
จัดเต็มแบบเย็นทั่วหล้าถึง 21 วันเต็มสำหรับเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายนปีนี้ เป็นการเฉลิมฉลองการขึ้นทะเบียน “สงกรานต์” ของไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จากองค์การ UNESCO
ปีนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบฯจัดงานถึง 104 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 พร้อมกำหนดให้มีวันหยุดสงกรานต์ถึง 5 วัน (12-16 เมษายน 2567)
ด้วยหวังว่าการจัดงานครั้งนี้จะสร้างงานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property Festival) เชิดชูเอกลักษณ์ความเป็นไทย และผลักดันให้ประเทศไทยติด Top 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลของโลก (World Event)
“สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ บอกว่า ปีนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1-21 เมษายน 2567 รวม 21 วัน เพื่อประชาสัมพันธ์เทศกาลสงกรานต์ของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
มีกลุ่มเป้าหมายคือ นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติจากทั่วโลก
โดยเปิดงานไปเรียบร้อยแล้วเมื่อ 1 เมษายนที่ผ่านมา ณ งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งถือเป็นการ “คิกออฟ” เริ่มต้นเดือนแห่งเทศกาลสงกรานต์ เถลิงศกใหม่ไทยอย่างเป็นทางการ
การจัดงานในปีนี้มีพื้นที่หลักคือ กรุงเทพฯ และในอีก 5 จังหวัดส่วนภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น สมุทรปราการ ชลบุรี และภูเก็ต และในอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ ตลอด 21 วันของเดือนเมษายนนี้
สำหรับกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่หลัก จัดขึ้นระหว่าง 11-15 เมษายน 2567 ณ บริเวณถนนราชดำเนินกลาง และพื้นที่ท้องสนามหลวง โดยนำเสนอภาพลักษณ์ความสวยงามของประเพณีสงกรานต์ไทย ด้วยขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์กว่า 20 ขบวน
อาทิ ขบวนรถพระพุทธรูป ขบวนรถเทพีสงกรานต์ ประจำปี 2567 “มโหธรเทวี” เสด็จไสยาสน์ลืมเนตรเหนือหลังนกยูง ขบวนรถพาเหรด 16 จังหวัด ประกอบด้วย 5 จังหวัดที่มีอัตลักษณ์การจัดเทศกาลสงกรานต์ที่โดดเด่น ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี สมุทรปราการ นครศรีธรรมราช
กลุ่ม 5 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงราย หนองคาย พิษณุโลก สงขลา บุรีรัมย์ และกลุ่มจังหวัดอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ และ 6 จังหวัดที่มีการจัดงานประเพณีสงกรานต์ที่มีเอกลักษณ์ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา นครพนม ลำปาง เลย สุโขทัย และภูเก็ต
ขบวนรถพาเหรด Soft Power 4 สาขา ได้แก่ แฟชั่น เกม ภาพยนตร์-ซีรีส์ และเฟสติวัล ที่จะมานำเสนอเอกลักษณ์ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย
รวมถึงการจัดกิจกรรมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม โขน และรำมโนราห์ การแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากนักแสดงและผู้ร่วมขบวนแห่กว่า 1,000 คน
“เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า งาน “Maha Songkran World Water Festival 2024” ปีนี้ นอกจากจะมีขบวนพาเหรดสงกรานต์ยิ่งใหญ่ สะท้อนอัตลักษณ์วัฒนธรรม และ Soft Power ไทยแล้ว กรมส่งเสริมวัฒนธรรมยังได้จัดทำบทเพลงสงกรานต์ 4 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน และฝรั่งเศส
เพื่อสื่อสารให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรับรู้ถึงคุณค่าสาระของประเพณีสงกรานต์ไทย และเข้าถึงพลังสร้างสรรค์ของ Soft Power ของไทย
ขณะที่ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ททท.ได้ร่วมกับพันธมิตรสื่อมวลชนระดับโลกอย่าง CNN และ BBC ในการนำเสนอคอนเทนต์เทศกาลสงกรานต์ของประเทศไทยผ่านสื่อประชาสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ
และเผยแพร่โฆษณาผ่าน IQYI ช่องทางสตรีมมิ่งยอดนิยมในตลาดจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และกลุ่มประเทศอาเซียน
รวมถึงเชิญ Celebrity และ Influencer ชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียงเดินทางสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ด้วย
โดยคาดว่า ในช่วงวันหยุดยาว 12-16 เมษายน 2567 ที่รัฐบาลจัดกิจกรรมใหญ่ที่บริเวณถนนราชดำเนิน สนามหลวง และพื้นที่อื่น ๆ จะมีตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวไทยรวมไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน สร้างรายได้ราว 5,000 ล้านบาท
แต่หากรวมการจัดงานในหลายจังหวัดที่ทยอยจัดกันตั้งแต่วันที่ 1 จนถึง 21 เมษายน และมีบางจังหวัดที่จัดถึงวันที่ 30 เมษายน มองว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมประมาณ 8-10 ล้านคน
และคาดว่าทำให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยว และมีเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยไม่ต่ำกว่า 50,000-80,000 ล้านบาท
เช่นเดียวกับ “ธนวรรธน์ พลวิชัย” ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวในเทศกาลมหาสงกรานต์ที่กำหนดให้จัดถึง 21 วัน จะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจในภาคบริการ ซึ่งเป็นสัญญาณบวกของเศรษฐกิจไทย
โดยประเมินว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1-2 ล้านคน ในช่วงสงกรานต์ และน่าจะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท