนังสือค้านเปลี่ยนเกณฑ์สำนักงบ” ภายใน 30 วัน ก่อนนัดฟังคำสั่งรับ-ไม่รับฟ้อง 5 พ.ค. 64

วันที่ 15 มีนาคม 2564 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ที่ปรึกษา ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ( BTS) กล่าวว่า ศาลอาญาทุจริตนัดพิจารณาคำฟ้องที่ อท 30/2564 ในคดีที่บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ยื่นฟ้อง นายภคพงศ์ ศิริกันมาศ ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

และพวกรวม 7 คน ซึ่งเป็นคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 อีก 6 คนกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1 (16) กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 165 ในการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงิน 128,128 ล้านบาท

คดีอยู่ในฐานอำนาจศาลทุจริต

โดยศาลพิจารณาแล้ว คดีนี้อยู่ในฐานอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางจะพิจารณาได้ และมีคำสั่งว่า คำฟ้องที่ระบุรายละเอียดต่างไปทั้งตัวบุคคล เอกสาร วัตถุพยานต่าง ๆ รวมถึงพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหา เพียงพอที่จำเลยจะเข้าใจและดำเนินการพิจารณาต่อได้

สั่งรฟม. ส่งหลักฐานเพิ่ม 4 อย่าง

และเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญ และเป็นคดีใหญ่ เพราะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมีทุนทรัพย์มูลค่าสูง ทางศาลจึงขอให้ รฟม. ส่งเอกสารและหลักฐานเพิ่มเติมใน 30 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง ประกอบด้วย

  1. เอกสารการดำเนินการคัดเลือกเอกชน (RFP) ที่ยกเลิกไปแล้ว
  2. ประกาศแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารคัดเลือกเอกชน
  3. คำสั่ง/ประกาศยกเลิกการเชิญชวนเอกชน
  4. รายงานการประชุมที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงรายงานการประชุมที่เกี่ยวกับการยกเลิกต่างๆ และหนังสือยืนยันความเห็นคัดค้านของนางสาวกนกรัตน์ ขุนทอง ผู้แทนสำนักงบประมาณ ที่มีการประชุมไป

นัดฟังคำสั่ง 5 พ.ค. 64

โดยทั้งเอกสารทั้ง 4 จะต้องส่งมาภายใน 30 วัน และศาลได้นัดคู่ความทั้ง 2 มารับฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 5 พ.ค. 2564 เวลา 09.00 น.

ทั้งนี้ ศาลยังไม่สั่งให้ BTSC ส่งหลักฐานใด ๆ เพิ่ม แต่กำลังหารือกับทีมทนายว่า มีเอกสารใดที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ซึ่งอาจทำคำร้องต่อศาลให้พิจารณาเพิ่มเติมได้ เชื่อว่า หากศาลได้ดูเอกสารทั้งหมด ท่านจะเข้าใจและรู้กระบวนการและการกระทำของผู้เกี่ยวข้อง

“จากรายงานกระบวนการพิจารณา ทีมทนายมั่นใจว่า ศาลให้ความสำคัญและท่านได้ระบุไว้ว่า การฟ้องอะไรที่เราทำครบถ้วน ถูกต้องหมดแล้ว”

ชี้เปิดประมูลต้องถูกกฎหมาย-สุจริต

ส่วนการที่ รฟม.เปิดประมูลรอบใหม่ คงต้องถามทางผู้บริหารของ BTSC จะเข้าร่วมหรือไม่ ส่วน รฟม.จะดำเนินการประมูลได้หรือไม่ รฟม. คงต้องนำเรื่องทั้งหมดไปพิจารณา เพราะการดำเนินการใดของเจ้าหน้าที่รัฐต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย และอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องและสุจริต

หากมีการดำเนินการอะไรแล้วเกิดความเสียหายทั้งที่รู้หรือรับทราบอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทางอาญา ทางแพ่งหรือทางปกครอง ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องคงต้องไปพิจารณาเอาเอง ซึ่งศาลอาญาจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางปกครอง

ลุยอุทธรณ์ศาลปกครอง

เมื่อถามว่า จะยื่นอุทธรณ์กรณีที่ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี หลังจาก รฟม.ล้มประมูลและถอนอุทธรณ์คดีการเปลี่ยนเกณฑ์ใหม่หรือไม่นั้น พ.ต.อ.สุชาติ ตอบว่า คงจะมีความคืบหน้าใน 1-2 วันนี้ จะแจ้งให้ทราบภายหลัง เนื่องจากตามกฎหมายสามารถยื่นได้ใน 30 วัน