‘ออนิกซ์’ รุกหนัก สปป.ลาว เปิด ‘อมารี’ กรุงเวียงจันทน์

Onyx Amari

“ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” รุกเปิดตลาด สปป.ลาว ผนึก “ตั้งเจริญ กรุ๊ป” เปิดโรงแรมอมารีแห่งที่ 2 ณ ทำเลริมแม่น้ำโขง เมืองหลวงเวียงจันทน์ เผยวางโพซิชันนิ่งเป็นโรงแรมระดับ Upper Upscale รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมี่ยม มั่นใจตลาดท่องเที่ยวลาวมีศักยภาพในการเติบโตสูง ตั้งเป้าปีแรกมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 60%

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ภายใต้กลุ่มอิตัลไทย) เปิดเผยว่า กลุ่มออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ ได้เข้าไปรับบริหารโรงแรมใหม่ภายใต้แบรนด์ “อมารี” แห่งที่ 2 ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ณ กรุงเวียงจันทน์ คือ อมารี เวียงจันทน์ (Amari Vientiane) โรงแรมระดับ Upper Upscale โดยทำการแกรนด์โอเพนนิ่งอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา หลังจากที่เปิดให้บริการโรงแรมอมารี วังเวียง ไปเมื่อปี 2561

ยุทธชัย จรณะจิตต์
ยุทธชัย จรณะจิตต์

โดยเจ้าของโครงการคือ กลุ่มบริษัทตั้งเจริญ (Tang Chareon Group : TCR) บริษัทผู้พัฒนาโครงการพื้นฐานรายใหญ่ของ สปป.ลาว และบริษัท Asian Investment, Development and Gonstruction Croup โดยใช้งบประมาณ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักประกอบด้วย คนลาว เกาหลีใต้ ไทย ยุโรป ฯลฯ ทั้งกลุ่มที่เดินทางเพื่อการท่องเที่ยว และกลุ่มที่ต้องการเดินทางเพื่อธุรกิจ โดยมีเอ็กซ์คลูซีฟ เลานจ์สำหรับรองรับลูกค้ากลุ่ม VIP

“โรงแรมอมารี เวียงจันทน์ ถือเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุด เป็นแบรนด์อินเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ ได้มาตรฐาน และเคลมได้ว่าดีที่สุดในกรุงเวียงจันทน์ ที่สำคัญตั้งอยู่ในโลเกชั่นที่ดี ติดริมแม่น้ำโขง มีวิวที่สวยงาม เราจึงอยากทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของกลุ่มนักธุรกิจ” นายยุทธชัยกล่าวและว่า

Onyx Amari

และนอกจากกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปแล้ว โรงแรมแห่งนี้ยังมุ่งทำตลาดกลุ่มประชุม สัมมนา หรือ MICE ด้วย เพราะมีมากถึง 248 ห้อง และหลากหลายรูปแบบ สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า อาทิ ห้องเดอลุกซ์ (Deluxe Room) จูเนียร์ สวีต (Junior Suit) เอ็กเซ็กคิวทีฟ สวีต (Executive Suit) และเพรสซิเดนเชียล สวีต (Presidential Suite) พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการระดับเวิลด์คลาส เพื่อต้อนรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ได้แก่ ห้องประชุม สปา ฟิตเนส รูฟท็อป ฯลฯ

ADVERTISMENT

Onyx Amari

นายยุทธชัยกล่าวว่า โรงแรมอมารี ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความไว้วางใจที่กลุ่มบริษัทตั้งเจริญมอบให้กับออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป และแบรนด์อมารี และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ให้เติบโตยิ่งขึ้นทั้งในประเทศลาวและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามวิสัยทัศน์ “The Best Medium-Sized Hospitality Management Company in Southeast Asia”

Onyx Amari

“ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจลึกซึ้งในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงมั่นใจว่าอมารี เวียงจันทน์ จะเป็นโรงแรมที่ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจจากนักเดินทางทั้งในประเทศลาวและจากต่างประเทศอย่างรวดเร็ว โดยตั้งเป้ามีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปีแรกนี้ที่ประมาณ 60%” นายยุทธชัยกล่าว

นายยุทธชัยกล่าวด้วยว่า สำหรับภาคการท่องเที่ยวของ สปป.ลาวนั้นปัจจุบันพบว่ามีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก มีทรัพยากรที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุน และเชื่อว่าในอนาคต สปป.ลาว มีแผนขยายสนามบินนานาชาติเพื่อรองรับจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

Onyx Amari

สอดรับกับนายเด่นไซ แสงอรุณ ผู้อำนวยการ กลุ่มบริษัทตั้งเจริญ (Tang Chareon Group : TCR) ที่กล่าวว่า ในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวนั้น สปป.ลาว ยังมีโอการเติบโตมหาศาล เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจถูกจำกัดด้วยโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งปัจจุบันการทางด่วน และรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากเวียงจันทน์ไปจีนก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ภาคการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว มีความคึกคักเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

Onyx Amari

โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา สปป.ลาวมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 5 ล้านคน สร้างรายได้ให้ประเทศคิดเป็นมูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ไทย รองลงมาคือ เวียดนาม และจีน

Onyx Amari

“ตอนนี้กลุ่มเราลงทุนในธุรกิจโรงแรมแล้วใน 3 เมืองหลักคือ จำปาสัก ซึ่งเป็นการลงทุนในยุคแรก ภายใต้ชื่อ โรงแรมจำปาสัก แกรนด์ โฮเทล ตามด้วยโรงแรมอมารี วังเวียง เมื่อปี 2561 ล่าสุดคือโรงแรมอมารี เวียงจันทน์ และในอนาคตเราก็มีแผนสำหรับเตรียมลงทุนเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง เช่น ที่หลวงพระบาง เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องมองออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ปในฐานะพาร์ตเนอร์ที่ดีก่อน” นายเด่นไซกล่าว

สำหรับโรงแรม “อมารี เวียงจันทน์” นั้น ตั้งอยู่กลางเมืองหลวง สปป.ลาวใกล้แหล่งท่องเที่ยว และห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต เพียง 4.8 กิโลเมตรเท่านั้น