ควีน เอลิซาเบธ สวรรคต สู่รัชสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

ควีนเอลิซาเบธที่ 2
(FILES) Queen Elizabeth II (Photo by Steve Parsons / POOL / AFP)

สหราชอาณาจักรเข้าสู่รัชสมัย พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 (Charles the III) หลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต ด้วยพระชนมพรรษา 96 พรรษา เมื่อบ่ายวันที่ 8 กันยายน 2565 (ตามเวลาท้องถิ่น) ณ พระราชวังบัลมอรัล ในสกอตแลนด์

เป็นช่วงเวลาที่โศกเศร้าของประชาชนชาวอังกฤษ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 70 ปี หลังการครองราชย์ และนับเป็นพระราชินีนาถที่ทรงครองราชย์นานที่สุดในประวัติศาสตร์

การเปลี่ยนแปลงแรกคือ คำถวายพระพรและเพลงชาติของอังกฤษ เปลี่ยนจาก God Save the Queen เป็น God Save the King

การเปลี่ยนแปลงที่สองคือ ลำดับการสืบสันตติวงศ์ราชวงศ์อังกฤษ ทันทีที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ องค์มกุฎราชกุมาร ผู้ดำรงพระยศ “เจ้าชายแห่งเวลส์” ได้ทรงสืบทอดราชบัลลังก์ เป็นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 (Charles the III) โดยอัตโนมัติ

พร้อมกับการเลื่อนลำดับสืบสันตติวงศ์ ดังนี้

1.เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่สาม จะทรงได้รับการสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศขึ้นเป็นมกุฎราชกุมาร หรือเจ้าชายแห่งเวลส์ พร้อมกับฐานันดรศักดิ์ที่จะทรงได้ครองแทนที่พระราชบิดาโดยอัตโนมัติ คือดยุกแห่งคอร์นวอลล์ ส่วนพระชายาแคเทอรีน จะเป็นดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ แทนที่พระชายาคามิลลา ซึ่งขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีของกษัตริย์พระองค์ใหม่

2.เจ้าชายจอร์จแห่งเคมบริดจ์ ทรงได้รับฐานันดรศักดิ์เป็น เจ้าชายจอร์จ อเล็กซานเดอร์ หลุยส์ แห่งเคมบริดจ์

3.เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเคมบริดจ์ ทรงได้รับฐานันดรศักดิ์เป็น เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเคมบริดจ์ ทั้งยังทรงเป็นรัชทายาทหญิงพระองค์แรกที่รักษาลำดับสืบสันตติวงศ์ไว้ โดยไม่ต้องทรงถูกลดขั้นลงหากมีพระอนุชา ซึ่งเป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล ของสำนักพระราชวังอังกฤษ ในปี 2560 ที่มีการเปลี่ยนแปลงให้เรียงตามลำดับการเกิดของรัชทายาท โดยไม่อิงเพศสภาพ

4.เจ้าชายลูอีส์แห่งเคมบริดจ์ หรือลูอีส์ อาร์เธอร์ ชาร์ลส์ ทรงได้รับฐานันดรศักดิ์เป็น เจ้าชายลูอีส์แห่งเคมบริดจ์

5.เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ โอรสองค์ที่ 2 ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งก่อนหน้านี้มีฐานันดรเป็นดยุกแห่งซัสเซกซ์ แต่เมื่อปี 2563 ทรงประกาศถอนตัวจากการเป็นพระบรมวงศ์

6.เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 2 ของควีนเอลิซาเบธที่ 2 และเป็นเจ้าฟ้าชายพระองค์แรกของราชวงศ์อังกฤษในรอบ 103 ปี ที่ประสูติจากสมเด็จพระราชินีนาถ ในขณะที่ทรงครองราชย์อยู่

7.เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซกซ์ พระราชโอรสองค์สุดท้องของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ขุนนางเป็นเอิร์ลแห่งเวสเซกซ์และไวเคานต์เซเวิร์น หลังทรงเข้าพิธีเสกสมรสกับโซฟี รีส โจนส์ ซึ่งได้รับการสถาปนาเป็นเคาน์เตสส์แห่งเวสเซกซ์

8.เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี พระธิดาของควีนเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อแรกประสูติ ทรงเป็นรัชทายาทลำดับ 3 และได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็น “พระราชกุมารี” (Princess Royal)

การเปลี่ยนแปลงที่ 3 คือ เปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ของราชวงศ์ในสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันต่าง ๆ เช่น ธนบัตรเงินปอนด์สเตอร์ลิง ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ควีน หมุนเวียนอยู่ในตลาดราว 4,500 ล้านใบ มูลค่ารวมกว่า 80,000 ล้านปอนด์ (ราว 3.3 ล้านล้านบาท) น่าจะใช้เวลาราว 2 ปีเปลี่ยนพระบรมฉายาลักษณ์เป็นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ส่วนเหรียญจะใช้เวลานานกว่านั้น

การเปลี่ยนแปลงที่ 4 คือ แสตมป์ ธงชาติ ธงมหาราช เนื้อเพลงชาติ ไปจนถึงคำสาบานตนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บทสวด ตราแผ่นดิน

และที่น่าจะเป็นประเด็นทางการเมืองมากที่สุดคือ การดำรงตำแหน่งประมุขแห่งเครือจักรภพ เนื่องจากอยู่ในกระแสเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญของชาติสมาชิกเครือจักรภพหลายประเทศจาก 14 ประเทศ ที่บางประเทศเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นสาธารณรัฐ และบางประเทศจะจัดทำประชามติ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่า จากนี้ไปอังกฤษจะแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการมาประจำได้เหมือนเดิมหรือไม่

สำหรับพระราชประวัติ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ปัจจุบันมีพระชนมพรรษา 73 พรรษา พระราชสมภพ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 1948 (พ.ศ. 2491) เป็นพระราชโอรสองค์โตของควีนเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป มีพระขนิษฐา 1 พระองค์คือ เจ้าหญิงแอนน์ และพระอนุชา 2 พระองค์คือ เจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด