คุยกับ คีอานู รีฟส์ และอ่านเกร็ดน่ารู้ ก่อนดู John Wick: Chapter 4

John Wick: Chapter 4

“John Wick: Chapter 4 – จอห์น วิค แรงกว่านรก 4” ภาพยนตร์แฟรนไชส์แอ็กชั่นฟอร์มยักษ์ที่มีแฟน ๆ รอคอยอยู่ทั่วโลก เปิดฉายรอบปฐมทัศน์ไปแล้วในหลายประเทศ พร้อมกวาดคำชมจากนักวิจารณ์ และได้คะแนนจาก Rotten Tomatoes สูงถึง 91% กับกระแสรีวิวว่าเป็น “ภาคต่อที่ดีที่สุดในแฟรนไชส์” 

สำหรับประเทศไทย ฉายรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 21 มีนาคม และเข้าโรงให้แฟนหนังได้ชมกันทั่วไปในวันที่ 22 มีนาคมที่จะถึงนี้ 

John Wick: Chapter 4 นำเสนอเรื่องราวความเดือดครั้งใหม่ในกฎใหม่ เมื่อจอห์น วิค ต้องเผชิญกับภัยร้ายที่คุกคามเขาที่สุด จอห์น วิค ถูกสภาสูงตั้งค่าหัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของเหล่านักฆ่าจากทั่วโลก เขาต้องหวนกลับเข้าวงการนักฆ่าอีกครั้งเพื่อโค่นสภาสูง และทวงคืนอิสรภาพของตัวเอง การเผชิญหน้ากับศัตรูรายใหม่ที่มาพร้อมกับมือสังหารเป็นกองทัพจากทั่วโลกจึงเริ่มขึ้น 

ก่อนจะได้ชมความเดือดของ John Wick: Chapter 4 ขอชวนอ่าน 10 เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับ John Wick แล้วต่อด้วยบทสนทนากับ คีอานู รีฟส์ ซูเปอร์สตาร์เจ้าของบท จอห์น วิค ผู้ทุ่มเทร่างกายให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา  

1.จอห์น วิค สังหารมาแล้วทั้งหมดกว่า 299 ศพ 

เดือดสมนักฆ่าฉายา “บาบายาก้า” เพราะชายที่ชื่อจอห์น วิค ไม่ว่าจะศัตรูหน้าไหน อาวุธชนิดไหน ก็ฆ่าไม่ยั้ง ในสามภาคที่ผ่านเขาฆ่าไปแล้วกว่า 299 ศพ และในภาคที่ 4 นี้ใครจะรู้ว่าเขาจะสังหารไปอีกกี่ศพ เพื่อลุ้นเอาชนะเดิมพันสภาสูงแลกอิสรภาพ

John Wick: Chapter 4 - จอห์น วิค แรงกว่านรก 4

2.John Wick: Chapter 4 จะอัดแน่นด้วยฉากแอ็กชันที่เยอะที่สุด

คอนเฟิร์มแล้ว ! จอห์น วิค ภาคนี้ จะอัดแน่นไปด้วยฉากแอ็กชันที่เยอะที่สุด ยิงไม่ยั้ง ฟาดไม่มีหยุด ให้สมกับการกลับมาของแฟรนไชส์โลกนักฆ่าที่เดือดระอุสุด 

3.คีอานู รีฟส์ จัดเต็มกว่าครั้งไหน ตั้งเป้าฝึกอาวุธและคิวบู๊กว่า 12 สัปดาห์

จัดเต็ม ทุ่มสุดตัว สำหรับคีอานูฟ รีฟส์ ที่ต้องฝึกซ้อมทักษะการต่อสู้ต่าง ๆ เป็นเวลา 12 สัปดาห์เต็มก่อนจะเปิดกล้องถ่ายทำ ซึ่งส่วนใหญ่เขาใช้เวลาไปกับการฝึกกระบองสองท่อน ที่จะเป็นอาวุธสังหารที่โคตรเด็ดในภาคนี้

