ดุสิตธานี ส่ง 2 แบรนด์ไทย ดุสิตธานี-อาศัย บุกตลาดญี่ปุ่น

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT

กลุ่มดุสิตธานี เดินหน้าขยายธุรกิจต่างประเทศต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศเปิดให้บริการโรงแรม อาศัย เกียวโต ชิโจ ที่พักแนวไลฟ์สไตล์ เดือน มิ.ย. ตามด้วย ดุสิตธานี เกียวโต เดือน ก.ย. พร้อมมองหาโอกาสในการขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมในอีกหลายเมืองสำคัญในญี่ปุ่น หวังวางรากฐานที่มั่นคงในการสร้างเติบโตตลาดต่างประเทศในอนาคต

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานีได้จัดงานเปิดตัวโรงแรมและรีสอร์ตในเครือดุสิตที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ พร้อมชมตัวอย่างโรงแรม อาศัย เกียวโต ชิโจ (ASAI Kyoto Shijo) และโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto) ที่จะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายนและเดือนกันยายนปีนี้

โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto)
โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto)

ทั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่จะได้นำแบรนด์ “ดุสิตธานี” มาสู่ประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หลังจากเดินหน้าขยายการให้บริการเช่าวิลล่าหรู ในหมู่บ้านนิเซโกะและฮิราฟุ ของฮอกไกโด ภายใต้แบรนด์อีลิธ เฮเวนส์มาแล้ว

นางศุภจีกล่าวว่า ด้วยประสบการณ์มากกว่า 70 ปีในการดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตที่เคยได้รับรางวัลมากมายจากหลายประเทศทั่วโลก การเปิดตัวโรงแรมและรีสอร์ตในเครือดุสิตที่ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ ถือเป็นการปักหมุดหมายสำคัญเพื่อส่งมอบประสบการณ์การบริการที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจ 4 ประการของ Dusit Graciousness

โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto)
โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto)

ประกอบด้วย การบริการ (Service) ที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักอย่างสง่างาม, การกินดีอยู่ดี (Well-Being) เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านสุขภาพที่เหนือระดับ, การเชื่อมโยงกับท้องถิ่น (Locality) เพื่อให้ลูกค้าของดุสิตธานีได้สัมผัสและเข้าถึงชุมชนท้องถิ่นอันมีเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ และความยั่งยืน (Sustainability) ทั้งมิติทางสังคม และสิ่งแวดล้อม

สำหรับ โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto) ซึ่งดำเนินงานภายใต้แบรนด์ดุสิตธานี พร้อมมอบประสบการณ์การเข้าพักระดับลักเซอรี่ในย่าน ฮังกันจิ มอนเซ็น-มาจิ (Hanganji Monzen-machi)

ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเกียวโต (Kyoto Station) เพียง 850 เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับวัดนิชิ ฮอนกันจิ (Nishi Honganji) ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกที่ได้รับคัดเลือกจากยูเนสโก (UNESCO) และยังแวดล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่น ๆ อีกหลายแห่ง

โดยความสวยงามของที่พักได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งของ 2 เมืองหลวงเก่าแก่ ทั้ง เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และอยุธยา ประเทศไทย ที่ยังคงมีเสน่ห์ โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต จึงให้ความรู้สึกเป็นแหล่งหลบหนีความวุ่นวายในเมือง ที่ยังคงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีของญี่ปุ่นและการต้อนรับอย่างอบอุ่นแบบไทย

โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto)
โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต (Dusit Thani Kyoto)

นอกจากห้องพักที่ตกแต่งอย่างเหนือระดับจำนวน 150 ห้องซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้ง 4 ชั้น โรงแรมแห่งนี้ยังมีพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ และเทวารัณย์ เวลเนส (Devarana Wellness) ที่ให้บริการการนวดบำบัดแบบไทยโบราณและแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม รวมถึงทรีตเมนต์เพื่อสุขภาพ กิจกรรม

และเป้าหมายในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักที่สามารถออกแบบโปรแกรมให้เข้ากับความต้องการของตัวเองได้อย่างลงตัว

ขณะที่ประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ ดุสิตธานี เกียวโต ที่มีตัวเลือกหลากหลายที่จะทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของผู้ที่ชื่นชอบการรับประทาน โดยเฉพาะความพิเศษจากเชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ และเชฟดีแลน โจนส์

ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการร้านอาหาร เพราะโดดเด่นในด้านปรุงอาหารไทยแบบต้นตำรับที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและอยู่บนฐานความยั่งยืน จนร้าน โบ.ลาน (Bo.lan) ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์เป็นเครื่องการันตี

ส่วนของ โรงแรมอาศัย เกียวโต ชิโจ (ASAI Kyoto Shijo) ที่จะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายนนี้ จะเป็นความตื่นเต้นใหม่ที่จะกลายเป็นหนึ่งหมุดหมายของเมือง โดยโรงแรมแห่งนี้บริหารภายใต้ อาศัย โฮเท็ลส์ (ASAI Hotels) แบรนด์โรงแรมแนวไลฟ์สไตล์ภายในเครือดุสิตธานี ที่โดดเด่นและทันสมัย มีพันธกิจสำคัญในการเชื่อมโยงนักเดินทางรุ่นใหม่เข้ากับประสบการณ์ที่แท้จริงในทุกชมชนท้องถิ่นทั่วโลก

โรงแรมอาศัย เกียวโต ชิโจ
โรงแรมอาศัย เกียวโต ชิโจ

โรงแรม “อาศัย เกียวโต ชิโจ” มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 114 ห้อง ตั้งอยู่ในย่านชิโจ-คาราสุมะ (Shijo-Karasuma) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดนิชิกิ (Nishiki Markaet) ใจกลางเมือง โรงแรมแห่งนี้ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการสร้างความหมายให้กับทุกการเข้าพัก

พร้อมให้คุณค่ากับมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมของชุมชนในละแวกนั้น โดยจะสร้างแรงบันดาลใจจากเอกลักษณ์หลายแขนงอันโดดเด่นของไทย ที่นี่จะให้บริการห้องพักในขนาดที่ออกแบบพื้นที่ได้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น

อาทิ เตียงนอนคุณภาพเยี่ยม และฝักบัวอาบน้ำแรงดันสูง มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่เป็นสถานที่อเนกประสงค์ทั้งการทำงาน พักผ่อนอิริยาบถ รวมถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงแรมยังมีห้องรับประทานอาหารบรรยากาศสบาย ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสตรีตฟู้ดอันโด่งดังของกรุงเทพฯ

รวมทั้งบริการของว่างหลากชนิดที่จับคู่กับเครื่องดื่มได้อย่างสร้างสรรค์ ทั้งค็อกเทลแบบคลาสสิก วิสกี้ สาเก และเบียร์ระดับพรีเมี่ยมของประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนของหวานรสชาติเป็นเอกลักษณ์ที่เลือกสรรมาอย่างพิถีพิถัน เช่น ข้าวเหนียวมะม่วงและไอศกรีมมะพร้าวพร้อมท็อปปิ้งนานาชนิด เหมือนได้สัมผัสกับบรรยากาศในกรุงเทพฯ ได้อย่างแท้จริง

“เรายินดีที่ได้เปิดตัวแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยในเมืองประวัติศาสตร์อย่างเกียวโต เป้าหมายของเราไม่เพียงแต่ให้บริการที่พักระดับลักเซอรี่ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่นอย่างมีความหมายและยั่งยืน”

“พร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่เกิดจากความทุ่มเทของเราด้วยการเชื่อมโยงจุดเด่นของกลุ่มดุสิตธานี ทั้งด้านโรงแรมและรีสอร์ต ด้านการศึกษา ด้านอาหารและด้านอสังหาริมทรัพย์” นางศุภจีกล่าว

และว่าส่วนตัวมั่นใจว่า แนวทางนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของกลุ่มดุสิตธานี และวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตที่ประเทศญี่ปุ่นในอนาคต ซึ่งในขณะนี้บริษัทกำลังวิเคราะห์ทางเลือกเพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมในอีกหลายเมืองที่น่าสนใจ เช่น ฟูกูโอกะ โอซากา และโตเกียว และยังคงแสวงหาโอกาสในการขยายหน่วยธุรกิจอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมใกล้เคียง