กรมการกงสุล ผนึก ททท. เชื่อมข้อมูล-ลดวันอนุมัติวีซ่า “กรุ๊ปทัวร์จีน”

กรมการกงสุลผนึก ททท.

กรมการกงสุลจับมือกรมการท่องเที่ยว-ททท เชื่อมโยงฐานข้อมูลนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม “กรุ๊ปทัวร์” บนระบบ API/Linkage หวังเพิ่มประสิทธิภาพ-อำนวยความสะดวกการอนุมัติวีซ่า ลดเวลาจาก 7 วันเหลือแค่ 2-3 วัน เผยพร้อมใช้งานเต็มระบบต้นเดือน ต.ค.นี้ มั่นใจหนุนคนจีนเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น

วันที่ 1 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายณัฐพล ขันธหิรัญ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้เกียรติเป็นสักขีพยานการลงนามร่วมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยเรื่องการเชื่อมโยงบูรณาการข้อมูลนักท่องเที่ยวจีน ระหว่างนายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ณ ห้องประชุม ชั้น 3 กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ

นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า บันทึกข้อตกลงฉบับนี้เป็นการดำเนินงานระยะแรก (เฟส1) ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดจีน โดยทำการเชื่อมโยงฐานข้อมูลนักท่องเที่ยวระหว่าง 3 หน่วยงานคือ กรมการกงสุล กรมการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วยระบบ API/ Linkage เพื่อเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร

รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจลงตรา (visa) ควบคู่กับการคัดกรองและอำนวยความสะดวกการเดินทางของกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ให้มีความรวดเร็วขึ้น หรือเหลือประมาณ 2-3 วันจากเดิมที่อาจใช้เวลาประมาณ 7 วัน

“เรามีระบบอำนวยความสะดวกในการยื่นขอวีซ่าที่เป็นระบบ e-Visa อยู่แล้ว แต่ระบบ API/ Linkage นี้เบื้องต้นเราจะนำมาใช้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นกลุ่ม หรือกรุ๊ปทัวร์ ที่เดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกรุ๊ปทัวร์สามารถยื่นขอวีซ่าได้เร็วขึ้น ขณะที่กรมการท่องเที่ยวและ ทททก็จะมีฐานข้อมูลนักท่องเที่ยว และสามารถตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่เข้ามาได้ด้วย” นายรุจกล่าว

นายรุจกล่าวด้วยว่า ระบบดังกล่าวนี้มีกระบวนการสำคัญ 3 ส่วนประกอบด้วย 1. การเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งงานมัคคุเทศก์ (job order) และที่เกี่ยวข้องกับระบบ VISA Pre-Scan System (VPSS) Gateway ที่ ททท.กำกับดูแล และระบบการตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Visa)   ของกรมการกงสุล 2. ททท. ตรวจสอบกับข้อมูลต้นทาง อาทิ บัตรโดยสารเครื่องบิน ที่พัก ประกัน รายละเอียดของรายการนำเที่ยว ฯลฯ

และ 3. กรมการกงสุลใช้ข้อมูลดังกล่าวในการพิจารณาเป็นข้อมูลประกอบในการตรวจลงตราให้กับนักท่องเที่ยวที่ผ่านบริษัทนำเที่ยวในการขอตรวจลงตราผ่านระบบ e-Visa เพื่อเข้าราชอาณาจักร ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวจะนำมาใช้อย่างเป็นทางการในต้นเดือนตุลาคม 2566 นี้เป็นต้นไป

ด้านนายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กรมการท่องเที่ยวมีความตั้งใจในการแก้ปัญหาและอุปสรรคในการเดินทางเข้าราชอาณาจักรของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน โดยในระยะแรกนี้ทางกรมฯ ดำเนินงานใน 2 ส่วนหลักคือ 1. นำข้อมูลการจดทะเบียนของบริษัทนำเที่ยวที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมาเข้าระบบเพื่อเชื่อมต่อกับบริษัทนำเที่ยวที่เป็นคู่ค้าในจีน

และ 2. นักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ต้องกรอกข้อมูลในระบบใบสั่งงานมัคคุเทศก์ (job order) ซึ่งระบุชื่อนักท่องเที่ยว เที่ยวบิน โปรแกรมเดินทาง ฯลฯ ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุมัติลงตราวีซ่าแล้วยังเป็นการดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตลอดเวลที่พำนักในประเทศไทยด้วย

ขณะที่นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การเชื่อมโยงข้อมูลทั้ง 3 หน่วยงานดังกล่าวนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์แล้วยังเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเพิ่มมากขึ้นด้วย