เผยเบื้องหลังโลกออนไลน์เเชร์ภาพนักช้อปชาวจีนพยายามฝ่าเจ้าหน้าที่ออกจากห้าง อิเกีย เซี่ยงไฮ้ อย่างเเตกตื่น กลัวถูกกักหลังพบคนติดโควิด
วันที่ 16 สิงหาคม 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ห้างอิเกีย (Ikea) สาขานครเซี่ยงไฮ้ ของจีน มีกำหนดเปิดอีกครั้งวันอังคารที่ 16 ส.ค. หลังจากเกิดเหตุโกลาหลวุ่นวายและมีภาพวิดีโอเผยแพร่ไปทั่วโลกโซเชียล นาทีนักช้อปชาวจีนต่างตื่นตระหนกพยายามจะวิ่งหนีออกจากห้าง เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ส.ค. และเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ที่คอยผลักดันไว้ตรงทางออกประตู
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมืองสั่งให้ห้างต้องปิดตัวทันที เมื่อพบผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีประวัติไปยังสถานที่ดังกล่าว
วิดีโอในโลกโซเชียลเผยให้เห็นลูกค้าที่ต่างพากันตะโกนและผลักกันขณะกำลังพยายามหนีออกจากอาคารให้ทันก่อนที่ประตูจะปิด
ต่อมานายจ้าว ตันตัน รองผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขภาพเซี่ยงไฮ้ เปิดแถลงวันที่ 14 ส.ค. ว่าร้านค้าและพื้นที่ อิเกีย เซี่ยงไฮ้ ที่ได้รับผลกระทบจะอยู่ภายใต้การจัดการแบบปิดเป็นเวลา 2 วัน และผู้ที่อยู่ภายใต้การจัดการแบบปิดนี้จะต้องถูกกักกันไว้ที่สถานบริการของรัฐเป็นเวลา 2 วัน และได้รับการเฝ้าระวังทางสุขภาพ 5 วัน
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. เจ้าหน้าที่ทางด้านสาธารณสุขของเมืองรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 6 รายของเซี่ยงไฮ้ ในจำนวนนี้ 5 รายไม่แสดงอาการ
ขณะที่ทีมสื่อสารในจีนของอิเกีย เผยกับซีเอ็นเอ็นว่า ห้างสรรพสินค้า อิเกีย ในเขตสือฮุ่ย ของเซี่ยงไฮ้ ปิดทำการชั่วคราวในวันที่ 14-15 ส.ค. เพื่อตอบสนองต่อเเนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของทางการจีน และเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 16 ส.ค.
นายจ้าวให้ข้อมูลอีกว่า คำสั่งปิดของห้างอิเกียเเห่งนี้อย่างกะทันหันเกิดขึ้นเนื่องจากพบการติดต่อสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นเด็กชายอายุ 6 ขวบ ที่มีผลตรวจเป็นบวกหลังเดินทางกลับจากเมืองลาซา เมืองเอกของทิเบต มายังเซี่ยงไฮ้ หากแต่ไม่มีการระบุว่าเด็กชายคนดังกล่าวได้เดินทางมาที่ร้านเมื่อเวลาใด
สื่อของจีนระบุว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค. มีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับเด็กชายวัย 6 ขวบ กว่า 400 ราย เเละมีคนราว 80,000 คนได้รับคำสั่งให้เข้ารับการตรวจ RT-PCR
เซี่ยงไฮ้ขยาดล็อกดาวน์
เซี่ยงไฮ้ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจีน มีประชากรอยู่อาศัย 25 ล้านคน ถูกล็อกดาวน์สองเดือน นำไปสู่ความโกรธเคืองของสาธารณชนในวงกว้าง เนื่องจากชาวบ้านรายงานว่ามีปัญหาขาดแคลนของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งรวมถึงอาหารและยา ขณะถูกกักตัวในที่พัก
การล็อกดาวน์ครั้งนั้นถูกกำหนดไว้ภายใต้นโยบายปลอดโควิด หรือ “โควิดเป็นศูนย์” ซึ่งอาศัยการตรวจหาเชื้อจำนวนมาก การกักตัวอย่างเข้มงวด รวมแม้กระทั่งการกักขังปิดเมืองทั้งเมืองเพื่อขจัดไวรัส
รัฐบาลจีนยังได้ใช้ระบบ “คิวอาร์โค้ดสุขภาพ” แบบสีเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของผู้คนและคุมการแพร่กระจายของไวรัส โดยอาศัยเทคโนโลยีในโทรศัพท์มือถือและฐานรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่
ผู้คนในเมืองใหญ่หลายแห่งของจีนต้องแสดงคิวอาร์โค้ดด้านสุขภาพที่เป็นสีเขียว เพื่อที่จะสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะและเข้าสู่สถานที่ต่าง ๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงยิม และร้านอาหาร ซึ่งระบบจะบันทึกที่อยู่ของพวกเขา และไม่ว่าบุคคลใดจะมีความใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยืนยันแล้วหรือไม่ก็ตาม กลุ่มผู้ที่มีรหัสสุขภาพสีแดงจะถูกกักกันจากสถานที่ต่าง ๆ จนแทบจะถูกกักขังในสถานกักกัน
การล็อกดาวน์ชั่วคราวในระยะสั้นอย่างรวดเร็วได้กลายเป็นเรื่องปกติแล้วสำหรับประเทศจีน ขณะที่ประชาชนต่างเริ่มไม่พอใจมากขึ้นต่อกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด เนื่องจากเศรษฐกิจยังต้องดิ้นรนเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการหยุดชะงักมากขึ้นอีก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 80,000 คนติดค้างตามรีสอร์ตบนเกาะไห่หนาน (ไหหลำ) แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม หลังจากที่ทางการประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัส
……..