ผลสำรวจชี้คนไทยเกือบ 70% มีแผนออกเดินทาง มิ.ย.-ก.ย.นี้

นักท่องเที่ยว

โพลชี้คนไทยเกือบ 70% มีแผนเดินทางในช่วง มิ.ย. ถึง ก.ย. เผยหากเลือกเดินทางต่างประเทศ คนไทยสนใจเที่ยวญี่ปุ่น-เกาหลีใต้มากที่สุด

วันที่ 8 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยุโรป แอสซิสแทนซ์ (Europ Assistance) ผู้ให้บริการด้านความช่วยเหลือการท่องเที่ยว ประกันภัย และความช่วยเหลือส่วนบุคคล เปิดเผยผลสำรวจ Holiday Barometer ประจำปี ครั้งที่ 21 ซึ่งสำรวจจากนักท่องเที่ยวใน 15 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย แต่ละประเทศมีผู้ทำแบบสำรวจ 1,000 คน การสำรวจมีการเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน ถึง 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา

โดยผลการสำรวจพบว่า ผู้คนมีความต้องการในการเดินทางเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อีกทั้งยังมีระดับที่สูงกว่าปี 2562 และ 69% ของคนไทยตั้งใจที่จะเดินทางในเดือนมิถุนายนถึงกันยายน เพิ่มขึ้น 25 จุด เมื่อเทียบกับปี 2564

การเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น

ผลการสำรวจชี้ว่า การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลายเป็นสิ่งที่เห็นได้ในทุกประเทศ : 48% (+13 จุด) ของชาวยุโรป, 36% (+11 จุด) ของชาวอเมริกัน และ 56% (+7 จุด) ของคนไทยที่ตั้งใจจะเดินทางไปต่างประเทศในเดือนมิถุนายนถึงกันยายน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่คุ้นเคยกับการเดินทางไปต่างประเทศ : อังกฤษ (+24 จุด), สวิส (+7 จุด) และเบลเยียม (+7 จุด) จะออกเดินทางไปเมืองนอกกันมากขึ้น

เมื่อเลือกเดินทางไปต่างประเทศ นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนมากจะเลือกประเทศที่อยู่ไม่ไกลจนเกินไป โดยประเทศที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือญี่ปุ่น รองลงมาคือเกาหลีใต้และสิงคโปร์ โดยสภาพอากาศและการความคุ้นเคยของประเทศนั้น ๆ ถือเป็นเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดในการเลือกจุดหมายปลายทาง

เงินเฟ้อทำคนไม่อยากเดินทาง

อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจพบว่า นักท่องเที่ยวตั้งงบประมาณการเดินทางในปี 2565 สูงกว่าในปี 2564 : ในยุโรป งบประมาณช่วงวันหยุดเทศกาลอยู่ที่ประมาณ 1,800 ยูโร (+220 ยูโร, +14% เมื่อเทียบกับปี 2564) และงบประมาณวันหยุดที่คนไทยตั้งใจจะใช้เพิ่มขึ้นจากปี 2564 โดยเพิ่มขึ้น 18% (62,800 บาท)

ขณะเดียวกัน ผู้คนมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้า ซึ่งส่งผลกระทบในการตัดสินใจที่จะเดินทางในปีนี้ โดย 41% ของชาวยุโรปเลือกไม่เดินทางในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน (+14 จุด เมื่อเทียบกับปี 2564) และ 34% ของคนไทย (+10 จุด)

โควิด-19 ยังส่งผลในการตัดสินใจเดินทาง

รายงานระบุว่า ในภาพรวม ระดับความกังวลของทั่วโลกเกี่ยวกับโควิด-19 ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องแผนการเดินทางและการพักผ่อน โดย 53% ของชาวยุโรปและ 46% ของชาวอเมริกัน เผยว่าโควิด-19 มีผลกระทบต่อความต้องการในการเดินทาง

ในทางตรงกันข้าม โควิด-19 ยังคงมีผลกระทบสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ชาวแคนาดาหรือชาวออสเตรเลีย (60%) และยังคงมีปริมาณสูงในหมู่คนไทย (81%)

สถานการณ์กลับมาเป็นปกติแล้วหรือไม่?

เมื่อถามเกี่ยวกับการกลับสู่ “สภาวะปกติ” ของการเดินทาง แต่ละประเทศมีมุมมองที่แตกต่างกันไป ชาวไทย ออสเตรเลีย และออสเตรียเป็นกลุ่มที่มองว่าสถานการณ์ยังไม่ดีเท่าที่ควร โดยครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศเหล่านี้คิดว่า สถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติได้ในปี 2567 หรือแย่ไปกว่านั้นคือไม่มีวันกลับมาเป็นปกติเลย

ในทางตรงกันข้าม ชาวโปแลนด์ เช็ก หรือสวิสเป็นกลุ่มที่มองโลกในแง่ดีมากที่สุด โดยเกือบ 4 ใน 10 กล่าวว่าสถานการณ์เกือบจะกลับมาเป็นปกติแล้ว

อย่างไรก็ตามโควิด-19 มีผลทำให้นิสัยของผู้คนเปลี่ยนไป ซึ่งหนึ่งในสี่ถึงหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเขาจะทำงานนอกสถานที่และไปพักผ่อนพร้อม ๆ กัน (Workcation หรือการทำงานและเที่ยวไปด้วย) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนไทย (70%)

ทั้งนี้ จากสถานการณ์การเดินทางระหว่างประเทศกลับมาฟื้นตัว ยุโรป แอสซิสแทนซ์ กรุ๊ป ได้เปิดตัวแคมเปญโซเชียลมีเดียในหลายประเทศ เปิดตัววิดีโอที่สร้างจากเรื่องจริงของลูกค้าจำนวน 3 เรื่อง ภายใต้แคมเปญแฮชแท็ก #FromDistressToRelief สามารถติดตามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ : https://www.europ-assistance.com/from-distress-to-relief-international/