ก.การท่องเที่ยวฯ คงเป้าปี’65 ท่องเที่ยวไทยสร้างรายได้ 1.3-1.5 ล้านล้านบาท

THAILAND
Photo by Tuwaedaniya MERINGING / AFP

รมต.การท่องเที่ยวฯคงเป้าปี’65 ต่างชาติเข้าไทย 7-13 ล้านคน ไทยเที่ยวไทย 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1.3-1.5 ล้านล้านบาท นายกสมาคมโรงแรม เชื่อปีนี้การท่องเที่ยวฟื้นตัว กูรูแนะรัฐเร่งฟื้นฟูทักษะแรงงานภาคท่องเที่ยว

วันที่ 22 เมษายน 2565 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงมีความพยายามที่จะเสนอทางรัฐบาลเพื่อขอปรับลดมาตรการการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยการปรับลดมาตรการจะช่วยส่งเสริมให้ภาคการท่องเที่ยวไทยสามารถฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น

โดยหลังจากการปรับลดมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทยในช่วง 7-8 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ กระทรวงคาดการณ์ว่า หากสามารถปรับลดมาตรการ ได้ภายในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม หรือมิถุนายนนี้ จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยที่ 7-13 ล้านคน สร้างรายได้ราว 7 แสนล้านบาท

ส่วนการท่องเที่ยวในประเทศ กระทรวงตั้งเป้าหมายว่า จะมีชาวไทยออกเดินทางทั้งสิ้น 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ราว 6.5 แสนล้านบาท จะทำให้ในปี 2565 นี้ ภาคการท่องเที่ยวไทย จะสามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศรวม 1.3-1.5 ล้านล้านบาท

“ผู้ประกอบการโรงแรมสามารถใช้เวลาในช่วงนี้ ปรับปรุงแก้ไขผลิตภัณฑ์ รวมถึงสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงเชิญชวนคนไทยแสดงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยการเป็นเจ้าบ้านที่ดีที่มากกว่าเดิม” นายพิพัฒน์กล่าว

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวไทยประสบกับปัญหาอย่างหนัก แต่เชื่อว่าในปี 2565 นี้ ภาคการท่องเที่ยวจะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มาแน่นอน โดยการปรับลดมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ จะช่วยกระตุ้นให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวจากวิกฤตได้ อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าในปีนี้ การท่องเที่ยวในประเทศจะยังมีส่วนสำคัญในการพยุงทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอยู่

ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปาฐกถาในหัวข้อ “แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวหลังโควิด” โดยระบุว่า ภาครัฐจำเป็นต้องเข้ามาส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาดำเนินกิจการได้อย่างเร็วที่สุด

โดยหนึ่งในความช่วยเหลือ คือ ภาครัฐต้องเร่งฟื้นฟูทักษะแรงงานภาคการท่องเที่ยว รวมถึงเพิ่มทักษะบุคลากรภาคการท่องเที่ยวให้มีความสามารถมากยิ่งขึ้น ให้ปรับตัวพร้อมรับกับสังคมยุคดิจิทัล และตลาดแรงงานที่ต้องการบุคลากรที่มีทักษะหลากหลาย

นายวีระศักดิ์กล่าวต่อว่า รัฐบาลสามารถกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวได้ ผ่านข้อเสนอสามประการ คือ 1. ลดข้อจำกัดให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้ เช่น การลดข้อจำกัดการเดินทาง พร้อมทั้งพิจารณาหาวิธีการให้แรงงานภาคการท่องเที่ยวกลับเข้ามาในอุตสาหกรรม

2. จัดโครงสร้างทางอำนาจหรือออกกฎเกณฑ์ใหม่ เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายในเชิงกำกับ ควบคุม แต่ยังไม่ได้มีกฎหมายเชิงส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสักเท่าไรนัก จึงเสนอให้รัฐบาลออกพระราชบัญญัติเพื่อจัดระเบียบโครงสร้างอุตสาหกรรมของการท่องเที่ยวใหม่

โดยอาจเป็นการโยกย้ายอำนาจในแต่ละกระทรวง เพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการในการเข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการต่าง ๆ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ รวมถึงมีมุมมองของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโดยตรง

และ 3. การส่งเสริมนักท่องเที่ยวคุณภาพ อาจมีการออกกฎหมายที่สนับสนุนภาคการท่องเที่ยวโดยตรง ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เนื่องจากกติกาเดิมที่มีอยู่อาจไม่ส่งเสริมการเติบโตของนักท่องเที่ยวคุณภาพเท่าใดนัก

“ไม่อยากเห็นแค่การส่งเสริมข้าวเหนียวมะม่วง เพราะมีศิลปินไปร้องเพลง แต่เราอยากเห็นการแก้ปัญหาที่โครงสร้าง” นายวีระศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ ยังเสนอให้ภาครัฐและภาคเอกชนให้ความสำคัญกับหน่วยงานด้านการสื่อสาร-ประชาสัมพันธ์ แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งในและนอกองค์กร เพื่อสร้างความเข้าใจแก่สาธารณะ เช่น กรณีภูเก็ตแซนด์บอกซ์ที่มีการสื่อสารอยู่เป็นระยะ ซึ่งช่วยลดปัญหาความไม่เข้าใจลงไปได้บ้าง