4.ผสมผสานหลายศิลปะการต่อสู้ยกระดับทุกซีนมันส์ซะใจ

นอกจากอาวุธที่ขนมากันอย่างครบครัน ในภาคนี้ยังเต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้จากหลากหลายมุมโลก ทั้งการต่อสู้แบบวิถีบูชิโด คาวบอย และยิวยิตสู ผนวกรวมไว้ด้วยกัน นับว่าเป็นการรังสรรค์ความมันส์ให้กับแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง

5.บุกโลเคชั่นระดับอินเตอร์ ยกทีมถ่ายทำถึง 3 ทวีป 5 ประเทศ 

ภาคนี้ตะลุยโลกนักฆ่าถึง 3 ทวีป 5 เมืองใหญ่ ปารีส, นิวยอร์ก, เบอร์ลิน, โอซาก้า และจอร์แดน โดยเฉพาะการถ่ายทำในปารีส ทีมงานยกกองไปถ่ายทำในสถานที่จริงของแลนมาร์กดัง ทั้งมหาวิหารซาเคร-เกอร์, ประตูชัย และหอไอเฟล ถือเป็นการบุกสถานที่จริงเพื่อความสมจริงเหมือนที่ทีมงานตั้งใจไว้

6.ทีมงานการันตี คีอานู รีฟส์ ขับรถซิ่งได้เทพที่สุดในฮอลลีวูด

สำหรับฉากไฮไลต์ของภาคนี้กับการฉากขับรถไล่ล่าที่ประตูชัยกลางมหนาครปารีส คีอานู รีฟส์ ต้องฝึกดริฟต์รถ 180 องศา และ 270 องศาด้วยตัวเอง จากเดินหน้าเป็นถอยหลังในเสี้ยววินาที เหนือกว่านั้นเขายังต้องยิงปืนในขณะขับรถ จนทีมงานยกให้เขาเป็นดาราที่ซิ่งรถได้เทพที่สุดในวงการ

7.จอห์น วิค กลับมาพร้อมรถคู่ใจ พร้อมซิ่งเดือดทะลายทุกศัตรูที่ขวางหน้า

รถพลีมัธ บาร์ราคูด้า ของไครสเลอร์ ปี 1971 กลายเป็นรถอเมริกันมัสเซิลคู่กายของจอห์น วิค ในภาคนี้ ที่ใช้ในฉากเด็ดที่ประตูชัยกลางปารีส ซึ่งทีมงานได้แต่งเครื่องโมดิฟายใหม่ โดยถอดประตูและกระจกข้างออกทั้งหมด

8.เจ้าสุนัขเล่นฉากแอ็กชั่นเยอะสุดกว่าทุกภาค ใช้สุนัขถึง 5 ตัว

แฟรนไชน์จอห์น วิค จะขาดสุนัขไปไม่ได้ สำหรับภาคนี้ยกระดับสู่ The Next Level โดยแท้จริง ซึ่งแม้สุนัขในภาคนี้จะเป็นพันธุ์เบลเยี่ยม มาลินอยส์ คล้ายกับภาคก่อน แต่ภาคนี้เจ้าสุนัขจะเล่นฉากแอ็กชันเยอะที่สุด และทีมงานยังใช้สุนัขถึง 5 ตัวในการถ่ายทำตลอดทั้งเรื่อง

9.“เคน” นักฆ่าตาบอด ตัวละครผู้ได้รับแรงบันดาลใจจากหลากหลายคัลเจอร์

สหายรักศัตรูแค้นของจอห์น วิคในภาคนี้อย่าง “เคน” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากฮีโร่แอ็กชั่นฝั่งเอเชียอย่างซามูไรตาบอด “ซาโตอิจิ” ผสมผสานกับตัวละครของโจวเหวินฟะใน “โหดตัดโหด” และฟุตเทจของ บรูซ ลี ที่ใส่สูทเทสต์หน้ากล้อง เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่ทั้งเท่และเดือดภายในเวลาเดียวกัน ซึ่งทีมงานก็ต่างบอกเป็นเสียงกันว่าดอนนี่ เยน ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ 

John Wick: Chapter 4 จอห์น วิค แรงกว่านรก 4
ดอนนี่ เยน รับบทเคน

10.การโคจรมาพบกับครั้งแรกของสองนักแสดงจอมเดือด คีอานู รีฟส์ ปะทะ ดอนนี่ เยน

นับว่าสะเทือนโลกภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ เพราะนี่จะเป็นการเจอกันครั้งแรกของสองซูเปอร์สตาร์แอ็กชั่นระดับโลกที่ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ต้องจารึกไว้ คีอานู รีฟส์ นักแสดงฝีมือพระกาฬจากฮอลลีวูด และดอนนี เยน ปรมาจารย์สายบู๊ตัวท็อปแห่งเอเชีย

