อัพเดตข้อมูลล่าสุด 27 สิงหาคม 2565 เวลา 22.59 น.
สรุปผลบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565 เซาธ์แธมป์ตัน เปิดบ้าน พ่ายแมนฯยูไป 0-1 ประตู ส่งผลให้ผีแดงชนะติดกัน 2 เกม อันดับพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 6 ของตาราง ขณะที่ลิเวอร์พูลฟอร์ดุ เปิดบ้านชนะนัดแรก ถล่มบอร์นมัธยับ 9-0 ส่วนเชลซี เฉือนชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 2-1 ขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้พลิกกลับมาชนะ คริสตัล พาเลซ 4-2
วันที่ 27 สิงหาคม 2565 การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2022-23 นัดที่ 4 คู่แรกของสัปดาห์นี้ ลงแข่งเวลา 18.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งเอาชนะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในเกมที่แล้ว อยู่อันดับที่ 13 ของตาราง นัดนี้แมนฯยูจะออกไปเยือน เซาธ์แธมป์ตัน อันดับ 8 ของตาราง ที่เซนต์แมรี่ส์สเตเดียม
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
เกมนี้ เอริก เทน ฮาก โค้ชแมนฯยู ยังคงดรอป คริสเตียโน โรนัลโด เฟรด และแฮร์รี่ แม็กไกวร์ โดยให้มาร์คัส แรชฟอร์ด ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า และมีดาบิด เดเฆอา ยืนเฝ้าเสาประตูเหมือนเดิม
เริ่มเกมในครึ่งแรกค่อนข้างสูสี ทั้งสองทีมเปิดเกมใส่กันอย่างสนุก แต่ไม่มีทีมใดทำประตูได้
เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 55 บรูโน่ เฟอร์นันเดส แปลูกยิงจากแถวสองที่ดิโอโก้ ดาโลต์ จ่ายให้ แมนฯยูขึ้นนำไปก่อน 1-0
หลังจากโดนขึ้นนำ ทีมเจ้าถิ่นพยายามบุกแหลกหวังประตูตีเสมอ และเกือบจะทำได้หลายครั้ง นาทีที่ 80 คาเซมิโร่ กองกลางตัวใหม่ถูกส่งลงสนามแทนแอนโธนี่ อีแลนก้า หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม
จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตันถึงถิ่น 1-0 มี 6 แต้มจาก 4 นัดแรก และชนะติดต่อกัน 2 เกม ขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ของตาราง ส่วนเซาธ์แฮมป์ตันมี 4 แต้ม ลงไปอยู่อันดับ 13 ของตาราง
ต่อมาเวลา 21.00 น. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล นัดที่แล้วไปแพ้ให้กับแมนฯยู วันนี้เปิดบ้านแอนด์ฟิลด์รับการมาเยือนของบอร์นมัธ และเป็นเกมที่ลิเวอร์พูลต้องชนะสถานเดียว เพื่อสร้างความมั่นใจ
เกมนี้เยอร์เกน คล็อปป์ เลือกใช้กองหน้าตัวเก่ง ทั้งโมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุยซ์ ดิอาซ และฟีร์มิโน่
เริ่มเกมครึ่งแรกแค่ 3 นาที ลิเวอร์พูลออกนำเร็วจากลูกโขกของหลุยส์ ดิอาซ ที่ต้องตัดสินด้วย VAR แต่สุดท้ายกรรมการก็ให้ประตู
ถัดมาอีก 3 นาที ลิเวอร์พูลออกนำจากลูกยิงสุดสวยของ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ นาทีที่ 6 และเป็นประตูแรกที่เจ้าตัวทำประตูได้ถึงกับเกือบจะร้องไห้
นาทีที่ 28 ลิเวอร์พูลนำห่างเป็น 3-0 จากลูกยิงไกลสุดสวยเช่นกันของอเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์
แม้สกอร์จะนำห่างแต่ลิเวอร์พูลก็ยังไม่เพลาเกมบุก มาได้ลูกที่ 4 แบบลูกเข้ายิงดีดจากฟีร์มิโน่ นำห่างไป 4-0
และก่อนจบครึ่งแรกลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุม ฟาน ไดจ์ค ขึ้นโขกได้อีก 1 ลูก
จบครึ่งแรกลิเวอร์พูล ขึ้นนำบอร์นมัธ 5-0
เริ่มเกมครึ่งหลังได้เพียงนาทีเดียว นาที่ที่ 46 คริส เม็ฟฟัม กองหลังของบอร์นมัธ ทำเข้าประตูตัวเอง ลิเวอร์พูลหนีห่างออกไปเป็น 6-0
นาทีที่ 62 เกมไหลลื่นออกไปอีก ลิเวอร์พูลทิ้งห่างออกไปเป็น 7-0 จากการทำประตูของฟีร์มิโน่ ก่อนจะเปลี่ยนตัวออกแล้วให้เจมส์ มิลเนอร์ลงมาแทน
และนาที่ที่ 80 อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ โยนบอลข้ามฟากไปหน้าประตูให้ซิมิคาสที่ลงมาแทนโรเบิร์ตสัน พักบอลแบบไม่ต้องจับบอล ให้คาร์วัลโญ่ ซัดเข้าไป ลิเวอร์พูลหนีไกลออกไปเป็น 8-0
ต่อมานาทีที่ 85 ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุม หลุยซ์ ดิอาซ ขึ้นโขก ทิ้งห่างบอร์นมัธออกไปอีกเป็น 9-0 และเป็นสกอร์ปิดท้ายจนจบเกมในครึ่งหลัง
ทำให้ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มสำคัญ ลงแข่ง 4 นัด มี 5 คะแนนขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 8 ของตาราง ส่วนบอร์นมัธอยู่อันดับที่ 16 ของตารางพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
สำหรับผลคู่อื่นๆมีดังนี้
เชลซี 2-1 เลสเตอร์ ซิตี้
ไบรท์ตัน 1-0 ลีดส์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-2 คริสตัล พาเลซ
เบรนท์ฟอร์ด 1-1 เอฟเวอร์ตัน
อาร์เซนอล 2-1 ฟูแล่ม
