เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 เปิดวิธีการใช้สิทธิ์ใหม่ เริ่ม พ.ค.-ส.ค. 64

ครม. ปรับปรุงการใช้สิทธิ์โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ใหม่ตรวจเข้มป้องกันการทุจริต เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่เดือน พ.ค. – ส.ค. 2564 

วันที่ 23 มีนาคม 2564 คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3  มีการปรับปรุงรายละเอียดใหม่ 7 เงื่อนไข ดังนี้

  1. เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ใช้งบประมาณ 5,700 ล้านบาท

สำหรับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ที่จะใช้วงเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 5,700 ล้านบาท ในการดำเนินการต่อจากเฟส 1 และเฟส 2 ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้จะมีการขยายสิทธิเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านสิทธิ์

  1. เริ่มใช้สิทธิได้พฤษภาคม-สิงหาคม 2564

ประชาชนสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2564 สาเหตุที่ล่าช้าไม่ทันช่วงวันหยุดยาว เทศกาลสงกรานต์ ปีนี้เนื่องจากตัวระบบที่ธนาคารกรุงไทยต้องเร่งดำเนินการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสหรือทุจริตโครงการฯ แบบที่ผ่านมา

  1. ผู้ประกอบการ ต้องแจ้งจำนวนห้องพัก-ราคาให้กับ ททท.รับทราบ

สำหรับวิธีการใช้งาน “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ของทางฝั่งผู้ประกอบการโรงแรม ก็จะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมา คือครั้งนี้จะต้องมีการกดให้ความยินยอมในระบบใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ทาง ททท. สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ แล้ว ททท. ก็จะเอาข้อมูลห้องพักต่างๆ ที่จดทะเบียนไว้กับทางมหาดไทย มาดูว่าโรงแรมแต่ละแห่งมีจำนวนห้องเท่าไหร่

นอกจากนี้แต่ละโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องส่งจำนวนห้องพักและช่วงเรตราคาของห้องพัก (ราคาสูงสุด-ราคาต่ำสุด) ให้ทาง ททท. เพื่อให้ ททท. ตรวจวสอบข้อมูลดังกล่าวด้วย

  1. ผู้ใช้สิทธิ์เข้าพัก ต้องลงทะเบียน และจองที่พักล่วงหน้า 7 วัน

สำหรับการใช้งานของประชาชนทั่วไป จะต้องลงทะเบียนกับทางโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 จากนั้นให้จองที่พักที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งในการจองที่พักนั้น กำหนดใหม่ว่าต้องจองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน เพื่อที่ธนาคารกรุงไทยจะได้ส่งข้อมูลให้ ททท. จากนั้นทาง ททท. ก็จะได้ตรวจสอบได้ว่าการจองนั้นมีความผิดปกติหรือไม่

  1. ผู้ใช้สิทธิ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ต้องสแกนใบหน้า

สำหรับประชาชนผู้ใช้สิทธิ เมื่อมีการเข้าพักในโรงแรมที่จองไว้ ก็จะต้อง “สแกนใบหน้า” ของผู้เข้าใช้สิทธิในโครงการฯ พอสแกนใบหน้าไปแล้ว ก็จะมีข้อมูล GPS ติดไปด้วย ตรงนี้ก็จะเป็นขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามาเพื่อการใช้งานที่โปร่งใสมากขึ้น

  1. E-Voucher ปรับปรุงใหม่ มีเฉพาะราคา 600 บาท เท่านั้น

สำหรับการใช้เคูปอง หรือ E-Voucher ซึ่งแต่เดิมเคยกำหนดไว้ 900 บาทในวันธรรมดา และ 600 บาทในวันหยุด แต่ในการปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ครั้งนี้ จะปรับมูลค่าเป็น 600 บาทต่อวัน ราคาเดียวเท่านั้น ไม่มีราคาอื่น

  1. ต้องท่องเที่ยวและพักแรมข้ามจังหวัดเท่านั้น

ส่วนกรอบพื้นที่ในการเดินทางท่องเที่ยว จากเดิมเคยระบุไว้ว่าสามารถใช้สิทธิท่องเที่ยวพักแรมในจังหวัดเดียวกับภูมิลำเนาได้ แต่ครั้งนี้มีการปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ว่า ต้องเป็นการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดเท่านั้น