………………………

ได้ทราบเกร็ดต่าง ๆ ของ John Wick แล้ว มาเข้าสู่บทสนทนากับ คีอานู รีฟส์ พระเอกเจ้าของบท จอห์น วิค ที่พูดถึงเบื้องหลังการทำงาน และความรู้สึกของเขากับภาพยนตร์เรื่องนี้กันเลย  

Q : อะไรที่ทำให้ John Wick: Chapter 4 แตกต่างสามภาคที่ผ่านมา?

คีอานู รีฟส์ : เราขยายจักรวาลนักฆ่าไปไกลกว่าภาคที่ผ่าน ๆ มา มันทั้งสนุก ตัวละครมีพัฒนาการที่คาดไม่ถึง เรายกระดับฉากแอ็กชัน มีทั้งอาวุธใหม่ ๆ แถมเรายังเอารถมัสเซิลกลับมาอีกครั้ง! John Wick : Chapter 4 คือการขยายจักรวาลนักฆ่า เหมือนเป็นโอกาสให้ทีมงานละเลงสีบนผืนผ้าใบที่ใหญ่ขึ้น เรื่องไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในนิวยอร์กอย่างหลายภาคที่ผ่านมา เพราะเราไปทั้งจอร์แดน, ญี่ปุ่น, เบอร์ลิน และปารีส เราไม่เคยทำอะไรใหญ่ขนาดนี้มาก่อน มันมีฉากแอ็กชั่นอย่างน้อย 14 ฉากในเรื่อง เช่น ฉากไล่ล่าบนถนนในปารีสสไตล์จอห์น วิค 

Q : ภาคนี้ถือเป็นครั้งแรกในแฟรนไชส์ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ทำไมครั้งนี้คุณถึงพาจอห์น วิคเดินทางไปเยือนโอซาก้า

คีอานู รีฟส์ : อนิเมะและภาพยนตร์ญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลกับผม วิถีบูชิโดคือธีมของหนังเรา มันคือกฎที่เหล่าซามูไรต้องปฏิบัติตาม มันเหมาะมาก เรื่องเกียรติและการเสียสละ ภาคนี้รับอิทธิพลความเป็นญี่ปุ่นมาเต็มๆ การผูกภาคนี้เข้ากับญี่ปุ่นก็เพราะประเทศนี้มีกฎและประเพณีที่เคร่งครัดเหมือนโลกนักฆ่าใต้ดินของจอห์น วิค ผมและสตาเฮลสกี้ (ผู้กำกับ) ชื่นชอบหนังเอเชียและวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาก 

John Wick: Chapter 4 - จอห์น วิค แรงกว่านรก 4

Q : การได้แอ็กชันสตาร์ระดับตำนานอย่าง ดอนนี่ เยน มาร่วมงานในเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง

คีอานู รีฟส์ : เขาคือของจริง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงเป็นปรมาจารย์แห่งศาสตร์แอ็กชั่น มาตรฐานของผมไม่ได้เสี้ยวดอนนี่ เยน การได้เห็นเขาแสดงกับตาตัวเองมันน่าทึ่งสุด ๆ เมื่อถึงคิวที่ฮิโรยูกิ ซานาดะ และดอนนี่ เยน ต้องเล่นฉากแอ็กชั่น ทุกคนในกองหยุดทุกอย่างที่กำลังทำอยู่เพื่อมาดูสองปรมจารย์ศาสตร์แอ็กชั่นจากเอเชียโชว์ลีลากัน

Q : คุณทำงานกับ แชด สตาเฮลสกี้ มายาวนานตั้งแต่สมัย The Matrix มาจนถึง John Wick: Chapter 4 การทำงานกับเขาในภาคนี้เป็นอย่างไรบ้าง

