ช้างศึกทำได้ตามเป้า ชนะกัมพูชา 3-1 การันตรีแชมป์กลุ่ม อาเซียนคัพ ทะลุเข้ารอบรองฯ
วันที่ 2 มกราคม 2565 ช้างศึก ทีมชาติไทย ดวลกับกัมพูชา ภายใต้การคุมทัพของ “มาโน โพลกิ้ง” หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวบราซิล ลงแข่งในนัดสุดท้าย กลุ่มเอ ศึก “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2022” ที่สนามม.ธรรมศาสตร์ รังสิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
สำหรับผู้เล่น 11 คนแรกประกอบด้วย กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (ผู้รักษาประตู), ศศลักษณ์ ไหประโคน, พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, ธีราทร บุญมาทัน (กัปตันทีม), สารัช อยู่เย็น, บดินทร์ ผาลา, เอกนิษฐ์ ปัญญา, อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีรศิลป์ แดงดา
เริ่มเกมมาเป็นทีมชาติไทยที่ครองบอลบุกมากกว่าทีมเยือนแต่ยังหาจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้งไม่ได้ แต่ทว่าทีมชาติไทย ที่มีโอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกจากจุดโทษของธีรศิลป์ แดงดา ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งขุนพลช้างศึก นำกัมพูชา อยู่ 1-0 ในครึ่งแรก
ในครึ่งหลัง มาโน่ โพลกิ้ง ได้แก้เกมทำให้ทีมชาติไทย เล่นได้อย่างไหลลื่นขึ้น มาได้ประตูที่ 2 จากสุมัญญา ปุริสาย หลังจากจากนั้นทีมช้างศึกก็แทบจะพับสนามบุกอยู่ข้างเดียว ต่อมา นาทีที่ 64 ธีรศิลป์ แดงดา มีโอกาสยิงในกรอบเขตโทษแต่บอลไปโดนเสา
กัมพูชายังไม่ถอดใจ สามารถหาจังหวะสวนกลับใส่ทีมชาติไทยเป็นระยะ ๆ และในที่สุดทีมชาติกัมพูชาก็ได้ประตูตีตื้นมาจาก สีจันเทีย ในนาทีที่ 68 ไล่ขึ้นมาเป็น 1-2
ต่อมาทัพช้างศึกโหมบุกอยู่ข้างเดียวเพื่อต้องการประตูเพิ่ม และเป็นทางด้านธีรศิลป์ แดงดา ซัดประตูที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้ ทำให้ทีมชาติไทยนำกัมพูชาห่างออกไปเป็น 3-1 ในนาทีที่ 90 และจบเกมไปด้วยสกอร์นี้
จบเกมนี้ส่งผลให้ทีมชาติไทยเป็นแชมป์กลุ่ม เอ รวมถึงเข้ารอบรองชนะเลิศ ในศึก “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2022” รอประกบคู่กับที่ 2 ของกลุ่ม บี ซึ่งจะแข่งนัดสุดท้ายกันในวันพรุ่งนี้