คีอานู รีฟส์ : เขาสุดยอดมาก เขาทั้งเติบโต บ่มเพาะฝีมือมานาน ทั้งด้านแรงบันดาลใจ ความรู้ เขาปรับทุกอย่างมาใช้ในงานนี้ สำหรับผมเขาเป็นผู้กำกับที่มีเซนส์ด้านเขียนบทที่เฉียบ มีพื้นฐานการเป็นโปรดิวเซอร์และงานสร้าง เขาคือนักทำหนังที่เก่งรอบด้าน และตอนนี้เราเดินทางมาถึงภาคสี่ 

สำหรับผมและแชดการทำหนัง John Wick เหมือนกับการเตรียมอาหาร ทีมงานทุกคนคือคนครัว เขาเป็นหัวหน้าพ่อครัว ส่วนผมเป็นผู้ช่วย เราต้องควานหาวัตถุดิบต่าง ๆ มาผสมกันให้กลมกล่อม การร่วมงานของเรามันสนุกมาก แฟรนไชส์นี้เป็นหนึ่งในผลงานสร้างสรรค์ที่ดีที่สุดของผม

John Wick: Chapter 4 จอห์น วิค แรงกว่านรก 4
คีอานู รีฟส์ กับแชด สตาเฮลสกี้


Q : ฉากแอ็กชั่นใน John Wick ไม่เหมือนหนังเรื่องไหน มันต้องอาศัยการอุทิศตัวของนักแสดงอย่างมาก ในภาคนี้คุณต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง

คีอานู รีฟส์ : John Wick: Chapter 4 ถือเป็นบทที่ต้องอาศัยพลังกายมากที่สุดในชีวิตการแสดงของผม ผมต้องฝึกขับรถ สตั๊นท์เข้มข้น ซึ่งผมชอบนะ ผมต้องฝึกดริฟต์ 180 องศาและ 270 องศา จากเดินหน้าเป็นถอยหลังในเสี้ยววินาที ผมหัดขับรถอย่างเดียวอยู่เก้าเดือน ส่วนฉากต่อสู้ฝึกยาวกว่าสามเดือน ห้าวันต่อสัปดาห์ วันละสี่ชั่วโมง ตอนเช้าสองชั่วโมง ทานอาหารเที่ยง ต่อช่วงบ่ายอีกสองชั่วโมง ผมต้องหัดใช้กระบองสองท่อนด้วย มันคือไฮไลต์ของภาคนี้เลยใช้กระบองสองท่อนรับมือปืนกล AR15 ผมไม่ได้เซียนขนาดนั้นแต่ก็ฝึกจนพอไปวัดไปวาได้

ผมยังฝึกยูโดและยูยิตสูกับเดฟ คามาริลโล อีกด้วย ซึ่งเดฟคือปรมาจารย์ด้านยูโดและยูยิตสู เขาเป็นครูฝึกที่สถาบัน American Kickboxing Academy เคยฝึกให้นักกีฬาระดับแชมป์ เขาเป็นอาจารย์พิเศษให้กองทัพด้วย เขาให้ผมกลับไปฝึกพื้นฐานให้แน่นแล้วต่อยอดขึ้นมา เขาฝึกทั้งทักษะและแนวคิดให้ผม ผมติดหนี้เขามากจริง ๆ

ผมสั่งสมทักษะต่าง ๆ ตลอดหนังแฟรนไชส์นี้ทุกภาค ภาคที่แล้วผมสามารถเขียนและพูดภาษารัสเซียได้ ในภาค 4 ผมต้องหัดพูดภาษาญี่ปุ่น ผมเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นทุกภาคเลย

Q : เมื่อมีสปินออฟอย่าง Ballerina จ่อเข้าฉายในเร็ว ๆ นี้ John Wick: Chapters 4 จะเป็นการปิดฉาก ตำนานของ จอห์น วิค หรือเปล่า

คีอานู รีฟส์ : ผมตั้งใจจะรับบทนี้ตราบที่ผมยังเล่นไหว แต่ยังไงก็ตาม ต้องได้ฟีดแบกจากผู้ชมก่อน เหตุผลเดียวที่เราได้ทำภาคต่อ ๆ มาก็เพราะผู้ชมชอบในสิ่งที่เราทำ เราต้องรอคำตอบจากพวกเขาก่อน ผมหวังว่า พวกเขาจะชอบมันนะ